1. ความต้องการใช้ภายในประเทศ
ความต้องการใช้น้ำมันเชื้อเพลิงภายในประเทศ มีปริมาณรวมทั้งสิ้น 3,584 ล้านลิตร เฉลี่ยวันละ 115.6 ล้านลิตร หรือ 727,206 บาร์เรล/วัน โดยกลุ่มน้ำมันดีเซลหมุนเร็ว (น้ำมันปาล์มดีเซล, น้ำมันดีเซลหมุนเร็วธรรมดา, น้ำมันดีเซลพื้นฐาน, น้ำมันดีเซลหมุนเร็ว บี5 ) มีความต้องการใช้สูงสุดวันละ 52.5 ล้านลิตร หรือร้อยละ 45.4 รองลงมา ได้แก่ ก๊าซแอลพีจี วันละ 21.8 ล้านลิตร หรือร้อยละ 18.8 กลุ่มน้ำมันเบนซิน วันละ 21.4 ล้านลิตร หรือร้อยละ 18.5 น้ำมันอากาศยานเจท เอ 1 วันละ 12.5 ล้านลิตร หรือร้อยละ 10.8 น้ำมันเตา วันละ 6.9 ล้านลิตร หรือร้อยละ 6.0 น้ำมันอื่น ๆ วันละ 0.6 ล้านลิตร หรือร้อยละ 0.5 ตามลำดับ
ทั้งนี้ ความต้องการใช้ก๊าซแอลพีจีภายในประเทศ ประจำเดือน มีนาคม จำนวน 364 ล้านกิโลกรัม เฉลี่ยวันละ 11.7 ล้านกิโลกรัม ไม่รวมปริมาณการใช้โปรเพน จำนวน 23.2 ล้านกิโลกรัม เฉลี่ยวันละ 0.7 ล้านกิโลกรัม และ การใช้บิวเทน จำนวน 0.135 ล้านกิโลกรัม เฉลี่ยวันละ 0.004 ล้านกิโลกรัม
เมื่อเปรียบเทียบปริมาณความต้องการใช้โดยรวมเพิ่มขึ้นจากเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมาวันละ 2.2 ล้านลิตร หรือร้อยละ 2.0 โดยน้ำมันที่เพิ่มขึ้นได้แก่ น้ำมันอากาศยาน 100/130 เพิ่มขึ้นร้อยละ 136.0, น้ำมันอากาศยานเจพี 8 เพิ่มขึ้นร้อยละ 18.7, น้ำมันก๊าด เพิ่มขึ้นร้อยละ 14.2, ก๊าซแอลพีจี เพิ่มขึ้นร้อยละ 7.2, กลุ่มน้ำมันดีเซล เพิ่มขึ้นร้อยละ 2.1 และกลุ่มน้ำมันเบนซิน เพิ่มขึ้นร้อยละ 1.6 ส่วนน้ำมันที่ลดลงได้แก่ น้ำมันอากาศยานเจท เอ 1 และน้ำมันเตา ลดลงร้อยละ 8.8 และ 0.5 ตามลำดับ
เมื่อเปรียบเทียบปริมาณความต้องการใช้โดยรวมลดลงจากเดือนมีนาคมปีก่อนวันละ 4.2 ล้านลิตร หรือร้อยละ 3.5 โดยน้ำมันที่ลดลง ได้แก่ น้ำมันเตา ลดลงร้อยละ 40.3, น้ำมันอากาศยานเจท เอ 1 ลดลงร้อยละ 8.9, กลุ่มน้ำมันดีเซล ลดลงร้อยละ 4.0 ส่วนน้ำมันที่เพิ่มขึ้น ได้แก่ น้ำมันอากาศยานเจพี 8 เพิ่มขึ้นร้อยละ 117.3, น้ำมันอากาศยาน 100/130 เพิ่มขึ้นร้อยละ 44.4, น้ำมันก๊าด เพิ่มขึ้นร้อยละ 17.4, กลุ่มน้ำมันเบนซิน เพิ่มขึ้นร้อยละ 9.7 และก๊าซแอลพีจี เพิ่มขึ้นร้อยละ 8.4
ส่วนแบ่งการตลาดของผู้ค้าน้ำมันประจำเดือนมีนาคม 2552 กลุ่มผู้ค้าน้ำมันรายใหญ่ 5 ราย มีส่วนแบ่งการตลาดรวมกัน ร้อยละ 78.1 ปริมาณการจำหน่ายวันละ 90.3 ล้านลิตร กลุ่มผู้ค้าน้ำมันรายย่อยอื่นๆ มีส่วนแบ่งการตลาดรวมกันร้อยละ 21.9 ปริมาณการจำหน่าย วันละ 25.3 ล้านลิตร โดยปตท. มีส่วนแบ่งการตลาดมากที่สุดร้อยละ 33.9 รองลงมาได้แก่ เชลล์และเอสโซ่ มีส่วนแบ่งการตลาดเท่ากัน คือ ร้อยละ 12.2 เชฟรอน(ไทย) ร้อยละ 12.1 และบางจาก ร้อยละ 7.7 ตามลำดับ เมื่อเปรียบเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนผู้ค้ารายใหญ่ มีการจำหน่ายลดลง วันละ 3.7 ล้านลิตร หรือร้อยละ 3.9 และ ผู้ค้ารายย่อยมีปริมาณการจำหน่ายลดลงจากช่วงเดียวกันของปีก่อนวันละ 0.6 ล้านลิตร หรือร้อยละ 2.2
2. การจัดหา
1. การผลิตน้ำมันดิบ ได้จากการขุดเจาะภายในประเทศ (ข้อมูลจากกรมเชื้อเพลิงธรรมชาติ) จำนวน 764 ล้านลิตร เฉลี่ยวันละ 24.6 ล้านลิตร หรือ 155,006 บาร์เรล/วัน เพิ่มขึ้นจากเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมาวันละ 0.8 ล้านลิตร หรือร้อยละ 3.4 และเพิ่มขึ้นจากเดือนมีนาคมปีก่อนวันละ 3.0 ล้านลิตร หรือร้อยละ 13.9 โดยมีการใช้น้ำมันดิบในขบวนการกลั่น 500 ล้านลิตร เฉลี่ยวันละ 16.1 ล้านลิตร หรือ 101,515 บาร์เรล/วัน คิดเป็นร้อยละ 65.5 ของน้ำมันดิบที่ผลิตได้ และลดลงจากเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมาวันละ 1.1 ล้านลิตร หรือร้อยละ 6.5 ลดลงจากเดือนมีนาคมปีก่อนวันละ 2.4 ล้านลิตร หรือร้อยละ 13.0
2. การผลิตน้ำมันสำเร็จรูป ปริมาณ 4,708 ล้านลิตร เฉลี่ยวันละ 151.9 ล้านลิตร หรือ 955,224 บาร์เรล/วัน เมื่อเปรียบเทียบปริมาณ การผลิตเพิ่มขึ้นจากเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมาวันละ 16.1 ล้านลิตร หรือร้อยละ 11.9 และลดลงจากเดือนมีนาคมปีก่อนวันละ 6.6 ล้านลิตร หรือร้อยละ 4.2 โดยน้ำมันดีเซลพื้นฐาน มีการผลิตสูงสุดวันละ 64.2 ล้านลิตร หรือร้อยละ 42.3 ของการผลิตภายในประเทศ รองลงมา ได้แก่ กลุ่มน้ำมันเบนซิน วันละ 24.6 ล้านลิตร หรือร้อยละ 16.2 ก๊าซแอลพีจี วันละ 23.4 ล้านลิตร หรือร้อยละ 15.4 น้ำมันเตา วันละ 21.9 ล้านลิตร หรือร้อยละ 14.5 น้ำมันอากาศยานเจท เอ1 วันละ 17.0 ล้านลิตร หรือร้อยละ 11.2 และน้ำมันอื่นๆ วันละ 0.7 ล้านลิตร หรือร้อยละ 0.4 ตามลำดับ
ทั้งนี้ การผลิตก๊าซแอลพีจี จำนวน 391 ล้านกิโลกรัม รวมปริมาณที่นำไปใช้เพื่อการผลิตของตนเอง จำนวน 21.9 ล้านกิโลกรัม และปริมาณที่นำไปใช้เป็นวัตถุดิบในอุตสาหกรรมปิโตรเคมี จำนวน 15.8 ล้านกิโลกรัม นอกจากนี้มีการผลิตโปรเพน จำนวน 22.6 ล้านกิโลกรัม ซึ่งไม่รวมปริมาณที่นำไปผลิตก๊าซแอลพีจีจำนวน 1.2 ล้านกิโลกรัม และมีการผลิตบิวเทน 0.6 ล้านกิโลกรัม
โดยการผลิตในเดือนนี้ได้จากโรงกลั่นร้อยละ 89.7 จากโรงแยกก๊าซร้อยละ 9.0 ผลพลอยได้จากอุตสาหกรรมปิโตรเคมี ร้อยละ 1.3 ซึ่งแยก รายละเอียดได้ดังนี้
2.1 จากโรงกลั่น ปริมาณ 4,224 ล้านลิตร เฉลี่ยวันละ 136.3 ล้านลิตร หรือ 857,010 บาร์เรล/วัน ซึ่งใช้กำลังการกลั่น 998,518 บาร์เรล/วัน โดยเพิ่มขึ้นจากเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมาวันละ 15.1 ล้านลิตร หรือร้อยละ 12.5 และเพิ่มขึ้นจากเดือนมีนาคมปีก่อนวันละ 4.0 ล้านลิตร หรือร้อยละ 2.6
2.2 จากโรงแยกก๊าซฯ ปริมาณ 229 พันเมตริกตัน เฉลี่ยวันละ 7.4 พันเมตริกตัน หรือ 85,985 บาร์เรล/วัน โดยปริมาณเพิ่มขึ้นจากเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมาวันละ 0.4 พันเมตริกตัน หรือร้อยละ 5.9 และเพิ่มขึ้นจากเดือนมีนาคมปีก่อน วันละ 0.7 พันเมตริกตัน หรือร้อยละ 9.7
2.3 อุตสาหกรรมปิโตรเคมี ปริมาณ 33 พันเมตริกตัน เฉลี่ยวันละ 1.1 พันเมตริกตัน หรือ 12,229 บาร์เรล/วัน โดยมีปริมาณเพิ่มขึ้นจากเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมาวันละ 0.1 พันเมตริกตัน หรือร้อยละ 14.9 และเพิ่มขึ้นจากเดือนมีนาคมปีก่อนวันละ 0.4 พันเมตริกตัน หรือร้อยละ 74.4
2. การนำเข้า มีการนำเข้าน้ำมันดิบและน้ำมันสำเร็จรูปรวมทั้งสิ้นปริมาณ 5,060 ล้านลิตร เฉลี่ยวันละ 163.2 ล้านลิตร หรือ 1,026,675 บาร์เรล/วัน มูลค่าการนำเข้ารวม 52,418 ล้านบาท (ไม่รวม MTBE ที่นำมาผสมเป็นน้ำมันสำเร็จรูป ปริมาณ 7 ล้านลิตร มูลค่า 106 ล้านบาท)
2.1 น้ำมันดิบ ปริมาณ 4,804 ล้านลิตร เฉลี่ยวันละ 155.0 ล้านลิตร หรือ 974,796 บาร์เรล/วัน มูลค่าการนำเข้า 49,402 ล้านบาท (ไม่รวมน้ำมันไม่ได้คุณภาพ ซึ่งนำเข้ามาเข้าขบวนการผลิต) โดยแยกรายละเอียดได้ดังนี้
ปริมาณ/ล้านลิตร : มูลค่า/ล้านบาท
แหล่งนำเข้า ปริมาณ ร้อยละ มูลค่า ร้อยละ
ตะวันออกกลาง 3,834 79.8 38,766 78.5
ตะวันออกไกล 677 14.1 7,551 15.3
อื่น ๆ 293 6.1 3,085 6.2
รวม 4,804 100.0 49,402 100.0
เมื่อเปรียบเทียบกับเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมามีปริมาณการนำเข้าเพิ่มขึ้นวันละ 52.5 ล้านลิตร หรือร้อยละ 51.2 มูลค่าการนำเข้าเพิ่มขึ้น 21,183 ล้านบาท หรือร้อยละ 75.1 และเพิ่มขึ้นจากเดือนมีนาคมปีก่อนวันละ 5.5 ล้านลิตร หรือร้อยละ 3.6 มูลค่าการนำเข้าลดลง 41,755 ล้านบาท หรือร้อยละ 45.8
2.2 น้ำมันสำเร็จรูป ปริมาณ 255.7 ล้านลิตร เฉลี่ยวันละ 8.2 ล้านลิตร หรือ 51,879 บาร์เรล/วัน มูลค่าการนำเข้า 3,016 ล้านบาท เมื่อเปรียบเทียบกับเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา เพิ่มขึ้นวันละ 2.6 ล้านลิตร หรือร้อยละ 45.5 มูลค่าการนำเข้าเพิ่มขึ้น 921 ล้านบาท หรือร้อยละ 43.9 โดยเป็นการเพิ่มขึ้นของน้ำมันเบนซินออกเทน 91 และน้ำมันดีเซลพื้นฐาน และเพิ่มขึ้นจากเดือนมีนาคมปีก่อน วันละ 6.2 ล้านลิตร หรือร้อยละ 296.9 มูลค่าการนำเข้าเพิ่มขึ้น 1,837 ล้านบาท หรือร้อยละ 155.8 โดยเป็นการเพิ่มขึ้นของน้ำมันดีเซลพื้นฐานและน้ำมันอากาศยาน 100/130 ทั้งนี้ การนำเข้าเบนซินพื้นฐาน ดีเซลพื้นฐาน เพื่อการผลิตแก๊สโซฮอล์และดีเซลหมุนเร็วธรรมดา
3. การส่งออกไปต่างประเทศ
น้ำมันสำเร็จรูปและน้ำมันองค์ประกอบ มีการส่งออกน้ำมันสำเร็จรูปและน้ำมันองค์ประกอบไปต่างประเทศ มีปริมาณรวมทั้งสิ้น 770 ล้านลิตร เฉลี่ยวันละ 24.8 ล้านลิตร หรือ 156,165 บาร์เรล/วัน มูลค่าการส่งออกรวม 10,483 ล้านบาท โดยจำแนกเป็น
น้ำมันสำเร็จรูป ปริมาณการส่งออก 700 ล้านลิตร เฉลี่ยวันละ 22.6 ล้านลิตร หรือ 142,127 บาร์เรล/วัน มูลค่าการส่งออก 9,705 ล้านบาท โดยร้อยละ57.6 ส่งไปยังกลุ่มประเทศอาเซียน ร้อยละ 12.8 ส่งไปยังประเทศจีน ร้อยละ 7.2 ส่งไปยังประเทศอังกฤษ ร้อยละ 6.7 ส่งไปยังประเทศอินเดีย นอกจากนี้มีการจำหน่ายน้ำมันดีเซลหมุนเร็วในเขตต่อเนื่อง อีกร้อยละ 11.0 โดยน้ำมันเตาส่งออกสูงสุดวันละ 10.6 ล้านลิตรหรือร้อยละ 46.7 รองลงมาได้แก่ กลุ่มน้ำมันดีเซลหมุนเร็ว วันละ 7.9 ล้านลิตร หรือร้อยละ 34.8 กลุ่มน้ำมันเบนซิน วันละ 2.4 ล้านลิตร หรือร้อยละ 10.4 น้ำมันอากาศยานเจท เอ 1 วันละ 1.8 ล้านลิตร หรือร้อยละ 7.7 และก๊าซแอลพีจี วันละ 0.1 ล้านลิตร หรือร้อยละ 0.3
ปริมาณการส่งออกเพิ่มขึ้นจากเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมาวันละ 0.2 ล้านลิตร หรือร้อยละ 0.7 มูลค่าการส่งออกเพิ่มขึ้น 2,909 ล้านบาท หรือร้อยละ 42.8 โดยเป็นการส่งออกเพิ่มขึ้นของน้ำมันทุกชนิด ยกเว้น น้ำมันอากาศยานเจท เอ 1และน้ำมันเตา และลดลงจากเดือนมีนาคมปีก่อนวันละ 5.8 ล้านลิตร หรือร้อยละ 20.3 มูลค่าการส่งออกลดลง 8,601 ล้านบาทหรือร้อยละ 47.0 โดยเป็นการส่งออกลดลง ของน้ำมันทุกชนิด ยกเว้น น้ำมันเตา
น้ำมันองค์ประกอบ ได้แก่ ก๊าซโซลีนธรรมชาติ ไลท์แนฟท่า รีฟอร์เมต คอนเดนเสท เรสิดิว และเอ็กแทร๊ต ปริมาณ 69 ล้านลิตร มูลค่า 778 ล้านบาท ส่งไปยังประเทศสิงคโปร์
ปริมาณการจำหน่ายและการจัดหาน้ำมันเชื้อเพลิง มกราคม - มีนาคม 2552
น้ำมันสำเร็จรูป
1. การจำหน่าย
1.1 จำหน่ายภายในประเทศ มีปริมาณ 10,371 ล้านลิตร เฉลี่ยวันละ 115.2 ล้านลิตร หรือ 724,830 บาร์เรล/วัน คิดเป็นร้อยละ 80.5 ของปริมาณน้ำมันสำเร็จรูปที่ผลิตได้ภายในประเทศ การจำหน่ายภายในประเทศเพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อนวันละ 15.4ล้านลิตร หรือร้อยละ 15.4 โดยเป็นการเพิ่มขึ้นของก๊าซแอลพีจี, น้ำมันอากาศยานเจพี 8 และกลุ่มน้ำมันเบนซิน เพิ่มขึ้นร้อยละ 906.8, 40.8 และ 7.3 ตามลำดับ
1.2 การส่งออก มีปริมาณ 2,247 ล้านลิตร เฉลี่ยวันละ 25.0 ล้านลิตร หรือ 157,010 บาร์เรล/วัน ปริมาณลดลงจากช่วงเดียวกันของปีก่อนวันละ 1.5 ล้านลิตร หรือร้อยละ 5.8 มูลค่าการส่งออกรวม 26,359 ล้านบาท ลดลงจากช่วงเดียวกันของปีก่อน 21,736 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 45.2 โดยเป็นการส่งออกลดลงของน้ำมันทุกชนิด ยกเว้นน้ำมันเตา เพิ่มขึ้นร้อยละ 18.1
2. การจัดหา
การจัดหามีปริมาณรวมทั้งสิ้น 13,202 ล้านลิตร เฉลี่ยวันละ 146.7 ล้านลิตร หรือ 922,699 บาร์เรล/วัน ปริมาณลดลงจากช่วงเดียวกันของปีก่อน วันละ 1.0 ล้านลิตร หรือร้อยละ 0.7 ทั้งนี้ ไม่รวมการนำเข้าเบนซินพื้นฐาน เพื่อนำมาผลิตแก๊สโซฮอล์และโปรเพน บิวเทน เพื่อนำมาผลิตแอลพีจี
2.1 การผลิตภายในประเทศ มีปริมาณรวมทั้งสิ้น 12,880 ล้านลิตร เฉลี่ยวันละ 143.1 ล้านลิตร หรือ 900,133 บาร์เรล/วัน ปริมาณลดลงจากช่วงเดียวกันของปีก่อนวันละ 0.5 ล้านลิตร หรือร้อยละ 0.4
2.2 การนำเข้าจากต่างประเทศ มีปริมาณรวมทั้งสิ้น 323 ล้านลิตร เฉลี่ยวันละ 3.6 ล้านลิตร หรือ 22,565 บาร์เรล/วัน เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อนวันละ 2.8 ล้านลิตร หรือร้อยละ 334.4 มูลค่าการนำเข้ารวม 4,009 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อน 2,564 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 177.6
น้ำมันดิบ
ปริมาณการนำเข้ารวม 11,399 ล้านลิตร เฉลี่ยวันละ 126.7 ล้านลิตร หรือ 796,704 บาร์เรล/วัน มาจากแหล่งตะวันออกกลาง 8,738 ล้านลิตร หรือร้อยละ 76.7 ตะวันออกไกล 1,734 ล้านลิตร หรือร้อยละ 15.2 และแหล่งอื่น ๆ 927 ล้านลิตร หรือร้อยละ 8.1 มูลค่าการนำเข้ารวม 114,084 ล้านบาท โดยปริมาณลดลงจากช่วงเดียวกันของปีก่อนวันละ 17.3 ล้านลิตร คิดเป็นร้อยละ 12.0 มูลค่าการนำเข้าลดลง 141,999 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 55.5 ทั้งนี้ การนำเข้าไม่รวมน้ำมันดีเซลกำมะถันสูง ซึ่งนำเข้ามาเพื่อเข้าขบวนการผลิต ปี 2551 จำนวน 59.1 ล้านลิตร มูลค่า 1,362 ล้านบาท ปี 2552 จำนวน 12.5 ล้านลิตร มูลค่า 149 ล้านบาท
--สำนักการค้าและการสำรองน้ำมันเชื้อเพลิง กรมธุรกิจพลังงาน--