1. ความต้องการใช้ภายในประเทศ
ความต้องการใช้น้ำมันเชื้อเพลิงภายในประเทศ มีปริมาณรวมทั้งสิ้น 3,613 ล้านลิตร เฉลี่ยวันละ 116.546 ล้านลิตร หรือ 733,065 บาร์เรล/วัน โดยกลุ่มน้ำมันดีเซลหมุนเร็ว (น้ำมันปาล์มดีเซล, น้ำมันดีเซลหมุนเร็วธรรมดา, น้ำมันดีเซลพื้นฐาน, น้ำมันดีเซลหมุนเร็ว บี5, ดีเซลประมงชายฝั่ง) มีความต้องการใช้สูงสุด วันละ 55.4 ล้านลิตร หรือร้อยละ 47.6 รองลงมา ได้แก่ กลุ่มน้ำมันเบนซิน วันละ 21.5 ล้านลิตร หรือร้อยละ 18.4 ก๊าซแอลพีจี วันละ 19.5 ล้านลิตร หรือร้อยละ 16.8 น้ำมันอากาศยานเจท เอ 1 12.4 ล้านลิตร หรือร้อยละ 10.7 น้ำมันเตา วันละ 7.3 ล้านลิตร หรือร้อยละ 6.3 น้ำมันอื่น ๆ วันละ 0.3 ล้านลิตร หรือร้อยละ 0.3 ตามลำดับ
ทั้งนี้ ความต้องการใช้ก๊าซแอลพีจีภายในประเทศ ประจำเดือน มกราคม จำนวน 327 ล้านกิโลกรัม เฉลี่ยวันละ 10.6 ล้านกิโลกรัม ไม่รวมปริมาณการใช้บิวเทน จำนวน 0.210 ล้านกิโลกรัม เฉลี่ยวันละ 0.007 ล้านกิโลกรัม และการใช้โปรเพนในอุตสาหกรรมปิโตรเคมี จำนวน 23.0 ล้านกิโลกรัม เฉลี่ยวันละ 0.7 ล้านกิโลกรัม
เมื่อเปรียบเทียบปริมาณความต้องการใช้โดยรวมเพิ่มขึ้นจากเดือนธันวาคมที่ผ่านมาวันละ 7.0 ล้านลิตร หรือร้อยละ 6.4 โดยน้ำมันที่เพิ่มขึ้นได้แก่ น้ำมันอากาศยานเจท เอ 1 เพิ่มขึ้นร้อยละ 23.7, ก๊าซแอลพีจี เพิ่มขึ้นร้อยละ 9.2, น้ำมันเตา เพิ่มขึ้นร้อยละ 9.0, น้ำมันอากาศยานเจพี 8 เพิ่มขึ้นร้อยละ 8.2 และกลุ่มน้ำมันดีเซล เพิ่มขึ้นร้อยละ 5.5 ส่วนน้ำมันที่ลดลง ได้แก่ น้ำมันอากาศยาน100/130 ลดลงร้อยละ 57.4, กลุ่มน้ำมันเบนซิน ลดลงร้อยละ 2.5 และน้ำมันก๊าด ลดลงร้อยละ 0.7
เมื่อเปรียบเทียบปริมาณความต้องการใช้โดยรวมลดลงจากเดือนมกราคมปีก่อนวันละ 0.1 ล้านลิตร หรือร้อยละ 0.1 โดยน้ำมันที่ลดลง ได้แก่ น้ำมันดีเซลหมุนช้า ลดลงร้อยละ 100.0, น้ำมันอากาศยาน100/130 ลดลงร้อยละ 58.9, น้ำมันก๊าด ลดลงร้อยละ 34.0, น้ำมันเตา ลดลงร้อยละ 25.7 น้ำมันอากาศยานเจท เอ 1 ลดลงร้อยละ 13.3, น้ำมันอากาศยานเจพี 8 ลดลงร้อยละ 10.1 และก๊าซแอลพีจี ลดลงร้อยละ 2.8 ส่วนน้ำมันที่เพิ่มขึ้น ได้แก่ กลุ่มน้ำมันเบนซิน เพิ่มขึ้นร้อยละ 10.4 และกลุ่มน้ำมันดีเซลหมุนเร็ว เพิ่มขึ้นร้อยละ 5.6
ส่วนแบ่งการตลาด
ส่วนแบ่งการตลาดของผู้ค้าน้ำมันประจำเดือนมกราคม 2552 กลุ่มผู้ค้าน้ำมันรายใหญ่ 5 ราย มีส่วนแบ่งการตลาดรวมกัน ร้อยละ 79.8 ปริมาณการจำหน่ายวันละ 93.1 ล้านลิตร กลุ่มผู้ค้าน้ำมันรายย่อยอื่นๆ มีส่วนแบ่งการตลาดรวมกันร้อยละ 20.2 ปริมาณการจำหน่าย วันละ 23.5 ล้านลิตร โดยปตท. มีส่วนแบ่งการตลาดมากที่สุดร้อยละ 35.2 รองลงมาได้แก่ เชลล์ ร้อยละ 13.3 เชฟรอน (ไทย) ร้อยละ 11.9 เอสโซ่ ร้อยละ 11.5 และบางจาก ร้อยละ 7.9 ตามลำดับ เมื่อเปรียบเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนผู้ค้ารายใหญ่ มีการจำหน่ายเพิ่มขึ้น วันละ 2.8 ล้านลิตร หรือร้อยละ 3.1 และผู้ค้ารายย่อยมีปริมาณการจำหน่ายลดลงจากช่วงเดียวกันของปีก่อนวันละ 2.9 ล้านลิตร หรือร้อยละ11.1
2. การจัดหา
1. การผลิตน้ำมันดิบ ได้จากการขุดเจาะภายในประเทศ (ข้อมูลจากกรมเชื้อเพลิงธรรมชาติ) จำนวน 877 ล้านลิตร เฉลี่ยวันละ 28.3 ล้านลิตร หรือ 177,861 บาร์เรล/วัน เพิ่มขึ้นจากเดือนธันวาคมที่ผ่านมาวันละ 4.0 ล้านลิตร หรือร้อยละ 16.6 และเพิ่มขึ้นจากเดือนมกราคมปีก่อนวันละ 6.3 ล้านลิตร หรือร้อยละ 28.9 โดยมีการใช้น้ำมันดิบในขบวนการกลั่น 471 ล้านลิตร เฉลี่ยวันละ 15.2 ล้านลิตร หรือ 95,471 บาร์เรล/วัน คิดเป็นร้อยละ 53.7 ของน้ำมันดิบที่ผลิตได้ และลดลงจากเดือนธันวาคมที่ผ่านมาวันละ 2.6 ล้านลิตร หรือร้อยละ 14.8 เพิ่มขึ้นจากเดือนมกราคมปีก่อนวันละ 1.4 ล้านลิตร หรือร้อยละ 10.0
2. การผลิตน้ำมันสำเร็จรูป ปริมาณ 4,371 ล้านลิตร เฉลี่ยวันละ 141.0 ล้านลิตร หรือ 886,857 บาร์เรล/วัน เมื่อเปรียบเทียบปริมาณ
การผลิตเพิ่มขึ้นจากเดือนธันวาคมที่ผ่านมาวันละ 6.3 ล้านลิตร หรือร้อยละ 4.7 และลดลงจากเดือนมกราคมปีก่อนวันละ 3.9 ล้านลิตร หรือร้อยละ 2.7 โดยน้ำมันดีเซลพื้นฐาน มีการผลิตสูงสุดวันละ 58.9 ล้านลิตร หรือร้อยละ 41.8 ของการผลิตภายในประเทศ รองลงมา ได้แก่ กลุ่มน้ำมันเบนซิน วันละ 25.2 ล้านลิตร หรือร้อยละ 17.9 ก๊าซแอลพีจี วันละ 21.4 ล้านลิตร หรือร้อยละ 15.2 น้ำมันเตา วันละ 19.6 ล้านลิตร หรือร้อยละ 13.9 น้ำมันอากาศยานเจท เอ1 วันละ 15.4 ล้านลิตร หรือร้อยละ 10.9 และน้ำมันอื่นๆ วันละ 0.4 ล้านลิตร หรือร้อยละ 0.3 ตามลำดับ
ทั้งนี้ การผลิตก๊าซแอลพีจี จำนวน 359 ล้านกิโลกรัม รวมปริมาณที่นำไปใช้เพื่อการผลิตของตนเอง จำนวน 20.1 ล้านกิโลกรัม และปริมาณที่นำไปใช้เป็นวัตถุดิบในอุตสาหกรรมปิโตรเคมี จำนวน 11.5 ล้านกิโลกรัม นอกจากนี้มีการผลิตโปรเพน จำนวน 29.0 ล้านกิโลกรัม ซึ่งไม่รวมปริมาณที่นำไปผลิตก๊าซแอลพีจีจำนวน 4.3 ล้านกิโลกรัม และการผลิตบิวเทน 6.375 ล้านกิโลกรัม
โดยการผลิตในเดือนนี้ได้จากโรงกลั่นร้อยละ 90.0 จากโรงแยกก๊าซร้อยละ 8.8 ผลพลอยได้จากอุตสาหกรรมปิโตรเคมี ร้อยละ 1.2 ซึ่งแยกรายละเอียดได้ดังนี้
2.1 จากโรงกลั่น ปริมาณ 3,933 ล้านลิตร เฉลี่ยวันละ 126.9 ล้านลิตร หรือ 798,044 บาร์เรล/วัน ซึ่งใช้กำลังการกลั่น 932,931 บาร์เรล/วัน โดยเพิ่มขึ้นจากเดือนธันวาคมที่ผ่านมาวันละ 5.0 ล้านลิตร หรือร้อยละ 4.1 และลดลงจากเดือนมกราคมปีก่อนวันละ 4.5 ล้านลิตร หรือร้อยละ 4.4
2.2 จากโรงแยกก๊าซฯ ปริมาณ 209 พันเมตริกตัน เฉลี่ยวันละ 6.7 พันเมตริกตัน หรือ 78,568 บาร์เรล/วัน โดยปริมาณเพิ่มขึ้นจากเดือนธันวาคมที่ผ่านมาวันละ 0.2 พันเมตริกตัน หรือร้อยละ 3.7 และลดลงจากเดือนมกราคมปีก่อน วันละ 0.1 พันเมตริกตัน หรือร้อยละ 0.8
2.3 อุตสาหกรรมปิโตรเคมี ปริมาณ 27 พันเมตริกตัน เฉลี่ยวันละ 0.9 พันเมตริกตัน หรือ 10,245 บาร์เรล/วัน โดยมีปริมาณเพิ่มขึ้นจากเดือนธันวาคมที่ผ่านมาวันละ 0.5 พันเมตริกตัน หรือร้อยละ 114.6 และเพิ่มขึ้นจากเดือนมกราคมปีก่อนวันละ 0.3 พันเมตริกตัน หรือร้อยละ 50.0
2.1 น้ำมันดิบ ปริมาณ 3,890 ล้านลิตร เฉลี่ยวันละ 125.5 ล้านลิตร หรือ 789,228 บาร์เรล/วัน มูลค่าการนำเข้า 38,096 ล้านบาท (ไม่รวมน้ำมันไม่ได้คุณภาพ ซึ่งนำเข้ามาเข้าขบวนการผลิต) โดยแยกรายละเอียดได้ดังนี้
ปริมาณ/ล้านลิตร : มูลค่า/ล้านบาท
แหล่งนำเข้า ปริมาณ ร้อยละ มูลค่า ร้อยละ ตะวันออกกลาง 2,861 73.6 28,216 74.1 ตะวันออกไกล 556 14.3 5,294 13.9 อื่น ๆ 473 12.2 4,586 12.0 รวม 3,890 100.0 38,096 100.0 เมื่อเปรียบเทียบกับเดือนธันวาคมที่ผ่านมามีปริมาณการนำเข้าลดลงวันละ 4.5 ล้านลิตร หรือร้อยละ 3.5 มูลค่าการนำเข้าลดลง 3,857 ล้านบาท หรือร้อยละ 9.2 และลดลงจากเดือนมกราคมปีก่อนวันละ 12.0 ล้านลิตร หรือร้อยละ 8.7 มูลค่าการนำเข้าลดลง 45,041 ล้านบาท หรือร้อยละ 54.2 2.2 น้ำมันสำเร็จรูป ปริมาณ 59.1 ล้านลิตร เฉลี่ยวันละ 1.9 ล้านลิตร หรือ 11,986 บาร์เรล/วัน มูลค่าการนำเข้า 593 ล้านบาท เมื่อเปรียบเทียบกับเดือนธันวาคมที่ผ่านมา เพิ่มขึ้นวันละ 1.7 ล้านลิตร หรือร้อยละ 789.7 มูลค่าการนำเข้าเพิ่มขึ้น 482 ล้านบาท หรือร้อยละ 434.6 โดยเป็นการเพิ่มขึ้นของน้ำมันเบนซินพื้นฐาน โปรเพน และบิวเทน และเพิ่มขึ้นจากเดือนมกราคมปีก่อน วันละ 1.6 ล้านลิตร หรือร้อยละ 629.6 มูลค่าการนำเข้าเพิ่มขึ้น 414 ล้านบาท หรือร้อยละ 231.0 โดยเป็นการเพิ่มขึ้นของน้ำมันเบนซินพื้นฐาน น้ำมันดีเซลพื้นฐาน โปรเพน และบิวเทน ทั้งนี้ การนำเข้าโปรเพนและบิวเทน เพื่อการผลิตแอลพีจี การนำเข้าเบนซินพื้นฐาน ดีเซลพื้นฐาน เพื่อการผลิตแก๊สโซฮอล์และดีเซลหมุนเร็วธรรมดา 3. การส่งออกไปต่างประเทศ น้ำมันสำเร็จรูปและน้ำมันองค์ประกอบ มีการส่งออกน้ำมันสำเร็จรูปและน้ำมันองค์ประกอบไปต่างประเทศ มีปริมาณรวมทั้งสิ้น 1,145 ล้านลิตร เฉลี่ยวันละ 37.0 ล้านลิตร หรือ 232,506 บาร์เรล/วัน มูลค่าการส่งออกรวม 12,479 ล้านบาท โดยจำแนกเป็น น้ำมันสำเร็จรูป ปริมาณการส่งออก 919 ล้านลิตร เฉลี่ยวันละ 29.6 ล้านลิตร หรือ 186,409 บาร์เรล/วัน มูลค่าการส่งออก 9,884 ล้านบาท โดยร้อยละ 74.7 ส่งไปยังกลุ่มประเทศอาเซียน ร้อยละ 14.0 ส่งไปยังประเทศจีน ร้อยละ 5.0 ส่งไปยังประเทศอังกฤษ นอกจากนี้มีการจำหน่ายน้ำมันดีเซลหมุนเร็วในเขตต่อเนื่อง อีกร้อยละ 6.3 โดยน้ำมันเตาส่งออกสูงสุดวันละ 12.9 ล้านลิตรหรือร้อยละ43.6 รองลงมาได้แก่ กลุ่มน้ำมันดีเซลหมุนเร็ว วันละ 9.1 ล้านลิตร หรือร้อยละ 30.7 กลุ่มน้ำมันเบนซิน วันละ 4.3 ล้านลิตร หรือร้อยละ 14.5 น้ำมันอากาศยานเจท เอ 1 วันละ 3.3 ล้านลิตร หรือร้อยละ 11.0 และก๊าซแอลพีจี วันละ 0.1 ล้านลิตร หรือร้อยละ 0.2 ปริมาณการส่งออกลดลงจากเดือนธันวาคมที่ผ่านมาวันละ 6.9 ล้านลิตร หรือร้อยละ 19.0 มูลค่าการส่งออกลดลง 2,800 ล้านบาท หรือร้อยละ 22.1 โดยเป็นการส่งออกลดลงของน้ำมันทุกชนิด ยกเว้นกลุ่มน้ำมันเบนซิน และเพิ่มขึ้นจากเดือนมกราคมปีก่อนวันละ 2.2 ล้านลิตร หรือร้อยละ 8.0 มูลค่าการส่งออกลดลง 6,879 ล้านบาทหรือร้อยละ 41.0 โดยเป็นการส่งออกเพิ่มขึ้นของน้ำมันทุกชนิด ยกเว้น กลุ่มน้ำมันเบนซิน น้ำมันองค์ประกอบ ได้แก่ ก๊าซโซลีนธรรมชาติ ไลท์แนฟท่า รีฟอร์เมต ไอโซเมอเรด และลองเรสิดิว ปริมาณ 227 ล้านลิตร มูลค่า 2,595 ล้านบาท ส่งไปยังประเทศสิงคโปร์และจีน ปริมาณการจำหน่ายและการจัดหาน้ำมันเชื้อเพลิง มกราคม 2552 น้ำมันสำเร็จรูป 1. การจำหน่าย 1.1 จำหน่ายภายในประเทศ มีปริมาณ 3,613 ล้านลิตร เฉลี่ยวันละ 116.5 ล้านลิตร หรือ 733,065 บาร์เรล/วัน คิดเป็นร้อยละ 82.7 ของปริมาณน้ำมันสำเร็จรูปที่ผลิตได้ภายในประเทศ การจำหน่ายภายในประเทศลดลงจากช่วงเดียวกันของปีก่อนวันละ 0.2 ล้านลิตร หรือร้อยละ 0.1 โดยเป็นการลดลงของน้ำมันดีเซลหมุนช้า, น้ำมันอากาศยาน100/130, น้ำมันก๊าด,น้ำมันเตา, น้ำมันอากาศยานเจท เอ 1, ก๊าซแอลพีจี ลดลงละ 100.0, 57.3, 33.8, 25.7, 13.3 และ 2.8 ตามลำดับ 1.2 การส่งออก มีปริมาณ 919 ล้านลิตร เฉลี่ยวันละ 29.6 ล้านลิตร หรือ 186,409 บาร์เรล/วัน ปริมาณเพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อนวันละ 2.2 ล้านลิตร หรือร้อยละ 8.0 มูลค่าการส่งออกรวม 9,884 ล้านบาท ลดลงจากช่วงเดียวกันของปีก่อน 6,879 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 41.0 โดยเป็นการส่งออกลดลงของน้ำมันทุกชนิด ยกเว้นน้ำมันเตา, กลุ่มน้ำมันดีเซลและน้ำมันอากาศยานเจท เอ 1 เพิ่มขึ้นร้อยละ 40.4, 8.9 และ 2.2 ตามลำดับ 2. การจัดหา การจัดหามีปริมาณรวมทั้งสิ้น 4,375 ล้านลิตร เฉลี่ยวันละ 141.1 ล้านลิตร หรือ 887,759 บาร์เรล/วัน ปริมาณลดลงจากช่วงเดียวกันของปีก่อน วันละ 4.0 ล้านลิตร หรือร้อยละ 2.8 ทั้งนี้ ไม่รวมการนำเข้าเบนซินพื้นฐาน เพื่อนำมาผลิตแก๊สโซฮอล์และโปรเพน บิวเทน เพื่อนำมาผลิตแอลพีจี 2.1 การผลิตภายในประเทศ มีปริมาณรวมทั้งสิ้น 4,371 ล้านลิตร เฉลี่ยวันละ 141.0 ล้านลิตร หรือ 886,857 บาร์เรล/วัน ปริมาณลดลงจากช่วงเดียวกันของปีก่อนวันละ 3.9 ล้านลิตร หรือร้อยละ 2.7 2.2 การนำเข้าจากต่างประเทศ มีปริมาณรวมทั้งสิ้น 4 ล้านลิตร เฉลี่ยวันละ 0.1 ล้านลิตร หรือ 902 บาร์เรล/วัน ลดลงจากช่วงเดียวกันของปีก่อนวันละ 0.1 ล้านลิตร หรือร้อยละ 45.2 มูลค่าการนำเข้ารวม 50 ล้านบาท ลดลงจากช่วงเดียวกันของปีก่อน 129 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 72.0 น้ำมันดิบ ปริมาณการนำเข้ารวม 3,890 ล้านลิตร เฉลี่ยวันละ 125.5 ล้านลิตร หรือ 789,228 บาร์เรล/วัน มาจากแหล่งตะวันออกกลาง 2,861 ล้านลิตร หรือร้อยละ 73.6 ตะวันออกไกล 556 ล้านลิตร หรือร้อยละ 14.3 และแหล่งอื่น ๆ 473 ล้านลิตร หรือร้อยละ 12.2 มูลค่าการนำเข้ารวม 38,096 ล้านบาท โดยปริมาณลดลงจากช่วงเดียวกันของปีก่อนวันละ 12.0 ล้านลิตร คิดเป็นร้อยละ 8.7 มูลค่าการนำเข้าลดลง 45,040 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 54.2 ทั้งนี้ การนำเข้าไม่รวมน้ำมันดีเซลกำมะถันสูง ซึ่งนำเข้ามาเพื่อเข้าขบวนการผลิต ปี 2551 จำนวน 113 ล้านลิตร มูลค่า 2,816 ล้านบาท ปี 2552 จำนวน - ล้านลิตร มูลค่า - ล้านบาท
--สำนักการค้าและการสำรองน้ำมันเชื้อเพลิง กรมธุรกิจพลังงาน--