กรุงเทพฯ--25 มี.ค.--ธ.ก.ส.
11 องค์กรภาครัฐและเอกชนผนึกกำลัง ปลุกกระแสอนุรักษ์เพื่อแก้ไขปัญหาภาวะโลกร้อน จัดกิจกรรมปลูกป่าชายเลนเฉลิมพระเกียรติสุดยิ่งใหญ่บนพื้นที่กว่า 7,000 ไร่ที่จังหวัดสมุทรสาครวันนี้ (22 มีนาคม 2551) ที่นิคมสหกรณ์โคกขาม ตำบลโคกขาม อำเภอเมือง จังหวัดสมุทรสาคร พลเอกพิจิตร กุลละวณิชย์ องคมนตรี เป็นประธานในพิธีการรวมพลังปลูกป่าชายเลนเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ระหว่าง 11 องค์กรภาครัฐและเอกชนร่วมกับชุมชนในท้องถิ่น ทั้งนี้ เพื่อร่วมฟื้นฟูและอนุรักษ์ป่าชายเลนที่ถูกทำลายให้กลับคืนสู่ความอุดมสมบูรณ์ และป้องกันภัยพิบัติที่เกิดจากปัญหาภาวะโลกร้อนหลังเสร็จสิ้นพิธีนายธีรพงษ์ ตั้งธีระสุนันท์ ผู้จัดการธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) เปิดเผยว่า ปัจจุบันพื้นที่ตามแนวชายฝั่งทะเลหลายแห่งของประเทศไทยถูกคลื่นลมและกระแสน้ำพัดเข้าหาชายฝั่งอย่างรุนแรง เกิดการกัดเซาะพังทลายโดยเฉพาะพื้นที่ป่าชายเลนที่เป็นห่วงโซ่อาหารที่สำคัญถูกทำลายเสียหายไปเป็นจำนวนมาก ส่งผลให้ปริมาณสัตว์น้ำตามธรรมชาติที่เคยอุดมสมบูรณ์ลดจำนวนลงอย่างน่าใจหายจากสภาพปัญหาที่เกิดขึ้นดังกล่าวจำเป็นอย่างยิ่งที่ทุกๆ คนจะต้องร่วมกันผลักดันและร่วมมือกันฟื้นฟูสภาพแวดล้อมให้กลับคืนมา ด้วยเหตุนี้องค์กรจากภาครัฐและเอกชน ประกอบด้วย ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง ธนาคารออมสิน ธนาคารอาคารสงเคราะห์ ธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย ธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย ธนาคารอิสลามแห่งประเทศไทย บรรษัทประกันสินเชื่ออุตสาหกรรมขนาดย่อม บรรษัทตลาดรองสินเชื่อที่อยู่อาศัย บมจ.ธนาคารกรุงไทย และธนาคารสแตนดาร์ดชาร์เตอร์ จึงร่วมจัดกิจกรรมปลูกป่าชายเลนเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ณ พื้นที่ตำบลบางหญ้าแพรก ตำบลโคกขาม และตำบลพันท้ายนรสิงห์ อำเภอเมือง จังหวัดสมุทรสาคร จำนวนพื้นที่ 7,343 ไร่ โดยในเบื้องต้นจะนำร่องปลูกป่าชายเลนบนพื้นที่ 130 ไร่ บริเวณตำบลโคกขาม จากนั้นจะประสานความร่วมมือกับชุมชนตลอดจนโรงเรียนในท้องถิ่นเพื่อปลูกป่าให้ครบตามเป้าหมายต่อไป
นายธีรพงษ์กล่าวอีกว่า การจัดกิจกรรมดังกล่าวนอกจากเป็นการเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวในฐานะพระบิดาแห่งการอนุรักษ์แล้ว ยังเป็นการฟื้นฟูป่าชายเลนให้กลับคืนสู่ความสมบูรณ์เพื่อเป็นแหล่งเพาะพันธุ์และอนุบาลสัตว์น้ำวัยอ่อน เป็นแหล่งที่อยู่อาศัยของสัตว์น้ำ เช่น กุ้ง หอย ปลา นกทะเล และเป็นการสร้างแนวกำบังคลื่นลมทางธรรมชาติเพื่อป้องกันการกัดเซาะและทำลายแนวชายฝั่งทะเลแต่ที่สำคัญที่สุดก็คือการปลุกจิตสำนึกให้ทุกองค์กรตลอดจนชุมชนและเยาวชนในพื้นที่ให้มีความรู้ความเข้าใจในเรื่องการอนุรักษ์ธรรมชาติ และพร้อมที่จะปกป้องดูแลเพื่อให้ธรรมชาติคงอยู่อย่างยั่งยืน เพื่อป้องกันและบรรเทาปัญหาภาวะโลกร้อนที่กำลังส่งผลกระทบต่อทุกคนในขณะนี้
11 องค์กรภาครัฐและเอกชนผนึกกำลัง ปลุกกระแสอนุรักษ์เพื่อแก้ไขปัญหาภาวะโลกร้อน จัดกิจกรรมปลูกป่าชายเลนเฉลิมพระเกียรติสุดยิ่งใหญ่บนพื้นที่กว่า 7,000 ไร่ที่จังหวัดสมุทรสาครวันนี้ (22 มีนาคม 2551) ที่นิคมสหกรณ์โคกขาม ตำบลโคกขาม อำเภอเมือง จังหวัดสมุทรสาคร พลเอกพิจิตร กุลละวณิชย์ องคมนตรี เป็นประธานในพิธีการรวมพลังปลูกป่าชายเลนเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ระหว่าง 11 องค์กรภาครัฐและเอกชนร่วมกับชุมชนในท้องถิ่น ทั้งนี้ เพื่อร่วมฟื้นฟูและอนุรักษ์ป่าชายเลนที่ถูกทำลายให้กลับคืนสู่ความอุดมสมบูรณ์ และป้องกันภัยพิบัติที่เกิดจากปัญหาภาวะโลกร้อนหลังเสร็จสิ้นพิธีนายธีรพงษ์ ตั้งธีระสุนันท์ ผู้จัดการธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) เปิดเผยว่า ปัจจุบันพื้นที่ตามแนวชายฝั่งทะเลหลายแห่งของประเทศไทยถูกคลื่นลมและกระแสน้ำพัดเข้าหาชายฝั่งอย่างรุนแรง เกิดการกัดเซาะพังทลายโดยเฉพาะพื้นที่ป่าชายเลนที่เป็นห่วงโซ่อาหารที่สำคัญถูกทำลายเสียหายไปเป็นจำนวนมาก ส่งผลให้ปริมาณสัตว์น้ำตามธรรมชาติที่เคยอุดมสมบูรณ์ลดจำนวนลงอย่างน่าใจหายจากสภาพปัญหาที่เกิดขึ้นดังกล่าวจำเป็นอย่างยิ่งที่ทุกๆ คนจะต้องร่วมกันผลักดันและร่วมมือกันฟื้นฟูสภาพแวดล้อมให้กลับคืนมา ด้วยเหตุนี้องค์กรจากภาครัฐและเอกชน ประกอบด้วย ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง ธนาคารออมสิน ธนาคารอาคารสงเคราะห์ ธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย ธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย ธนาคารอิสลามแห่งประเทศไทย บรรษัทประกันสินเชื่ออุตสาหกรรมขนาดย่อม บรรษัทตลาดรองสินเชื่อที่อยู่อาศัย บมจ.ธนาคารกรุงไทย และธนาคารสแตนดาร์ดชาร์เตอร์ จึงร่วมจัดกิจกรรมปลูกป่าชายเลนเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ณ พื้นที่ตำบลบางหญ้าแพรก ตำบลโคกขาม และตำบลพันท้ายนรสิงห์ อำเภอเมือง จังหวัดสมุทรสาคร จำนวนพื้นที่ 7,343 ไร่ โดยในเบื้องต้นจะนำร่องปลูกป่าชายเลนบนพื้นที่ 130 ไร่ บริเวณตำบลโคกขาม จากนั้นจะประสานความร่วมมือกับชุมชนตลอดจนโรงเรียนในท้องถิ่นเพื่อปลูกป่าให้ครบตามเป้าหมายต่อไป
นายธีรพงษ์กล่าวอีกว่า การจัดกิจกรรมดังกล่าวนอกจากเป็นการเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวในฐานะพระบิดาแห่งการอนุรักษ์แล้ว ยังเป็นการฟื้นฟูป่าชายเลนให้กลับคืนสู่ความสมบูรณ์เพื่อเป็นแหล่งเพาะพันธุ์และอนุบาลสัตว์น้ำวัยอ่อน เป็นแหล่งที่อยู่อาศัยของสัตว์น้ำ เช่น กุ้ง หอย ปลา นกทะเล และเป็นการสร้างแนวกำบังคลื่นลมทางธรรมชาติเพื่อป้องกันการกัดเซาะและทำลายแนวชายฝั่งทะเลแต่ที่สำคัญที่สุดก็คือการปลุกจิตสำนึกให้ทุกองค์กรตลอดจนชุมชนและเยาวชนในพื้นที่ให้มีความรู้ความเข้าใจในเรื่องการอนุรักษ์ธรรมชาติ และพร้อมที่จะปกป้องดูแลเพื่อให้ธรรมชาติคงอยู่อย่างยั่งยืน เพื่อป้องกันและบรรเทาปัญหาภาวะโลกร้อนที่กำลังส่งผลกระทบต่อทุกคนในขณะนี้