กรุงเทพฯ--21 เม.ย.--ก.ส.ล.
นายชัยพัฒน์ สหัสกุล เลขาธิการ ก.ส.ล. แนะผู้ส่งออกซื้อขายข้าวล่วงหน้าใน AFET บริหารความเสี่ยงจากความผันผวนของราคา ลดปัญหาขาดสภาพคล่อง ชี้ผลดีต่อระบบข้าวโดยรวม
ตามที่ปรากฎเป็นข่าวในหน้าหนังสือพิมพ์ช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา เกี่ยวกับประเด็นที่ผู้ส่งออก ไม่รับคำสั่งซื้อข้าวล่วงหน้าจากลูกค้า โดยจะรอจนกว่ามีข้าวอยู่ในสต็อกพร้อมส่งออกก่อน เพื่อลดความเสี่ยงจากความผันผวนของราคาข้าวที่มีสูงในช่วงนี้นั้น
นายชัยพัฒน์ สหัสกุล เลขาธิการคณะกรรมการกำกับการซื้อขายสินค้าเกษตรล่วงหน้า (ก.ส.ล.) ได้ให้ความเห็นว่า "ในสภาวการณ์ที่ราคาข้าวมีความผันผวนสูงเช่นนี้ ผู้ส่งออกข้าวก็มีช่องทางลดความเสี่ยงโดยควรเข้ามาซื้อข้าวล่วงหน้าในตลาดสินค้าเกษตรล่วงหน้าแห่งประเทศไทย (AFET) ไว้ก่อนก็จะสามารถกำหนดต้นทุนที่แน่นอนได้ และสามารถรับคำสั่งซื้อกับลูกค้าในต่างประเทศในราคาที่มีกำไรได้ เมื่อเป็นเช่นนี้ผู้ส่งออกข้าวก็ไม่จำเป็นต้องรอให้มีข้าวในสต็อกเสียก่อนจึงจะรับคำสั่งซื้อได้ ทำให้ผู้ส่งออกสามารถค้าข้าวได้อย่างคล่องตัว และคำนวณกำไรล่วงหน้าได้แน่นอนขึ้น"
นายชัยพัฒน์ กล่าวทิ้งท้ายว่า "การซื้อขายข้าวล่วงหน้าใน AFET นอกจากจะช่วยให้ผู้ส่งออกบริหารความเสี่ยงด้านราคาได้แล้ว ยังสร้างความมั่นใจว่าจะไม่มีการบิดพลิ้วสัญญาหรือการซื้อขาย ที่เอารัดเอาเปรียบกัน เนื่องจาก AFET มีข้อกำหนดการซื้อขายที่ชัดเจนทั้งในเรื่องการวางเงินประกันและการรับมอบส่งมอบ รวมถึงมี ก.ส.ล. คอยคุ้มครองให้ทุกฝ่ายได้รับความเป็นธรรมด้วย"
นายชัยพัฒน์ สหัสกุล เลขาธิการ ก.ส.ล. แนะผู้ส่งออกซื้อขายข้าวล่วงหน้าใน AFET บริหารความเสี่ยงจากความผันผวนของราคา ลดปัญหาขาดสภาพคล่อง ชี้ผลดีต่อระบบข้าวโดยรวม
ตามที่ปรากฎเป็นข่าวในหน้าหนังสือพิมพ์ช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา เกี่ยวกับประเด็นที่ผู้ส่งออก ไม่รับคำสั่งซื้อข้าวล่วงหน้าจากลูกค้า โดยจะรอจนกว่ามีข้าวอยู่ในสต็อกพร้อมส่งออกก่อน เพื่อลดความเสี่ยงจากความผันผวนของราคาข้าวที่มีสูงในช่วงนี้นั้น
นายชัยพัฒน์ สหัสกุล เลขาธิการคณะกรรมการกำกับการซื้อขายสินค้าเกษตรล่วงหน้า (ก.ส.ล.) ได้ให้ความเห็นว่า "ในสภาวการณ์ที่ราคาข้าวมีความผันผวนสูงเช่นนี้ ผู้ส่งออกข้าวก็มีช่องทางลดความเสี่ยงโดยควรเข้ามาซื้อข้าวล่วงหน้าในตลาดสินค้าเกษตรล่วงหน้าแห่งประเทศไทย (AFET) ไว้ก่อนก็จะสามารถกำหนดต้นทุนที่แน่นอนได้ และสามารถรับคำสั่งซื้อกับลูกค้าในต่างประเทศในราคาที่มีกำไรได้ เมื่อเป็นเช่นนี้ผู้ส่งออกข้าวก็ไม่จำเป็นต้องรอให้มีข้าวในสต็อกเสียก่อนจึงจะรับคำสั่งซื้อได้ ทำให้ผู้ส่งออกสามารถค้าข้าวได้อย่างคล่องตัว และคำนวณกำไรล่วงหน้าได้แน่นอนขึ้น"
นายชัยพัฒน์ กล่าวทิ้งท้ายว่า "การซื้อขายข้าวล่วงหน้าใน AFET นอกจากจะช่วยให้ผู้ส่งออกบริหารความเสี่ยงด้านราคาได้แล้ว ยังสร้างความมั่นใจว่าจะไม่มีการบิดพลิ้วสัญญาหรือการซื้อขาย ที่เอารัดเอาเปรียบกัน เนื่องจาก AFET มีข้อกำหนดการซื้อขายที่ชัดเจนทั้งในเรื่องการวางเงินประกันและการรับมอบส่งมอบ รวมถึงมี ก.ส.ล. คอยคุ้มครองให้ทุกฝ่ายได้รับความเป็นธรรมด้วย"