สรุปความต้องการใช้และจัดหา
1. ความต้องการใช้ภายในประเทศ
ความต้องการใช้น้ำมันเชื้อเพลิงภายในประเทศ มีปริมาณรวมทั้งสิ้น 3,527 ล้านลิตร เฉลี่ยวันละ 117.6 ล้านลิตร หรือ 739,519 บาร์เรล/วัน โดยกลุ่มน้ำมันดีเซลหมุนเร็ว ( น้ำมันปาล์มดีเซล, น้ำมันดีเซลหมุนเร็วธรรมดา, น้ำมันดีเซลพื้นฐาน, น้ำมันดีเซลหมุนเร็ว บี5, ดีเซลประมงชายฝั่ง ) มีความต้องการใช้สูงสุด วันละ 51.7 ล้านลิตร หรือร้อยละ 43.9 รองลงมา ได้แก่ ก๊าซแอลพีจี วันละ 25.5 ล้านลิตร หรือร้อยละ 21.7 กลุ่มน้ำมันเบนซิน วันละ 20.2 ล้านลิตร หรือร้อยละ 17.2, น้ำมันอากาศยานเจท เอ 1 วันละ 12.6 ล้านลิตร หรือร้อยละ 10.7 น้ำมันเตา วันละ 7.3 ล้านลิตร หรือร้อยละ 6.2 น้ำมันอื่น ๆ วันละ 0.2 ล้านลิตร หรือร้อยละ 0.2 ตามลำดับ
ทั้งนี้ ความต้องการใช้ก๊าซแอลพีจีภายในประเทศ ประจำเดือน เมษายน จำนวน 414 ล้านกิโลกรัม เฉลี่ยวันละ 13.8 ล้านกิโลกรัม ไม่รวมปริมาณการใช้โปรเพน จำนวน 19.4 ล้านกิโลกรัม เฉลี่ยวันละ 0.6 ล้านกิโลกรัม และ การใช้บิวเทน จำนวน 0.205 ล้านกิโลกรัม เฉลี่ยวันละ 0.007 ล้านกิโลกรัม
เมื่อเปรียบเทียบปริมาณความต้องการใช้โดยรวมลดลงจากเดือนมีนาคมที่ผ่านมาวันละ 6.6 ล้านลิตร หรือร้อยละ 5.3 โดยน้ำมันที่ลดลง ได้แก่ น้ำมันอากาศยานเจพี 8 ลดลงร้อยละ 62.8, น้ำมันก๊าด ลดลงร้อยละ 26.3, น้ำมันเตา ลดลงร้อยละ 22.6, น้ำมันอากาศยาน100/130 ลดลงร้อยละ 15.1, น้ำมันอากาศยานเจท เอ 1 ลดลงร้อยละ 7.3, กลุ่มน้ำมันดีเซลหมุนเร็ว ลดลงร้อยละ 5.2 และก๊าซแอลพีจี ลดลงร้อยละ 2.5 ส่วนน้ำมันที่เพิ่มขึ้น ได้แก่ กลุ่มน้ำมันเบนซิน เพิ่มขึ้นร้อยละ 1.2
เมื่อเปรียบเทียบปริมาณความต้องการใช้โดยรวมเพิ่มขึ้นจากเดือนเมษายนปีก่อนวันละ 4.2 ล้านลิตร หรือร้อยละ 3.7 โดยน้ำมันที่เพิ่มขึ้น ได้แก่ ก๊าซแอลพีจี เพิ่มขึ้นร้อยละ 19.9, น้ำมันเตา เพิ่มขึ้นร้อยละ 12.2 และน้ำมันอากาศยานเจท เอ 1 เพิ่มขึ้นร้อยละ 11.9 ส่วนน้ำมันที่ลดลง ได้แก่ น้ำมันอากาศยานเจพี 8 ลดลงร้อยละ 19.0, น้ำมันอากาศยาน100/130 ลดลงร้อยละ 12.8, น้ำมันก๊าด ลดลงร้อยละ 11.8, กลุ่มน้ำมันเบนซิน ลดลงร้อยละ 4.3 และกลุ่มน้ำมันดีเซล ลดลงร้อยละ 2.3
ส่วนแบ่งการตลาด
ส่วนแบ่งการตลาดของผู้ค้าน้ำมันประจำเดือนเมษายน 2553 กลุ่มผู้ค้าน้ำมันรายใหญ่ 5 ราย มีส่วนแบ่งการตลาดรวมกัน ร้อยละ 75.8 ปริมาณการจำหน่ายวันละ 89.1 ล้านลิตร กลุ่มผู้ค้าน้ำมันรายย่อยอื่นๆ มีส่วนแบ่งการตลาดรวมกันร้อยละ 24.2 ปริมาณการจำหน่าย วันละ 28.5 ล้านลิตร โดยปตท. มีส่วนแบ่งการตลาดมากที่สุดร้อยละ 36.1 รองลงมาได้แก่ เอสโซ่ ร้อยละ 12.2, เชฟรอน(ไทย) ร้อยละ 9.5, เชลล์ ร้อยละ 9.1 และบางจาก ร้อยละ 8.8 ตามลำดับ เมื่อเปรียบเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนผู้ค้ารายใหญ่ มีการจำหน่ายเพิ่มขึ้น วันละ 0.6 ล้านลิตร หรือร้อยละ 0.7 และ ผู้ค้ารายย่อยมีปริมาณการจำหน่ายเพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อนวันละ 3.6 ล้านลิตร หรือร้อยละ 14.3
การจัดหา
1. การผลิตน้ำมันดิบ ได้จากการขุดเจาะภายในประเทศ (ข้อมูลจากกรมเชื้อเพลิงธรรมชาติ) จำนวน 722 ล้านลิตร เฉลี่ยวันละ 24.1 ล้านลิตร หรือ 151,327 บาร์เรล/วัน โดยมีปริมาณลดลงจากเดือนมีนาคมที่ผ่านมา วันละ 0.8 ล้านลิตร หรือร้อยละ 3.4 และลดลงจากเดือนเมษายนปีก่อนวันละ 1.3 ล้านลิตร หรือร้อยละ 5.1 โดยมีการใช้น้ำมันดิบในขบวนการกลั่น 591 ล้านลิตร เฉลี่ยวันละ 19.7 ล้านลิตร หรือ 123,956 บาร์เรล/วัน ลดลงจากเดือนมีนาคมที่ผ่านมาวันละ 3.6 ล้านลิตร หรือร้อยละ 15.3 และเพิ่มขึ้นจากเดือนเมษายนปีก่อนวันละ 3.9 ล้านลิตร หรือร้อยละ 24.3
2. การผลิตน้ำมันสำเร็จรูป ปริมาณ 4,412 ล้านลิตร เฉลี่ยวันละ 147.1 ล้านลิตร หรือ 924,950 บาร์เรล/วัน เมื่อเปรียบเทียบปริมาณการผลิตลดลงจากเดือนมีนาคมที่ผ่านมาวันละ 7.2 ล้านลิตร หรือร้อยละ 4.7 และเพิ่มขึ้นจากเดือนเมษายนปีก่อนวันละ 2.5 ล้านลิตร หรือร้อยละ 1.7 โดยน้ำมันดีเซลพื้นฐาน มีการผลิตสูงสุดวันละ 60.7 ล้านลิตร หรือร้อยละ 41.3 ของการผลิตภายในประเทศ รองลงมา ได้แก่ ก๊าซแอลพีจี วันละ 27.3 ล้านลิตร หรือร้อยละ 18.6 กลุ่มน้ำมันเบนซิน วันละ 24.6 ล้านลิตร หรือร้อยละ 16.7 น้ำมันอากาศยานเจท เอ1 วันละ 17.7 ล้านลิตร หรือร้อยละ 12.0 น้ำมันเตา วันละ 16.6 ล้านลิตร หรือร้อยละ 11.3 และน้ำมันอื่นๆ วันละ 0.2 ล้านลิตร หรือร้อยละ 0.1 ตามลำดับ
ทั้งนี้ การผลิตก๊าซแอลพีจี จำนวน 443 ล้านกิโลกรัม รวมปริมาณที่นำไปใช้เพื่อการผลิตของตนเอง จำนวน 19.2 ล้านกิโลกรัม และปริมาณที่นำไปใช้เป็นวัตถุดิบในอุตสาหกรรมปิโตรเคมี จำนวน 22.1 ล้านกิโลกรัม และปริมาณที่ได้จากการนำเข้าโปรเพนและบิวเทนเพื่อมาผลิตก๊าซแอลพีจี จำนวน 110.4 ล้านกิโลกรัม นอกจากนี้มีการผลิตโปรเพน จำนวน 18.9 ล้านกิโลกรัม ซึ่งไม่รวมปริมาณที่นำไปผลิตก๊าซแอลพีจี จำนวน 2.1 ล้านกิโลกรัม และมีการผลิตบิวเทน จำนวน 0.4 ล้านกิโลกรัม
โดยการผลิตในเดือนนี้ได้จากโรงกลั่นร้อยละ 86.4 จากโรงแยกก๊าซร้อยละ 7.6 จากการนำเข้าโปรเพนและบิวเทน ร้อยละ 4.6 และผลพลอยได้จากอุตสาหกรรมปิโตรเคมี ร้อยละ 1.4 ซึ่งแยกรายละเอียดได้ดังนี้
2.1 จากโรงกลั่น ปริมาณ 3,813 ล้านลิตร เฉลี่ยวันละ 127.1 ล้านลิตร หรือ 799,390 บาร์เรล/วัน ซึ่งใช้กำลังการกลั่น 949,006 บาร์เรล/วัน โดยลดลงจากเดือนมีนาคมที่ผ่านมาวันละ 5.6 ล้านลิตร หรือร้อยละ 4.2 และลดลงจากเดือนเมษายนปีก่อนวันละ 1.7 ล้านลิตร หรือร้อยละ 1.3
2.2 จากโรงแยกก๊าซฯ ปริมาณ 180 พันเมตริกตัน เฉลี่ยวันละ 6.0 พันเมตริกตัน หรือ 70,052 บาร์เรล/วัน โดยปริมาณลดลงจากเดือนมีนาคมที่ผ่านมาวันละ 0.9 พันเมตริกตัน หรือร้อยละ 14.8 และลดลงจากเดือนเมษายนปีก่อน วันละ 0.6 พันเมตริกตัน หรือร้อยละ 8.6
2.3 จากการนำเข้าโปรเพน บิวเทน ปริมาณ 110 พันเมตริกตัน เฉลี่ยวันละ 3.7 พันเมตริกตัน หรือ 42,882 บาร์เรล/วัน โดยมีปริมาณเพิ่มขึ้นจากเดือนมีนาคมที่ผ่านมาวันละ 0.1 พันเมตริกตัน หรือร้อยละ 2.3 และเพิ่มขึ้นจากเดือนเมษายนปีก่อน วันละ 2.8 พันเมตริกตัน หรือร้อยละ 296.2
2.4 จากอุตสาหกรรมปิโตรเคมี ปริมาณ 33 พันเมตริกตัน เฉลี่ยวันละ 1.1 พันเมตริกตัน หรือ 12,626 บาร์เรล/วัน โดยมีปริมาณลดลงจากเดือนมีนาคมที่ผ่านมาวันละ 0.1 พันเมตริกตัน หรือร้อยละ 5.6 และเพิ่มขึ้นจากเดือนเมษายนปีก่อนวันละ 0.1 พันเมตริกตัน หรือร้อยละ 10.7
การนำเข้า
2. การนำเข้า มีการนำเข้าน้ำมันดิบและน้ำมันสำเร็จรูปรวมทั้งสิ้นปริมาณ 4,768 ล้านลิตร เฉลี่ยวันละ 158.9 ล้านลิตร หรือ 999,669 บาร์เรล/วัน มูลค่าการนำเข้ารวม 79,608 ล้านบาท (ไม่รวม MTBE ที่นำมาผสมเป็นน้ำมันสำเร็จรูป ปริมาณ 7.5 ล้านลิตร มูลค่า 201 ล้านบาท)
2.1 น้ำมันดิบ ปริมาณ 4,528 ล้านลิตร เฉลี่ยวันละ 150.9 ล้านลิตร หรือ 949,315 บาร์เรล/วัน มูลค่าการนำเข้า 76,344 ล้านบาท (ไม่รวมน้ำมันไม่ได้คุณภาพ ซึ่งนำเข้ามาเข้าขบวนการผลิต) โดยแยกรายละเอียดได้ดังนี้
ปริมาณ/ล้านลิตร : มูลค่า/ล้านบาท
แหล่งนำเข้า ปริมาณ ร้อยละ มูลค่า ร้อยละ ตะวันออกกลาง 3,025 66.8 50,258 65.8 ตะวันออกไกล 469 10.4 8,087 10.6 อื่น ๆ 1,034 22.8 18,000 23.6 รวม 4,528 100.0 76,344 100.0
เมื่อเปรียบเทียบกับเดือนมีนาคมที่ผ่านมามีปริมาณการนำเข้าเพิ่มขึ้นวันละ 33.9 ล้านลิตร หรือร้อยละ 29.0 มูลค่าการนำเข้าเพิ่มขึ้น 18,221 ล้านบาท หรือร้อยละ 31.3 และเพิ่มขึ้นจากเดือนเมษายนปีก่อนวันละ 17.6 ล้านลิตร หรือร้อยละ 13.2 มูลค่าการนำเข้าเพิ่มขึ้น 31,624 ล้านบาท หรือร้อยละ 70.7
2.2 น้ำมันสำเร็จรูป ปริมาณ 240 ล้านลิตร เฉลี่ยวันละ 8.0 ล้านลิตร หรือ 50,353 บาร์เรล/วัน มูลค่าการนำเข้า 3,264 ล้านบาท เมื่อเปรียบเทียบกับเดือนมีนาคมที่ผ่านมา ลดลงวันละ 1.2 ล้านลิตร หรือร้อยละ 12.7 มูลค่าการนำเข้าลดลง 666 ล้านบาท หรือร้อยละ 16.9 โดยเป็นการลดลงของน้ำมันเตา และเพิ่มขึ้นจากเดือนเมษายนปีก่อน วันละ 7.0 ล้านลิตร หรือร้อยละ 706.0 มูลค่าการนำเข้าเพิ่มขึ้น 2,994 ล้านบาท หรือร้อยละ 1,109.0 โดยเป็นการเพิ่มขึ้นของน้ำมันทุกชนิด ทั้งนี้ การนำเข้าเบนซินพื้นฐาน เพื่อการผลิตแก๊สโซฮอล์และการนำเข้าโปรเพน บิวเทน เพื่อการผลิตก๊าซแอลพีจี
ส่งออก
การส่งออกไปต่างประเทศ
น้ำมันสำเร็จรูปและน้ำมันองค์ประกอบ มีการส่งออกน้ำมันสำเร็จรูปและน้ำมันองค์ประกอบไปต่างประเทศ มีปริมาณรวมทั้งสิ้น 1,133 ล้านลิตร เฉลี่ยวันละ 37.8 ล้านลิตร หรือ 237,534 บาร์เรล/วัน มูลค่าการส่งออกรวม 19,839 ล้านบาท โดยจำแนกเป็น
น้ำมันสำเร็จรูป ปริมาณการส่งออก 949 ล้านลิตร เฉลี่ยวันละ 31.7 ล้านลิตร หรือ 199,092 บาร์เรล/วัน มูลค่าการส่งออก 16,650 ล้านบาท โดยร้อยละ 75.9 ส่งไปยังกลุ่มประเทศอาเซียน ร้อยละ 9.9 ส่งไปยังประเทศออสเตรเลีย ร้อยละ 3.2 ส่งไปยังประเทศฮ่องกง ร้อยละ 2.3 ส่งไปยังประเทศจีน ร้อยละ 0.1 ส่งไปยังประเทศบังคลาเทศ นอกจากนี้มีการจำหน่ายน้ำมันดีเซลหมุนเร็วในเขตต่อเนื่องอีกร้อยละ 8.7 โดยกลุ่มน้ำมันดีเซลหมุนเร็วส่งออกมากที่สุดวันละ 12.2 ล้านลิตร หรือร้อยละ 38.5 รองลงมาได้แก่ น้ำมันเตา วันละ 9.8 ล้านลิตร หรือร้อยละ 30.9 น้ำมันอากาศยานเจท เอ 1 วันละ 5.1 ล้านลิตร หรือร้อยละ 16.0 กลุ่มน้ำมันเบนซิน วันละ 4.5 ล้านลิตร หรือร้อยละ 14.2 และก๊าซแอลพีจี วันละ 0.1 ล้านลิตร หรือร้อยละ 0.4
ปริมาณการส่งออกเพิ่มขึ้นจากเดือนมีนาคมที่ผ่านมาวันละ 5.6 ล้านลิตร หรือร้อยละ 21.6 มูลค่าการส่งออกเพิ่มขึ้น 3,338 ล้านบาท หรือร้อยละ 25.1 โดยป็นการส่งออกเพิ่มขึ้นของกลุ่มน้ำมันเบนซิน, น้ำมันน้ำมันอากาศยานเจท เอ 1, น้ำมันดีเซลพื้นฐาน และเพิ่มขึ้นจากเดือนเมษายนปีก่อนวันละ 2.1 ล้านลิตร หรือร้อยละ 7.2 มูลค่าการส่งออกเพิ่มขึ้น 4,544 ล้านบาท หรือร้อยละ 37.5 โดยเป็นการส่งออกเพิ่มขึ้นของน้ำมันอากาศยานเจท เอ 1, ก๊าซแอลพีจี, กลุ่มน้ำมันเบนซิน และน้ำมันดีเซลพื้นฐาน
น้ำมันองค์ประกอบ ได้แก่ ก๊าซโซลีนธรรมชาติ ไลท์แนฟท่า รีฟอร์เมต ลองเรสิดิว แสล็กแว๊กซ์ และแอ็กแทร็ต ปริมาณ 183 ล้านลิตร มูลค่า 3,189 ล้านบาท ส่งไปยังประเทศสิงคโปร์ จีน ไต้หวัน อเมริกา แคนาดา อิตาลี และมาเลเซีย
ปริมาณการจำหน่ายและการจัดหาน้ำมันเชื้อเพลิง มกราคม - เมษายน 2553
น้ำมันสำเร็จรูป
1. การจำหน่าย
1.1 จำหน่ายภายในประเทศ มีปริมาณ 14,425 ล้านลิตร เฉลี่ยวันละ 120.2 ล้านลิตร หรือ 756,112 บาร์เรล/วัน คิดเป็นร้อยละ80.8 ของปริมาณน้ำมันสำเร็จรูปที่ผลิตได้ภายในประเทศ การจำหน่ายภายในประเทศเพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อนวันละ 5.4 ล้านลิตร หรือร้อยละ 4.7 โดยเป็นการเพิ่มขึ้นของก๊าซแอลพีจี, น้ำมันเตา, น้ำมันอากาศยานเจทเอ 1, น้ำมันก๊าด และน้ำมันอากาศยาน100/130 เพิ่มขึ้นร้อยละ 22.8, 10.6,10.2, 9.3 และ 0.7 ตามลำดับ
1.2 การส่งออก มีปริมาณ 3,059 ล้านลิตร เฉลี่ยวันละ 25.5 ล้านลิตร หรือ 160,366 บาร์เรล/วัน ปริมาณลดลงจากช่วงเดียวกันของปีก่อนวันละ 0.6 ล้านลิตร หรือร้อยละ 2.3 มูลค่าการส่งออกรวม 51,378 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อน 12,892 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 33.5 โดยเป็นการส่งออกลดลงของ น้ำมันเตา และกลุ่มน้ำมันเบนซิน ลดลงร้อยละ 18.5 และ 3.4
2. การจัดหา
การจัดหามีปริมาณรวมทั้งสิ้น 17,912 ล้านลิตร เฉลี่ยวันละ 149.3 ล้านลิตร หรือ 938,897 บาร์เรล/วัน ปริมาณเพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อน วันละ 3.1 ล้านลิตร หรือร้อยละ 2.1 ทั้งนี้ รวมการนำเข้าเบนซินพื้นฐาน เพื่อนำมาผลิตแก๊สโซฮอล์และโปรเพน บิวเทน เพื่อนำมาผลิตแอลพีจี
2.1 การผลิตภายในประเทศ มีปริมาณรวมทั้งสิ้น 17,842 ล้านลิตร เฉลี่ยวันละ 148.7 ล้านลิตร หรือ 935,233 บาร์เรล/วัน ปริมาณเพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อนวันละ 5.5 ล้านลิตร หรือร้อยละ 3.9 ทั้งนี้ การผลิตรวมโปรเพน บิวเทน ที่นำเข้ามาเพื่อการผลิตก๊าซแอลพีจี จำนวน 452 ล้านกิโลกรัม และการนำเข้าเบนซินพื้นฐานเพื่อการผลิตแก๊สโซฮอล์
2.2 การนำเข้าจากต่างประเทศ มีปริมาณรวมทั้งสิ้น 70 ล้านลิตร เฉลี่ยวันละ 0.6 ล้านลิตร หรือ 3,664 บาร์เรล/วัน ลดลงจากช่วงเดียวกันของปีก่อนวันละ 2.4 ล้านลิตร หรือร้อยละ 80.7 มูลค่าการนำเข้ารวม 1,250 ล้านบาท ลดลงจากช่วงเดียวกันของปีก่อน 3,278 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 72.4 ทั้งนี้ การนำเข้าไม่รวมโปรเพนและบิวเทน เพื่อการผลิตก๊าซแอลพีจี จำนวน 452 ล้านกิโลกรัม และเบนซินพื้นฐานเพื่อการผลิตแก๊สโซฮอล์
น้ำมันดิบ
ปริมาณการนำเข้ารวม 15,715 ล้านลิตร เฉลี่ยวันละ 130.9 ล้านลิตร หรือ 823,709 บาร์เรล/วัน มาจากแหล่งตะวันออกกลาง 11,543 ล้านลิตร หรือร้อยละ 73.5 ตะวันออกไกล 1,912 ล้านลิตร หรือร้อยละ 12.2 และแหล่งอื่น ๆ 2,260 ล้านลิตร หรือร้อยละ 14.3 มูลค่าการนำเข้ารวม 254,676 ล้านบาท โดยปริมาณเพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อนวันละ 2.6 ล้านลิตร คิดเป็นร้อยละ 2.0 มูลค่าการนำเข้าเพิ่มขึ้น 95,871 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 60.4
--สำนักการค้าและการสำรองน้ำมันเชื้อเพลิง กรมธุรกิจพลังงาน--