1. ความต้องการใช้ภายในประเทศ
ความต้องการใช้น้ำมันเชื้อเพลิงภายในประเทศ มีปริมาณรวมทั้งสิ้น 3,401 ล้านลิตร เฉลี่ยวันละ 113.4 ล้านลิตร หรือ 713,141 บาร์เรล/วัน โดยกลุ่มน้ำมันดีเซลหมุนเร็ว (น้ำมันปาล์มดีเซล, น้ำมันดีเซลหมุนเร็วธรรมดา, น้ำมันดีเซลพื้นฐาน, น้ำมันดีเซลหมุนเร็ว บี5 ) มีความต้องการใช้สูงสุด วันละ 52.9 ล้านลิตร หรือร้อยละ 46.7 รองลงมา ได้แก่ ก๊าซแอลพีจี วันละ 21.3 ล้านลิตร หรือร้อยละ 18.8 กลุ่มน้ำมันเบนซิน วันละ 21.1 ล้านลิตร หรือร้อยละ 18.7 น้ำมันอากาศยานเจท เอ 1 วันละ 11.3 ล้านลิตร หรือร้อยละ 9.9 น้ำมันเตา วันละ 6.5 ล้านลิตร หรือร้อยละ 5.7 น้ำมันอื่น ๆ วันละ 0.3 ล้านลิตร หรือร้อยละ 0.2 ตามลำดับ
ทั้งนี้ ความต้องการใช้ก๊าซแอลพีจีภายในประเทศ ประจำเดือน เมษายน จำนวน 345 ล้านกิโลกรัม เฉลี่ยวันละ 11.5 ล้านกิโลกรัม ไม่รวมปริมาณการใช้โปรเพน จำนวน 21.9 ล้านกิโลกรัม เฉลี่ยวันละ 0.7 ล้านกิโลกรัม และ การใช้บิวเทน จำนวน 0.095 ล้านกิโลกรัม เฉลี่ยวันละ 0.003 ล้านกิโลกรัม
เมื่อเปรียบเทียบปริมาณความต้องการใช้โดยรวมลดลงจากเดือนมีนาคมที่ผ่านมาวันละ 2.2 ล้านลิตร หรือร้อยละ 1.9 โดยเป็นการลดลงของน้ำมันทุกชนิดยกเว้นกลุ่มน้ำมันดีเซล เพิ่มขึ้นร้อยละ 0.8 ซึ่งน้ำมันที่ลดลงได้แก่ น้ำมันอากาศยานเจพี 8 ลดลงร้อยละ 62.8, น้ำมันอากาศยาน100/130 ลดลงร้อยละ 29.9, น้ำมันก๊าด ลดลงร้อยละ 27.6, น้ำมันอากาศยานเจท เอ 1 ลดลงร้อยละ 9.8, น้ำมันเตา ลดลงร้อยละ 5.9, ก๊าซแอลพีจี ลดลงร้อยละ 2.1 และกลุ่มน้ำมันเบนซิน ลดลงร้อยละ 1.0 ตามลำดับ
เมื่อเปรียบเทียบปริมาณความต้องการใช้โดยรวมลดลงจากเดือนเมษายนปีก่อนวันละ 9.1 ล้านลิตร หรือร้อยละ 7.4 โดยน้ำมันที่ลดลง ได้แก่
น้ำมันเตา ลดลงร้อยละ 55.6, น้ำมันอากาศยานเจพี 8 ลดลงร้อยละ 28.6, น้ำมันก๊าด ลดลงร้อยละ 20.0 , น้ำมันอากาศยานเจท เอ 1 ลดลงร้อยละ 15.8 และกลุ่มน้ำมันดีเซล ลดลงร้อยละ 1.5 ส่วนน้ำมันที่เพิ่มขึ้น ได้แก่ น้ำมันอากาศยาน 100/130 เพิ่มขึ้นร้อยละ 158.9, ก๊าซแอลพีจี เพิ่มขึ้นร้อยละ 5.5 และกลุ่มน้ำมันเบนซิน เพิ่มขึ้นร้อยละ 5.2
ส่วนแบ่งการตลาดของผู้ค้าน้ำมันประจำเดือนเมษายน 2552 กลุ่มผู้ค้าน้ำมันรายใหญ่ 5 ราย มีส่วนแบ่งการตลาดรวมกัน ร้อยละ 78.0 ปริมาณการจำหน่ายวันละ 88.5 ล้านลิตร กลุ่มผู้ค้าน้ำมันรายย่อยอื่นๆ มีส่วนแบ่งการตลาดรวมกันร้อยละ 22.0 ปริมาณการจำหน่าย วันละ 24.9 ล้านลิตร โดยปตท. มีส่วนแบ่งการตลาดมากที่สุดร้อยละ 33.4 รองลงมาได้แก่ เอสโซ่ ร้อยละ 13.1, เชฟรอน(ไทย) ร้อยละ 11.4, เชลล์ ร้อยละ 11.3 และบางจาก ร้อยละ 8.9 ตามลำดับ เมื่อเปรียบเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนผู้ค้ารายใหญ่ มีการจำหน่ายลดลง วันละ 10.0 ล้านลิตร หรือร้อยละ 10.2 และ ผู้ค้ารายย่อยมีปริมาณการจำหน่ายลดลงจากช่วงเดียวกันของปีก่อนวันละ 1.0 ล้านลิตร หรือร้อยละ 4.1
2. การจัดหา
1. การผลิตน้ำมันดิบ ได้จากการขุดเจาะภายในประเทศ (ข้อมูลจากกรมเชื้อเพลิงธรรมชาติ) จำนวน 760 ล้านลิตร เฉลี่ยวันละ 25.3 ล้านลิตร หรือ 159,426 บาร์เรล/วัน เพิ่มขึ้นจากเดือนมีนาคมที่ผ่านมาวันละ 0.7 ล้านลิตร หรือร้อยละ 2.9 และเพิ่มขึ้นจากเดือนเมษายนปีก่อนวันละ 3.3 ล้านลิตร หรือร้อยละ 14.7 โดยมีการใช้น้ำมันดิบในขบวนการกลั่น 476 ล้านลิตร เฉลี่ยวันละ 15.9 ล้านลิตร หรือ 99,734 บาร์เรล/วัน คิดเป็นร้อยละ 62.6 ของน้ำมันดิบที่ผลิตได้ และลดลงจากเดือนมีนาคมที่ผ่านมาวันละ 0.3 ล้านลิตร หรือร้อยละ 1.8 ลดลงจากเดือนเมษายนปีก่อนวันละ 0.9 ล้านลิตร หรือร้อยละ 5.5
2. การผลิตน้ำมันสำเร็จรูป ปริมาณ 4,337 ล้านลิตร เฉลี่ยวันละ 144.6 ล้านลิตร หรือ 909,223 บาร์เรล/วัน เมื่อเปรียบเทียบปริมาณ การผลิตลดลงจากเดือนมีนาคมที่ผ่านมาวันละ 7.3 ล้านลิตร หรือร้อยละ 4.8 และลดลงจากเดือนเมษายนปีก่อนวันละ 7.9 ล้านลิตร หรือร้อยละ 5.2 โดยน้ำมันดีเซลพื้นฐาน มีการผลิตสูงสุดวันละ 64.3 ล้านลิตร หรือร้อยละ 44.5 ของการผลิตภายในประเทศ รองลงมา ได้แก่ กลุ่มน้ำมันเบนซิน วันละ 24.4 ล้านลิตร หรือร้อยละ 16.9 ก๊าซแอลพีจี วันละ 23.3 ล้านลิตร หรือร้อยละ 16.1 น้ำมันเตา วันละ 18.0 ล้านลิตร หรือร้อยละ 12.5 น้ำมันอากาศยานเจท เอ1 วันละ 14.0 ล้านลิตร หรือร้อยละ 9.7 และน้ำมันอื่นๆ วันละ 0.6 ล้านลิตร หรือร้อยละ 0.3 ตามลำดับ
ทั้งนี้ การผลิตก๊าซแอลพีจี จำนวน 378 ล้านกิโลกรัม รวมปริมาณที่นำไปใช้เพื่อการผลิตของตนเอง จำนวน 22.6 ล้านกิโลกรัม และปริมาณที่นำไปใช้เป็นวัตถุดิบในอุตสาหกรรมปิโตรเคมี จำนวน 18.4 ล้านกิโลกรัม และปริมาณที่ได้จากการนำเข้าโปรเพนและบิวเทนเพื่อมาผลิตก๊าซแอลพีจี จำนวน 28.8 ล้านกิโลกรัมนอกจากนี้มีการผลิตโปรเพน จำนวน 22.3 ล้านกิโลกรัม ซึ่งไม่รวมปริมาณที่นำไปผลิตก๊าซแอลพีจี จำนวน 0.7 ล้านกิโลกรัม และมีการผลิตบิวเทน จำนวน 0.1 ล้านกิโลกรัม
โดยการผลิตในเดือนนี้ได้จากโรงกลั่นร้อยละ 89.1 จากโรงแยกก๊าซร้อยละ 8.4 จากการนำเข้าโปรเพนและบิวเทน ร้อยละ 1.2 ผลพลอยได้จากอุตสาหกรรมปิโตรเคมี ร้อยละ 1.3 ซึ่งแยกรายละเอียดได้ดังนี้
2.1 จากโรงกลั่น ปริมาณ 3,863 ล้านลิตร เฉลี่ยวันละ 128.8 ล้านลิตร หรือ 809,994 บาร์เรล/วัน ซึ่งใช้กำลังการกลั่น 964,892 บาร์เรล/วัน โดยลดลงจากเดือนมีนาคมที่ผ่านมาวันละ 7.5 ล้านลิตร หรือร้อยละ 5.5 และลดลงจากเดือนเมษายนปีก่อนวันละ 10.3 ล้านลิตร หรือร้อยละ 7.4
2.2 จากโรงแยกก๊าซฯ ปริมาณ 197 พันเมตริกตัน เฉลี่ยวันละ 6.6 พันเมตริกตัน หรือ 76,646 บาร์เรล/วัน โดยปริมาณลดลงจากเดือนมีนาคมที่ผ่านมาวันละ 0.1 พันเมตริกตัน หรือร้อยละ 1.8 และลดลงจากเดือนเมษายนปีก่อน วันละ 0.1 พันเมตริกตัน หรือร้อยละ 1.3
2.3 จากการนำเข้าโปรเพน บิวเทน ปริมาณ 29 พันเมตริกตัน เฉลี่ยวันละ 1.0 พันเมตริกตัน หรือ 6,037 บาร์เรล/วัน โดยมีปริมาณเพิ่มขึ้นจากเดือนมีนาคมที่ผ่านมาวันละ 0.3 พันเมตริกตัน หรือร้อยละ 40.6
2.4 จากอุตสาหกรรมปิโตรเคมี ปริมาณ 29 พันเมตริกตัน เฉลี่ยวันละ 1.1 พันเมตริกตัน หรือ 11,404 บาร์เรล/วัน โดยมีปริมาณลดลงจากเดือนมีนาคมที่ผ่านมาวันละ 0.1 พันเมตริกตัน หรือร้อยละ 6.8 และเพิ่มขึ้นจากเดือนเมษายนปีก่อนวันละ 0.5 พันเมตริกตัน หรือร้อยละ 88.3
2. การนำเข้า มีการนำเข้าน้ำมันดิบและน้ำมันสำเร็จรูปรวมทั้งสิ้นปริมาณ 4,039 ล้านลิตร เฉลี่ยวันละ 134.6 ล้านลิตร หรือ 846,876 บาร์เรล/วัน มูลค่าการนำเข้ารวม 45,130 ล้านบาท (ไม่รวม MTBE ที่นำมาผสมเป็นน้ำมันสำเร็จรูป ปริมาณ 9 ล้านลิตร มูลค่า 153 ล้านบาท)
2.1 น้ำมันดิบ ปริมาณ 4,000 ล้านลิตร เฉลี่ยวันละ 133.3 ล้านลิตร หรือ 838,630 บาร์เรล/วัน มูลค่าการนำเข้า 44,720 ล้านบาท (ไม่รวมน้ำมันไม่ได้คุณภาพ ซึ่งนำเข้ามาเข้าขบวนการผลิต) โดยแยกรายละเอียดได้ดังนี้
ปริมาณ/ล้านลิตร : มูลค่า/ล้านบาท
แหล่งนำเข้า ปริมาณ ร้อยละ มูลค่า ร้อยละ ตะวันออกกลาง 3,097 77.4 34,529 77.2 ตะวันออกไกล 716 17.9 8,136 18.2 อื่น ๆ 187 4.7 2,056 4.6 รวม 4,000 100.0 44,720 100.0 เมื่อเปรียบเทียบกับเดือนมีนาคมที่ผ่านมามีปริมาณการนำเข้าลดลงวันละ 21.6 ล้านลิตร หรือร้อยละ 14.0 มูลค่าการนำเข้าลดลง 4,682 ล้านบาท หรือร้อยละ 9.5 และเพิ่มขึ้นจากเดือนเมษายนปีก่อนวันละ 2.5 ล้านลิตร หรือร้อยละ 1.9 มูลค่าการนำเข้าลดลง 37,594 ล้านบาท หรือร้อยละ 45.7 2.2 น้ำมันสำเร็จรูป ปริมาณ 39.3 ล้านลิตร เฉลี่ยวันละ 1.3 ล้านลิตร หรือ 8,246 บาร์เรล/วัน มูลค่าการนำเข้า 410 ล้านบาท เมื่อเปรียบเทียบกับเดือนมีนาคมที่ผ่านมา ลดลงวันละ 6.9 ล้านลิตร หรือร้อยละ 84.1 มูลค่าการนำเข้าลดลง 2,606 ล้านบาท หรือร้อยละ 86.4 โดยเป็นการลดลงของน้ำมันทุกชนิด ยกเว้นน้ำมันเบนซินพื้นฐาน และลดลงจากเดือนเมษายนปีก่อน วันละ 8.3 ล้านลิตร หรือร้อยละ 86.4 มูลค่าการนำเข้าลดลง 5,423 ล้านบาท หรือร้อยละ 93.0 โดยเป็นการลดลงของน้ำมันทุกชนิด ทั้งนี้ การนำเข้าเบนซินพื้นฐาน เพื่อการผลิตแก๊สโซฮอล์ และการนำเข้าโปรเพน บิวเทน เพื่อการผลิตก๊าซแอลพีจี 3. การส่งออกไปต่างประเทศ น้ำมันสำเร็จรูปและน้ำมันองค์ประกอบ มีการส่งออกน้ำมันสำเร็จรูปและน้ำมันองค์ประกอบไปต่างประเทศ มีปริมาณรวมทั้งสิ้น 1,026 ล้านลิตร เฉลี่ยวันละ 34.2 ล้านลิตร หรือ 215,058 บาร์เรล/วัน มูลค่าการส่งออกรวม 13,766 ล้านบาท โดยจำแนกเป็น น้ำมันสำเร็จรูป ปริมาณการส่งออก 886 ล้านลิตร เฉลี่ยวันละ 29.5 ล้านลิตร หรือ 185,743 บาร์เรล/วัน มูลค่าการส่งออก 12,106 ล้านบาท โดยร้อยละ 64.2 ส่งไปยังกลุ่มประเทศอาเซียน ร้อยละ 12.8 ส่งไปยังประเทศจีน ร้อยละ 5.7 ส่งไปยังประเทศอังกฤษ ร้อยละ 4.3 ส่งไปยังประเทศอัฟฟริกาใต้ นอกจากนี้มีการจำหน่ายน้ำมันดีเซลหมุนเร็วในเขตต่อเนื่อง อีกร้อยละ 7.3 โดยกลุ่มน้ำมันดีเซลส่งออกสูงสุดวันละ 11.8 ล้านลิตรหรือร้อยละ 39.9 รองลงมาได้แก่ น้ำมันเตา วันละ 10.9 ล้านลิตร หรือร้อยละ37.0 กลุ่มน้ำมันเบนซิน วันละ 4.2 ล้านลิตร หรือร้อยละ 14.1 น้ำมันอากาศยานเจท เอ 1 วันละ 2.6 ล้านลิตร หรือร้อยละ 8.8 และก๊าซแอลพีจี วันละ 0.1 ล้านลิตร หรือร้อยละ 0.2 ปริมาณการส่งออกเพิ่มขึ้นจากเดือนมีนาคมที่ผ่านมาวันละ 6.9 ล้านลิตร หรือร้อยละ 30.7 มูลค่าการส่งออกเพิ่มขึ้น 2,401 ล้านบาท หรือร้อยละ 24.7 โดยเป็นการส่งออกเพิ่มขึ้นของน้ำมันทุกชนิด และเพิ่มขึ้นจากเดือนเมษายนปีก่อนวันละ 2.7 ล้านลิตร หรือร้อยละ 9.9 มูลค่าการส่งออกลดลง 6,354 ล้านบาท หรือร้อยละ 34.4 โดยเป็นการส่งออกเพิ่มขึ้นของน้ำมันทุกชนิด ยกเว้น น้ำมันอากาศยานเจท เอ 1 น้ำมันองค์ประกอบ ได้แก่ ก๊าซโซลีนธรรมชาติ ไลท์แนฟท่า รีฟอร์เมต และเอ็กแทร๊ต ปริมาณ 140 ล้านลิตร มูลค่า 1,660 ล้านบาท ส่งไปยังประเทศสิงคโปร์ เกาหลีใต้ จีน มาเลเซีย และไต้หวัน ปริมาณการจำหน่ายและการจัดหาน้ำมันเชื้อเพลิง มกราคม - เมษายน 2552 น้ำมันสำเร็จรูป 1. การจำหน่าย 1.1 จำหน่ายภายในประเทศ มีปริมาณ 13,774 ล้านลิตร เฉลี่ยวันละ 114.8 ล้านลิตร หรือ 722,005 บาร์เรล/วัน คิดเป็นร้อยละ 80.2 ของปริมาณน้ำมันสำเร็จรูปที่ผลิตได้ภายในประเทศ การจำหน่ายภายในประเทศลดลงจากช่วงเดียวกันของปีก่อนวันละ 4.1 ล้านลิตร หรือร้อยละ 3.4 โดยเป็นการลดลงของน้ำมันเตา, น้ำมันอากาศยานเจท เอ 1 น้ำมันก๊าด น้ำมันอากาศยาน100/130 และกลุ่มน้ำมันดีเซล ลดลงร้อยละ 38.4, 14.1, 10.5, 1.6 และ 1.3 ตามลำดับ 1.2 การส่งออก มีปริมาณ 3,132 ล้านลิตร เฉลี่ยวันละ 26.1 ล้านลิตร หรือ 164,185 บาร์เรล/วัน ปริมาณลดลงจากช่วงเดียวกันของปีก่อนวันละ 0.5 ล้านลิตร หรือร้อยละ 1.8 มูลค่าการส่งออกรวม 38,487 ล้านบาท ลดลงจากช่วงเดียวกันของปีก่อน 28,068 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 42.2 โดยเป็นการส่งออกลดลงของน้ำมันทุกชนิด ยกเว้นน้ำมันเตาและกลุ่มน้ำมันดีเซลหมุนเร็ว เพิ่มขึ้นร้อยละ 20.8 และ 8.3 ตามลำดับ 2. การจัดหา การจัดหามีปริมาณรวมทั้งสิ้น 17,540 ล้านลิตร เฉลี่ยวันละ 146.7 ล้านลิตร หรือ 919,420 บาร์เรล/วัน ปริมาณลดลงจากช่วงเดียวกันของปีก่อน วันละ 2.3 ล้านลิตร หรือร้อยละ 1.6 ทั้งนี้ ไม่รวมการนำเข้าเบนซินพื้นฐาน เพื่อนำมาผลิตแก๊สโซฮอล์และโปรเพน บิวเทน เพื่อนำมาผลิตแอลพีจี 2.1 การผลิตภายในประเทศ มีปริมาณรวมทั้งสิ้น 17,178 ล้านลิตร เฉลี่ยวันละ 143.2 ล้านลิตร หรือ 900,426 บาร์เรล/วัน ปริมาณลดลงจากช่วงเดียวกันของปีก่อนวันละ 2.7 ล้านลิตร หรือร้อยละ 1.8 ทั้งนี้ การผลิตรวมการนำเข้าโปรเพน บิวเทน เพื่อการผลิตก๊าซแอลพีจี จำนวน 60.4 ล้านกิโลกรัมและการนำเข้าเบนซินพื้นฐานเพื่อการผลิตแก๊สโซฮอล์ 2.2 การนำเข้าจากต่างประเทศ มีปริมาณรวมทั้งสิ้น 362 ล้านลิตร เฉลี่ยวันละ 3.0 ล้านลิตร หรือ 18,994 บาร์เรล/วัน เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อนวันละ 0.3 ล้านลิตร หรือร้อยละ 12.6 มูลค่าการนำเข้ารวม 4,528 ล้านบาท ลดลงจากช่วงเดียวกันของปีก่อน 2,173 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 32.4 ทั้งนี้ การนำเข้าไม่รวมโปรเพนและบิวเทน เพื่อการผลิตก๊าซแอลพีจี จำนวน 57.2 ล้านกิโลกรัม และเบนซินพื้นฐานเพื่อการผลิตแก๊สโซฮอล์ จำนวน 80.6 ล้านลิตร น้ำมันดิบ ปริมาณการนำเข้ารวม 15,399 ล้านลิตร เฉลี่ยวันละ 128.3 ล้านลิตร หรือ 807,185 บาร์เรล/วัน มาจากแหล่งตะวันออกกลาง 11,835 ล้านลิตร หรือร้อยละ 76.9 ตะวันออกไกล 2,451 ล้านลิตร หรือร้อยละ 15.9 และแหล่งอื่น ๆ 1,114.1 ล้านลิตร หรือร้อยละ 7.2 มูลค่าการนำเข้ารวม 158,804 ล้านบาท โดยปริมาณลดลงจากช่วงเดียวกันของปีก่อนวันละ 12.4 ล้านลิตร คิดเป็นร้อยละ 8.8 มูลค่าการนำเข้าลดลง 179,593 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 53.1 ทั้งนี้ การนำเข้าไม่รวมน้ำมันดีเซลกำมะถันสูง ซึ่งนำเข้ามาเพื่อเข้าขบวนการผลิต ปี 2551 จำนวน 59.1 ล้านลิตร มูลค่า 1,362 ล้านบาท ปี 2552 จำนวน 12.5 ล้านลิตร มูลค่า 149 ล้านบาท
--สำนักการค้าและการสำรองน้ำมันเชื้อเพลิง กรมธุรกิจพลังงาน--