กรุงเทพฯ--29 ก.พ.--
นายสุธี เตชะธนะวัฒน์ กรรมการสหกรณ์ผู้เลี้ยงไก่ไข่แปดริ้ว เปิดเผยว่าปัจจุบันผู้เลี้ยงไก่ไข่ต้องประสบภาวะขาดทุน จากปัญหาราคาวัตถุดิบที่ใช้เป็นอาหารไก่ไข่พุ่งสูงขึ้นมาก โดยมีต้นทุนการผลิตไข่ไก่อยู่ที่ประมาณฟองละ 2.50 บาท ประกอบกับ สภาพภูมิอากาศที่เปลี่ยนแปลงผิดปกติ เดี๋ยวร้อนเดี๋ยวหนาวทำให้แม่ไก่เครียด และให้ผลผลิตไข่ลดลง ทำให้ผู้เลี้ยงไก่ไข่ทนแบกรับภาวะขาดทุนไม่ไหว ต้องใช้วิธีปลดแม่ไก่แก่ขายเร็วขึ้น
“แม่ไก่ไข่ที่อายุมากให้ไข่ไม่ดกเหมือนแม่ไก่สาว ถ้าปล่อยให้กินอาหารเข้าไปฟรีๆ แต่ไม่ให้ผลผลิตไข่ หรือให้ไข่ได้น้อย ก็จะทำให้ต้นทุนสูงขึ้นมาก ผู้เลี้ยงจึงต้องปลดแม่ไก่เร็วขึ้นกว่าปกติ” นายสุธีกล่าว
ราคาวัตถุดิบอาหารไก่ไข่ที่สำคัญ เช่น ข้าวโพด ราคาสูงถึงกิโลกรัมละเกือบ 9 บาท จากเดิมเมื่อปี 2548 ที่มีราคา 6.36 บาท กากถั่วเหลือง ราคาปรับตัวขึ้นสูงมากถึงกิโลกรัมละ 17 บาท เทียบกับปี 2548 มีราคาเพียงกิโลกรัม 10.30 บาท ปลาป่น จากเดิมเมื่อปี 2548 ราคา 20.00 บาท ขึ้นสูงเป็น 27.10 บาท เป็นต้น
ด้าน นายบุลศิริ สุวรรณชิน กรรมการชมรมผู้เลี้ยงไก่ไข่จังหวัดเชียงใหม่ กล่าวว่า ขอให้รัฐบาลผลักดันโครงการไข่โรงเรียนให้เหมือนกับโครงการนมโรงเรียน เพื่อเป็นการเพิ่มการบริโภคไข่ไก่ เนื่องจากไข่ไก่เป็นอาหารโปรตีนที่ดีที่สุด และราคาถูกที่สุดเมื่อเทียบกับเนื้อปลา, เนื้อหมู, เนื้อไก่ และนม ที่สำคัญไข่ไก่สามารถผลิตได้อย่างเพียงพอภายในประเทศ และสามารถกระจายสู่โรงเรียนต่างๆทั่วประเทศได้โดยง่าย ซึ่งจะส่งผลในการช่วยเหลือเกษตรกรผู้เลี้ยงไก่ไข่ด้วย และหากนายกรัฐมนตรี สมัคร สุนทรเวช จะแนะนำเมนูอาหารที่ทำจากไข่ไก่ผ่านสื่อมวลชนด้วย ก็จะเป็นการช่วยกระตุ้นให้คนไทยบริโภคไข่ไก่เพิ่มขึ้นอีกทางหนึ่ง
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมกรุณาติดต่อ
นายสุธี เตชะธนะวัฒน์ 081-782-2667
นายบุลศิริ สุวรรณชิน 081-951-1758
นายสุธี เตชะธนะวัฒน์ กรรมการสหกรณ์ผู้เลี้ยงไก่ไข่แปดริ้ว เปิดเผยว่าปัจจุบันผู้เลี้ยงไก่ไข่ต้องประสบภาวะขาดทุน จากปัญหาราคาวัตถุดิบที่ใช้เป็นอาหารไก่ไข่พุ่งสูงขึ้นมาก โดยมีต้นทุนการผลิตไข่ไก่อยู่ที่ประมาณฟองละ 2.50 บาท ประกอบกับ สภาพภูมิอากาศที่เปลี่ยนแปลงผิดปกติ เดี๋ยวร้อนเดี๋ยวหนาวทำให้แม่ไก่เครียด และให้ผลผลิตไข่ลดลง ทำให้ผู้เลี้ยงไก่ไข่ทนแบกรับภาวะขาดทุนไม่ไหว ต้องใช้วิธีปลดแม่ไก่แก่ขายเร็วขึ้น
“แม่ไก่ไข่ที่อายุมากให้ไข่ไม่ดกเหมือนแม่ไก่สาว ถ้าปล่อยให้กินอาหารเข้าไปฟรีๆ แต่ไม่ให้ผลผลิตไข่ หรือให้ไข่ได้น้อย ก็จะทำให้ต้นทุนสูงขึ้นมาก ผู้เลี้ยงจึงต้องปลดแม่ไก่เร็วขึ้นกว่าปกติ” นายสุธีกล่าว
ราคาวัตถุดิบอาหารไก่ไข่ที่สำคัญ เช่น ข้าวโพด ราคาสูงถึงกิโลกรัมละเกือบ 9 บาท จากเดิมเมื่อปี 2548 ที่มีราคา 6.36 บาท กากถั่วเหลือง ราคาปรับตัวขึ้นสูงมากถึงกิโลกรัมละ 17 บาท เทียบกับปี 2548 มีราคาเพียงกิโลกรัม 10.30 บาท ปลาป่น จากเดิมเมื่อปี 2548 ราคา 20.00 บาท ขึ้นสูงเป็น 27.10 บาท เป็นต้น
ด้าน นายบุลศิริ สุวรรณชิน กรรมการชมรมผู้เลี้ยงไก่ไข่จังหวัดเชียงใหม่ กล่าวว่า ขอให้รัฐบาลผลักดันโครงการไข่โรงเรียนให้เหมือนกับโครงการนมโรงเรียน เพื่อเป็นการเพิ่มการบริโภคไข่ไก่ เนื่องจากไข่ไก่เป็นอาหารโปรตีนที่ดีที่สุด และราคาถูกที่สุดเมื่อเทียบกับเนื้อปลา, เนื้อหมู, เนื้อไก่ และนม ที่สำคัญไข่ไก่สามารถผลิตได้อย่างเพียงพอภายในประเทศ และสามารถกระจายสู่โรงเรียนต่างๆทั่วประเทศได้โดยง่าย ซึ่งจะส่งผลในการช่วยเหลือเกษตรกรผู้เลี้ยงไก่ไข่ด้วย และหากนายกรัฐมนตรี สมัคร สุนทรเวช จะแนะนำเมนูอาหารที่ทำจากไข่ไก่ผ่านสื่อมวลชนด้วย ก็จะเป็นการช่วยกระตุ้นให้คนไทยบริโภคไข่ไก่เพิ่มขึ้นอีกทางหนึ่ง
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมกรุณาติดต่อ
นายสุธี เตชะธนะวัฒน์ 081-782-2667
นายบุลศิริ สุวรรณชิน 081-951-1758