นายฉลอง เทพวิทักษ์กิจ รองอธิบดีกรมพัฒนาที่ดิน เปิดเผยว่า ประเทศไทยมีพื้นที่ทำการเกษตรรวม 131 ล้านไร่ ซึ่งพื้นที่เหล่านี้มีปัญหาดินต่างๆ กระจายอยู่ทั่วทุกภาค ส่งผลกระทบกับการประกอบอาชีพของเกษตรกร จากการสำรวจพบว่าสามารถแยกออกเป็นปัญหาดินกรดมากถึง 143.94 ล้านไร่ ดินตื้น 43.36 ล้านไร่ ดินเค็ม 14.39 ล้านไร่ ดินทราย 12.76 ล้านไร่ ดินเปรี้ยวจัด 5.51 ล้านไร่ และยังมีดินอินทรีย์อีกกว่า 2 แสนไร่
ที่ผ่านมากรมได้ปรับปรุงดินปัญหามาอย่างต่อเนื่อง โดยในปีงบประมาณ 2554 ได้เตรียมงบประมาณไว้ 300 ล้านทำโครงการปรับปรุงดินปัญหา ตั้งเป้าดำเนินการในพื้นที่ 190,250 ไร่ แบ่งเป็น 3 กิจกรรมหลักๆ ได้แก่ 1.ปรับปรุงดินเปรี้ยว 58,000 ไร่ ดำเนินการในพื้นที่ปลูกข้าวและสวนส้มร้าง เพื่อพัฒนาเป็นพื้นที่ปลูกปาล์มน้ำมันและปลูกข้าวไร่นาสวนผสม เป้าหมายอยู่ในภาคกลางและภาคใต้ 2.ปรับปรุงดินกรดในพื้นที่ปลูกไม้ผลในภาคตะวันออก ภาคใต้และภาคเหนือ 80,000 ไร่ 3.การปรับปรุงดินเค็มในพื้นที่ปลูกข้าวภาคตะวันออกเฉียงเหนือ รวมพื้นที่ดำเนินการ 52,250 ไร่
"การปรับปรุงดินในพื้นที่เกษตรนั้นเป็นกิจกรรมที่กรมให้ความสำคัญในอันดับต้นๆ เนื่องจากเป็นปัจจัยพื้นฐานในการผลิตของภาคเกษตร ถ้าดินมีปัญหาก็ย่อมส่งผลต่อการเพาะปลูก ถ้าดินเลวเพาะปลูกไม่ได้ผล ก็เป็นอีกสาเหตุหนึ่งที่ทำให้เกษตรบุกรุกแผ้วถางป่าเพื่อทำไร่เลื่อนลอย การแก้ปัญหาดินให้เกษตรกรคือ สิ่งที่จะทำให้เกิดการใช้ประโยชน์ที่ดินได้อย่างมีประสิทธิภาพ ช่วยลดปัญหาการละทิ้งที่ดินทำกินให้รกร้างว่างเปล่าได้อย่างยั่งยืน" นายฉลองกล่าว.