ศูนย์ประมวลวิเคราะห์สถานการณ์น้ำ กรมชลประทาน เปิดเผยถึงสถานการณ์น้ำในอ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่และขนาดกลางว่า มีปริมาตรน้ำรวมกันทั้งหมด 43,705 ล้านลูกบาศก์เมตร คิดเป็นร้อยละ 59 ของความจุอ่างทั้งหมด โดยเขื่อนภูมิพล จ.ตาก มีปริมาตรน้ำในอ่าง 5,740 ลูกบาศก์เมตร คิดเป็นร้อยละ 43 ของความจุอ่างทั้งหมด เขื่อนสิริกิติ์ จ.อุตรดิตถ์ มีปริมาตรน้ำในอ่าง 4,040 ล้านลูกบาศก์เมตร คิดเป็นร้อยละ 42 ของความจุอ่างทั้งหมด และสถานการณ์น้ำในอ่างยังลดลงเรื่อยๆ
ในส่วนของการปลูกพืชในฤดูแล้งปี 52/53 นั้น ได้กำหนดพื้นที่เพาะปลูกทั้งในและนอกเขตชลประทานไว้ทั้งหมด 12.28 ล้านไร่ แยกเป็นพื้นที่ปลูกข้าวนาปรัง 9.50 ล้านไร่ พืชไร่ พืชผัก 2.78 ล้านไร่ ปัจจุบันมีการเพาะปลูกไปแล้ว 16.35 ล้านไร่ คิดเป็นร้อยละ 133 ของแผนการปลูกพืชในฤดูแล้งทั้งหมด ทั้งนี้ เฉพาะในพื้นที่ลุ่มน้ำเจ้าพระยาได้กำหนดพื้นที่ปลูดพืชฤดูแล้ง ทั้งในและนอกเขตชลประทานไว้ทั้งสิ้น 6.39 ล้านไร่ ขณะนี้มีการปลูกไปแล้ว 9.17 ล้านไร่ คิดเป็นร้อยละ 144 ของแผนการปลูกพืชฤดูแล้งในลุ่มน้ำเจ้าพระยา
สำหรับแผนการจัดสรรน้ำทั่วประเทศที่วางแผนการใช้น้ำจากอ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่และขนาดกลางรวมกันจำนวน 20,720 ล้านลูกบาศก์เมตร ใช้ในกิจกรรมต่างๆ ตามลำดับดังนี้ เพื่อการอุปโภคบริโภค 1,836 ล้านลูกบาศก์เมตร เพื่อการรักษาระบบนิเวศและอื่นๆ 5,539 ล้านลูกบาศก์เมตร เพื่อการเกษตรกรรม 12,176 ล้านลูกบาศก์เมตร และเพื่อการอุตสาหกรรม 169 ล้านลูกบาศก์เมตร ปัจจุบันมีการใช้น้ำไปแล้ว 17,306 ล้านลูกบาศก์เมตร คิดเป็นร้อยละ 84 ของแผนจัดสรรน้ำ ยังเหลือปริมาณน้ำที่ยังใช้ได้ตามแผน 3,414 ล้านลูกบาศก์เมตร คิดเป็นร้อยละ 16
ทั้งนี้ เฉพาะในเขตลุ่มน้ำเจ้าพระยา ซึ่งใช้น้ำจากเขื่อนภูมิพลและเขื่อนสิริกิติ์ รวมกันจำนวน 6,000 ล้านลูกบาศก์เมตร ร่วมกับการใช้น้ำจากเขื่อนแควน้อยบำรุงแดน 400 ล้านลูกบาศก์เมตร เขื่อนป่าสักชลสิทธิ์อีก 600 ล้านลูกบาศก์เมตร และผันน้ำจากลุ่มน้ำแม่กลองอีก 1,000 ล้านลูกบาศก์เมตร รวมเป็นน้ำทั้งสิ้น 8,000 ล้านลูกบาศก์เมตรนั้น ปัจจุบันแม้ว่าแผนการจัดสรรน้ำในลุ่มน้ำเจ้าพระยาจะยังไม่สิ้นสุด และเหลือเวลาอีกกว่า 1 เดือน แต่การใช้น้ำยังคงเพิ่มขึ้นและเกินแผนไปแล้วร้อยละ 5 โดยล่าสุดวันที่ 25 มีนาคม 2553 มีการใช้น้ำไปแล้ว 8,364 ล้านลูกบาศก์เมตร เกินแผนที่กำหนดไว้ 364 ล้านลูกบาศก์เมตร ดังนั้น กรมชลประทานขอยืนยันว่าเกษตรกรต้องงดทำนาปรังครั้งที่ 2 เพื่อลดปริมาณการใช้น้ำสำรองที่ต้องเก็บไว้ใช้ช่วงต้นฤดูฝน หากยังดื้อดึงทำนาปรังครั้งที่ 2 เต็มพื้นที่เหมือนปีที่ผ่านมาจะขาดน้ำแน่นอน
อนึ่ง กรมชลประทานได้เตรียมเครื่องสูบน้ำเพื่อสนับสนุนการใช้น้ำในช่วงฤดูแล้งนี้ 1,200 เครื่อง และรถยนต์บรรทุกน้ำอีก 295 คัน กระจายอยู่ทั่วประเทศ พร้อมจะเข้าไปช่วยเหลือหากได้รับการร้องขอ ปัจจุบันได้ส่งเครื่องสูบน้ำไปช่วยทั่วประเทศแล้ว 689 เครื่อง ในพื้นที่ 40 จังหวัด และรถยนต์บรรทุกน้ำ 8 คัน ใน 2 จังหวัด.