แกงส้มผักรวม
วันแรงงานปีนี้ ขอยกเวทีพื้นที่นี้ให้กับซีอีโอค่าย "ซาบีน่า" เขาเป็นผู้ชายขาย "ยกทรง" ที่น่าจับตามอง ในฐานะ "นาย" ที่ต้องดูแลลูกน้องกว่า 5,000 ชีวิต ของ 4 โรงงานตัดเย็บ ที่ต้องเริ่มตั้งแต่งานต้นน้ำ การออกแบบ ตัด เย็บ และขายในห้าง รวมทั้งส่งออกไปยุโรปกว่าพันล้านบาทต่อปี
ประสบการณ์ชีวิตในต่างแดน สอนให้นักเรียนไทยหลายคนเข้าใจชีวิต ที่สำคัญเข้าใจคนเห็นคุณค่าของคน แปลกแต่จริงว่า ทำไม๊ ทำไม จึงหาประสบการณ์แบบนี้ หาไม่เจอในเมืองไทย อ๋อ..ตอบได้ไม่ยาก วัฒนธรรมต่างกัน สังคมต่างกัน จึงหลอมคนออกมาไม่เหมือนกัน พอมีเยี่ยงดีๆ กลับไม่นำมาใช้กัน เลียนแบบแต่อะไรก็ไม่รู้ ฟังแล้วเป็นห่วงคนรุ่นลูกหลานเสียจริงเชียว
คุณบุญชัย ปัณฑุรอัมพร เคยเข้ามาร่วมงานกับซาบีน่า เมื่อครั้งหนุ่มรุ่นกระทง แล้วออกไปหาประสบการณ์กับสินค้าส่งออก จนผู้ถือหุ้น-เจ้าของบริษัท... คุณวิโรจน์ ธนาลงกรณ์ ชวนกลับมาทำงานอีกรอบ คราวนี้อยู่ยาว 15 ปี มาแล้ว จนก้าวขึ้นเป็นผู้บริหารมืออาชีพของกิจการที่เดินเข้าตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ตามวิสัยทัศน์มองการณ์ไกลของคุณวิโรจน์ คือบริษัท ซาบีน่า จำกัด (มหาชน)
เขาเป็นลูกคนเล็กสุดของบ้าน ที่มีพี่ๆ 10 คน แต่ไม่ได้ถูกเลี้ยงดูอย่างตามใจ ลูกคนจีนถูกสอนให้ขยัน สู้งาน เมื่อคราวไปใช้ชีวิตอยู่ที่โอไฮโอ 5 ปี ทำงานร้านอาหารจีนที่มีเจ้าของเป็นคนเกาหลีที่เอ็นดูเด็กไทยคนนี้มาก รักเหมือนลูก เขาจึงเรียนรู้ว่าการถูกรัก สร้างความสุขให้ทั้งผู้ที่รักและถูกรักได้อย่างยากเกินคำอธิบาย
ศาสตร์ที่เรียนรู้ สัมผัสได้ คือ การดูแลคนรอบข้าง จนกลายเป็นบุคลิกที่อ่อนโยน อบอุ่น ยิ่งกว่าตำราการบริหารเล่มใดๆ ที่จะทำให้ทุกงานก้าวอย่างมั่นคง บรรลุเป้าหมาย
ตื่นนอนในเช้าตรู่ ใกล้ตีสี่ ในคืนที่เข้านอนแต่หัวค่ำ เมื่อสมองได้พักเต็มที่ ความแจ่มๆ ไอเดียเรื่องงานเจ๋งๆ ก็เกิดขึ้นได้ รีบลุกขึ้นมาโน้ตไว้กับโน้ตบุ๊คส์หรือเขียนไว้ในมือถือ เมื่อจะนำมาใช้งานต่อก็สะดวก ต่อเรื่องได้ทันที
อาหารเช้า เป็นข้าวต้มข้าวกล้อง ผัดผัก โปรตีนบ้านนี้เน้นปลา ภรรยาจะจัดการให้ น้องกิม-ลูกชายคนเดียว กินอาหารเช้า เป็นมื้อสำคัญของร่างกายที่ต้องใช้งานไปตลอดวัน เหมือนรถที่ต้องเติมน้ำมันก่อนออกวิ่ง ทุกคนในบ้านจึงติดการกินมื้อเช้า ส่วนมื้อเย็นจึงจะเป็นมื้อเบาที่ช่วยรักษาหุ่น รักษาสุขภาพ
ออกจากบ้าน ตอนหกโมงครึ่ง ขับรถไปส่งลูกชายเองทุกเช้า จะติดก็ให้คิดซะว่า เราจะได้มีเวลาคุยกันได้หลายเรื่อง
เมื่อคุยถึง "น้องกิม" วัย 13 เป็นความภูมิใจของคุณพ่อมาก ที่ได้วางแผนชีวิตไว้ให้ลูกอย่างมีระบบ เขาทำงานคลุกคลีกับฝรั่งชาวต่างชาติ จึงรู้ดีว่าโลกแห่งอนาคตเด็กยุคนี้ต้องเตรียมตัวพร้อมในเรื่องใด "ภาษา" อังกฤษ จีน ญี่ปุ่น เกาหลี สำคัญกับการใช้งานสื่อสาร เป็นซอฟต์แวร์ที่จะติดตัวเขาไปได้ คุณพ่อจึงใกล้ชิด อธิบายปรากฏการณ์ของสังคมอย่างมีเหตุผล
ลูกชายถามพ่อ ช่วงสงกรานต์ที่ผ่านมาว่า คนไทยดูเครียดจังเลย การเมืองทำไมมีอิทธิพลกับเรามากมายเพียงนี้ เราอยู่เฉยๆ ไม่ต้องไปสนใจได้ไหม แล้วการเมืองจะมาเกี่ยวกับเรายังไง
โอโฮ้...ยังงี้ต้องอธิบายความยาวเชียวล่ะคุณเอ๋ย...ยกตัวอย่างในหมู่บ้านเรา ต้องมีระบบตัวแทนมาทำงาน บางงานที่เราทำไม่ได้หรือไม่ใช่อาชีพเรา อย่างยาม-รปภ. ขยะ ไฟฟ้า น้ำประปา แล้วถ้าทุกคนไม่ทำหน้าที่ตัวเอง ปล่อยให้มีขโมยเข้าบ้านเราหรือเพื่อนบ้าน อย่างเนี่ยะ เราต้องสนใจเรื่องส่วนรวมไหมล่ะครับลูก ...เขาเก็ตเชียวล่ะ การเมืองภาคเด็กๆ จึงเป็นเรื่องที่พวกเขาควรต้องเรียนรู้
เรื่องดีอีกเรื่องที่อยากเล่า คือการที่ภรรยาใฝ่ธรรมะ พาธรรมะเข้าบ้าน ลูกสวดมนต์นั่งสมาธิทุกคืนก่อนนอน บ้านนี้กลายเป็นพ่อที่ติดลูก งานอื่นๆ จะเพลาลง โดยมีลูกเป็นตัวตั้ง
ถึงออฟฟิศก่อนแปดโมงครึ่งทุกเช้า จัดวางตัวเองตามปฏิทินงานบนโต๊ะ ที่แสดงด้วยสีเป็นสัญลักษณ์ที่รู้เองว่า สีแดงเป็นนัดลูกค้า สีน้ำเงินเป็นการประชุม และสีดำเป็นงานส่วนตัว
เครื่องดื่มประจำตัว คือชาร้อน ทุกรสชาติของสมุนไพรที่มักจะได้รับเป็นของฝาก
มื้อกลางวันเป็นอาหารจานเดียว ง่ายๆ อย่างกะเพรา และต้องจัดเวลากินข้าวกับลูกน้องกับกรรมการกับซัพพลายเออร์ มีเวลาแลกเปลี่ยนมุมคิดต่างๆ ทำให้ทุกงานราบรื่น
กับลูกค้าต้องหรูหรานิดหน่อย เป็นการเอนเตอร์เทนที่เป็นมิตรภาพที่ดีต่อกัน บินไปเยี่ยมเขาบ้าง เขาบินมาเมืองไทยบ้าง เหมือนเพื่อนกันมากกว่า จัดเวลาเดินทางไว้ราว 6-7 ทริปต่อปี มาพักหลังๆ อาจจะต้องบินบางประเทศที่ต้องการไปเปิดตลาดสร้างแบรนด์จริงจัง อย่างมาเลเซียจะบินไปบ่อยในรอบปีที่ผ่านมา
ถามเรื่องการทำอาหาร ชอบครับ เคยทำงานร้านอาหารมาก่อน สบายมาก แต่หลังๆ เรื่องกินเรื่องเล็ก ฝีมือที่ยังอร่อยแบบมั่นใจ คือ ข้าวมันไก่ ราดหน้า ข้าวขาหมู เปิดร้านเมื่อไหร่ แม่ช้อยหรือคุณชายต้องมาชิมแน่นอน
อาหารเมนูโปรดเป็นจานประจำตัว...แกงส้มผักรวม เพราะรู้ดีว่ามีวิตามินซีมาก จากส้มมะขาม เข้าร้านอาหารเป็นต้องสั่ง อร่อยทุกร้านแหละครับ
ออกกำลังกายด้วยการเดิน และได้เหงื่อ เดินหลังอาหารเย็นราว 40 นาที ให้ได้ 3 วันต่อสัปดาห์ วันหยุดจะไปที่สวนเบญจสิริหรือสวนลุมพินี
ติดตามข่าวบ้านเมืองจากอินเทอร์เน็ตและหนังสือพิมพ์อีก 3-4 ฉบับ ไทยรัฐ ไทยโพสต์ กรุงเทพธุรกิจ และโพสต์ทูเดย์
จัดเวลาเพื่อไปงานสังคม ประเภทงานศพ งานแต่งงาน เพราะเข้าใจความรู้สึกของลูกน้องและความเป็นฐานะของ "เจ้านาย"
ชอบงานอดิเรกชิ้นใหม่ของตัวเอง คืองานเขียนหนังสือที่กลั่นออกมาจากประสบการณ์ ของจริงอิงเหตุการณ์สดๆ ของบ้านเมือง อ่านเพลิน และน่าจะเป็นประโยชน์ต่อคนไทยด้วยกันบ้าง
ซีอีโอหนุ่มคนนี้ดูว่าจะครบเครื่อง พึ่งได้ ในยามที่สังคมน้ำใจแล้งลง จึงขอยกตำแหน่ง "นายจ้างดีเด่น" ให้พร้อมเสียงเฮของลูกน้องอีกนับพัน ข้อสำคัญโรงงานนี้ไม่มียกพวกมาปิดล้อมอย่างแน่นอน อิ อิ.....
ดาวเต็มฟ้า
---------------------------------------------------------