ทุ่ม150ล้านแก้ปัญหาบึงสีไฟแล้งขั้นวิกฤติ

ข่าวเศรษฐกิจ Tuesday June 8, 2010 00:00 —องค์การสะพานปลา

กรมทรัพยากรน้ำเตรียมทุ่ม 150 ล้านแก้ปัญหาบึงสีไฟ แหล่งน้ำจืดขนาดใหญ่ พื้นที่กว่า 5 พันไร่ ใหญ่อันดับ 3 ของประเทศ เป็นพื้นที่ชุ่มน้ำที่มีความสำคัญระดับนานาชาติ เกิดวิกฤติน้ำแห้งขอดอย่างที่ไม่เคยปรากฏมาก่อนในรอบ 16 ปี กระทบระบบนิเวศแหล่งเพาะพันธุ์ปลาน้ำจืด รวมถึงน้ำเพื่อการเกษตรและการท่องเที่ยว
นายอนันต์ พรหมดนตรี ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม จ.พิจิตร เปิดเผยว่า ขณะนี้ จ.พิจิตร เกิดภัยแล้ง 12 อำเภอ 69 ตำบล เป็นภัยแล้งยาวนานกว่าทุกปีที่ผ่านมา ส่งผลให้บึงสีไฟซึ่งเป็นพื้นที่ชุมน้ำที่มีความสำคัญระดับนานาชาติ เป็นบึงน้ำจืดขนาดใหญ่อันดับ 3 ของประเทศไทย และเป็นแหล่งเพาะพันธุ์ปลาน้ำจืดที่สำคัญของประเทศเกิดวิกฤติน้ำแห้งขอด ปริมาณน้ำลดลงต่ำ มีปริมาณเพียง 30 เปอร์เซ็นต์ จากระดับน้ำที่เคยมีในพื้นที่ 5,200 ไร่ จนมองเห็นโคลนตม และระดับน้ำเหลือสูงเพียงเหนือหัวเข่าจนสามารถเดินไปมาในบึงสีไฟได้ อีกทั้งสภาพน้ำมีสีขุ่นแดง
"ยอมรับว่าขณะนี้ส่งผลกระทบต่อระบบนิเวศทั้งฝูงปลาและดอกบัวที่อยู่กลางบึง ต่างเริ่มแห้งเหี่ยวตายจนแทบไม่เหลือความอุดมสมบูรณ์อยู่เลย กระทบถึงด้านการท่องเที่ยว โดยเฉพาะธุรกิจเรือถีบที่มีนักเที่ยวเคยมาถีบเล่นไปตามบึงสีไฟ ก็ไม่สามารถลอยเรือถีบเล่นได้เหมือนเช่นเคย" นายอนันต์กล่าว
ปัญหาที่ได้รับผลกระทบแบ่งเป็น 3 ด้านคือ 1.ด้านการประมง สัตว์น้ำ 2.ความหลากหลายของพืชน้ำ แต่ทั้ง 2 ด้านนี้เมื่อเข้าสู่ฤดูฝน หรือมีน้ำเข้าสู่บึงสีไฟก็สามารถฟื้นฟูได้ 3.ปัญหาเมื่อน้ำลด ชาวบ้านก็จะบุกรุกไปทำคันนาปลูกข้าว, ทำนาบัว ซึ่งเป็นการบุกรุกบึงสีไฟ ซึ่งขณะนี้ได้มีการสั่งห้ามบุกรุกอย่างเด็ดขาดแล้ว
จากปัญหาวิกฤติภาวะโลกร้อน ภัยแล้งของบึงสีไฟพิจิตรขณะนี้ พล.ต.สนั่น ขจรประศาสน์ รองนายกรัฐมนตรี และเป็นผู้แทนราษฎรของจังหวัดพิจิตร ได้ผลักดันงบประมาณมา 150 ล้านบาท อยู่ในความดูแลของกรมทรัพยากรน้ำ ซึ่งอยู่ในระหว่างสำรวจออกแบบเพื่อขุดลอกบึงสีไฟเอาดินไปทิ้งในที่สาธารณประโยชน์ของทางราชการ ซึ่งอาจเริ่มดำเนินการได้ในปีงบประมาณ 2554 ส่วนถนนรอบบึงสีไฟระยะทาง 12 กม. ทางหลวงชนบทก็ได้งบประมาณมา 60 ล้านบาท ซึ่งอยู่ระหว่างการออกแบบร่วมกันกับกรมทรัพยากรน้ำ เพื่อวางระบบให้บึงสีไฟสมบรูณ์แบบ เป็นพื้นที่ชุ่มน้ำที่มีความสำคัญระดับนานาชาติ ให้เป็นแหล่งน้ำเพื่อเพาะขยายพันธุ์ปลาและพืชน้ำ รักษาสมดุลระบบนิเวศ ให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวตามธรรมชาติที่สวยงามตามคำขวัญของ จ.พิจิตร ที่ว่า "บึงสีไฟลือเลื่อง ตำนานเมืองชาละวัน" สืบต่อตลอดไป.

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ