แท็ก
โฆสิต ปั้นเปี่ยมรัษฎ์
กระทรวงอุตสาหกรรม
ฟู้ดแอนด์ดริ๊งส์
กรมควบคุมมลพิษ
ทำเนียบรัฐบาล
สุขภัณฑ์กะรัต
วันนี้ เวลา 13.00 น. ณ ห้องประชุม 301 ตึกบัญชาการ ทำเนียบรัฐบาล นายโฆสิต ปั้นเปี่ยมรัษฎ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติ (กพช.) ครั้งที่ 3/2550 สรุปสาระสำคัญดังนี้
ที่ประชุมเห็นชอบในหลักการแผนพัฒนากำลังผลิตไฟฟ้า (PDP 2007) ในช่วงปี 2550-2564 แบ่งเป็น 2 ช่วง ได้แก่ ในช่วงปี 2550-2553 จะมีโรงไฟฟ้าที่อยู่ระหว่างก่อสร้าง และในช่วงปี 2554-2564 จะมีโรงไฟฟ้าที่จะต้องก่อสร้างใหม่ ซึ่งที่ประชุมเห็นชอบแผนหลักของการจัดทำ PDP 2007 คือแผน B2 โดยพิจารณาโรงไฟฟ้าถ่านหินที่มีความเป็นไปได้ จำนวน 2,800 เมกะวัตต์ โรงไฟฟ้าก๊าซธรรมชาติจำนวน 18,200 เมกะวัตต์ และการก่อสร้างโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ จำนวน 4,000 เมกะวัตต์ ภายในปี 2563-2564 และกำหนดแผนทางเลือกของการจัดทำ PDP 2007 คือ แผน B3 โดยจะมีการจัดหาก๊าซธรรมชาติเหลว (LNG) จำนวน 10 ล้านตันต่อปี และรับซื้อไฟฟ้าจากต่างประเทศมากขึ้น อนึ่ง แผนพัฒนากำลังผลิตไฟฟ้าของประเทศไทย (Power Development Plan: PDP) เป็นแผนระยะยาวที่จัดทำขึ้นเพื่อใช้เป็นกรอบในการลงทุนในการขยายกำลังการผลิตไฟฟ้าและระบบส่งไฟฟ้าในอนาคต
นอกจากนี้ ที่ประชุมเห็นชอบในหลักการแผนการจัดหาก๊าซธรรมชาติของ บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) โดยแบ่งออกเป็น 2 ช่วง ได้แก่ ในช่วงปี 2550-2553 เป็นแผนจัดหาก๊าซธรรมชาติเพิ่มเติมจากอ่าวไทยขนผ่านระบบท่อส่งก๊าซธรรมชาติเส้นที่ 3 ซึ่งจะทำให้สัดส่วนการจัดหาก๊าซธรรมชาติจากอ่าวไทยเพิ่มขึ้นเป็นร้อยละ 80 ของการจัดหาทั้งหมด และอีกร้อยละ 20 เป็นการนำเข้าจากสหภาพพม่า ส่วนในช่วงปี 2554 เป็นต้นไป ปตท. มีแผนนำเข้าก๊าซธรรมชาติเหลว (LNG) และนำเข้าก๊าซธรรมชาติจากแหล่งต่างๆ ในภูมิภาค ได้แก่ สหภาพพม่า อินโดนีเซีย และในอ่าวไทยจากแหล่งไพลินเพิ่มเติม เพื่อรองรับโรงไฟฟ้าแห่งใหม่ที่จะเกิดขึ้น ทั้งนี้ ที่ประชุมได้มอบหมายให้ ปตท. ไปดำเนินการจัดทำรายละเอียดแผนการจัดหาก๊าซธรรมชาติ แล้วนำเสนอ กพช. ต่อไป
สำหรับการรับซื้อไฟฟ้าจากสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว (สปป. ลาว) ที่ประชุมเห็นชอบร่างบันทึกความเข้าใจการรับซื้อไฟฟ้าโครงการน้ำเงี้ยบ กำลังผลิต 261 เมกะวัตต์ และมอบหมายให้การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) ดำเนินการลงนามในร่างดังกล่าวร่วมกับกลุ่มผู้ลงทุนในโครงการน้ำเงี้ยบต่อไป ซึ่ง สปป. ลาว จะจ่ายพลังงานไฟฟ้าเข้าระบบให้ประเทศไทยปีละ 1,393 ล้านหน่วย ภายในปี 2557 โดยมีอัตราค่าไฟฟ้าเฉลี่ยตลอดอายุโครงการ 27 ปี ที่ระดับ 2.13 บาทต่อหน่วย (ณ อัตราแลกเปลี่ยน 30 บาทต่อ 1 เหรียญสหรัฐ) ซึ่งนับเป็นโครงการที่ 7 ที่รัฐบาลไทยได้ดำเนินการรับซื้อไฟฟ้าจาก สปป. ลาว ประกอบด้วย โครงการที่จ่ายไฟฟ้าเข้าระบบของ กฟผ. แล้ว จำนวน 2 โครงการ คือ โครงการเทิน-หินบุน ขนาดกำลังผลิต 187 เมกะวัตต์ และโครงการห้วยเฮาะ ขนาดกำลังผลิต 126 เมกะวัตต์ โครงการที่ได้ลงนามซื้อขายไฟฟ้าแล้ว จำนวน 2 โครงการ คือ โครงการน้ำเทิน 2 ขนาดกำลังผลิต 920 เมกะวัตต์ และโครงการน้ำงึม 2 ขนาดกำลังผลิต 615 เมกะวัตต์ โครงการที่มีการตกลงราคาซื้อขายไฟฟ้าแล้วและอยู่ระหว่างพิจารณาร่างสัญญา จำนวน 2 โครงการ คือ โครงการน้ำเทิน 1 ขนาดกำลังผลิต 523 เมกะวัตต์ และโครงการน้ำงึม 3 ขนาดกำลังผลิต 440 เมกะวัตต์
พร้อมกันนี้ ที่ประชุมเห็นชอบการกำหนดส่วนเพิ่ม (Adder) ราคารับซื้อไฟฟ้าให้ในอัตราคงที่เป็นระยะเวลา 7 ปี สำหรับผู้ผลิตไฟฟ้ารายเล็ก (SPP) ที่ใช้พลังงานหมุนเวียน โดยกำหนดให้เชื้อเพลิงขยะและพลังงานลม จะได้ส่วนเพิ่ม 2.50 บาทต่อหน่วย และแสงอาทิตย์จะได้ส่วนเพิ่ม 8 บาทต่อหน่วย ส่วน SPP พลังงานหมุนเวียนอื่นๆ เช่น แกลบ เศษไม้ ก๊าซชีวมวล จะใช้วิธีเปิดประมูลแข่งขัน โดยให้คณะกรรมการบริหารนโยบายพลังงาน (กบง.) เป็นผู้ประกาศและดำเนินการคัดเลือก จากผู้ที่ขอส่วนเพิ่มอัตราต่ำสุดก่อนแต่สูงสุดไม่เกิน 0.30 บาทต่อหน่วย เป็นระยะเวลา 7 ปี เช่นกัน ทั้งนี้ ภาครัฐกำหนดเป้าหมายการรับซื้อไฟฟ้าจาก SPP ที่ใช้พลังงานหมุนเวียน จำนวน 530 เมกะวัตต์ แบ่งเป็น ผู้ผลิตไฟฟ้าจากขยะ จำนวน 100 เมกะวัตต์ พลังงานลม จำนวน 115 เมกะวัตต์ พลังงานแสงอาทิตย์ จำนวน 15 เมกะวัตต์ และพลังงานหมุนเวียนชนิดอื่นๆ เช่น แกลบ เศษไม้ ขยะ พลังน้ำ กำหนดปริมาณพลังไฟฟ้าที่จะรับซื้อรวม 300 เมกะวัตต์
--กลุ่มยุทธศาสตร์และแผนการประชาสัมพันธ์ สำนักโฆษก--
ที่ประชุมเห็นชอบในหลักการแผนพัฒนากำลังผลิตไฟฟ้า (PDP 2007) ในช่วงปี 2550-2564 แบ่งเป็น 2 ช่วง ได้แก่ ในช่วงปี 2550-2553 จะมีโรงไฟฟ้าที่อยู่ระหว่างก่อสร้าง และในช่วงปี 2554-2564 จะมีโรงไฟฟ้าที่จะต้องก่อสร้างใหม่ ซึ่งที่ประชุมเห็นชอบแผนหลักของการจัดทำ PDP 2007 คือแผน B2 โดยพิจารณาโรงไฟฟ้าถ่านหินที่มีความเป็นไปได้ จำนวน 2,800 เมกะวัตต์ โรงไฟฟ้าก๊าซธรรมชาติจำนวน 18,200 เมกะวัตต์ และการก่อสร้างโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ จำนวน 4,000 เมกะวัตต์ ภายในปี 2563-2564 และกำหนดแผนทางเลือกของการจัดทำ PDP 2007 คือ แผน B3 โดยจะมีการจัดหาก๊าซธรรมชาติเหลว (LNG) จำนวน 10 ล้านตันต่อปี และรับซื้อไฟฟ้าจากต่างประเทศมากขึ้น อนึ่ง แผนพัฒนากำลังผลิตไฟฟ้าของประเทศไทย (Power Development Plan: PDP) เป็นแผนระยะยาวที่จัดทำขึ้นเพื่อใช้เป็นกรอบในการลงทุนในการขยายกำลังการผลิตไฟฟ้าและระบบส่งไฟฟ้าในอนาคต
นอกจากนี้ ที่ประชุมเห็นชอบในหลักการแผนการจัดหาก๊าซธรรมชาติของ บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) โดยแบ่งออกเป็น 2 ช่วง ได้แก่ ในช่วงปี 2550-2553 เป็นแผนจัดหาก๊าซธรรมชาติเพิ่มเติมจากอ่าวไทยขนผ่านระบบท่อส่งก๊าซธรรมชาติเส้นที่ 3 ซึ่งจะทำให้สัดส่วนการจัดหาก๊าซธรรมชาติจากอ่าวไทยเพิ่มขึ้นเป็นร้อยละ 80 ของการจัดหาทั้งหมด และอีกร้อยละ 20 เป็นการนำเข้าจากสหภาพพม่า ส่วนในช่วงปี 2554 เป็นต้นไป ปตท. มีแผนนำเข้าก๊าซธรรมชาติเหลว (LNG) และนำเข้าก๊าซธรรมชาติจากแหล่งต่างๆ ในภูมิภาค ได้แก่ สหภาพพม่า อินโดนีเซีย และในอ่าวไทยจากแหล่งไพลินเพิ่มเติม เพื่อรองรับโรงไฟฟ้าแห่งใหม่ที่จะเกิดขึ้น ทั้งนี้ ที่ประชุมได้มอบหมายให้ ปตท. ไปดำเนินการจัดทำรายละเอียดแผนการจัดหาก๊าซธรรมชาติ แล้วนำเสนอ กพช. ต่อไป
สำหรับการรับซื้อไฟฟ้าจากสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว (สปป. ลาว) ที่ประชุมเห็นชอบร่างบันทึกความเข้าใจการรับซื้อไฟฟ้าโครงการน้ำเงี้ยบ กำลังผลิต 261 เมกะวัตต์ และมอบหมายให้การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) ดำเนินการลงนามในร่างดังกล่าวร่วมกับกลุ่มผู้ลงทุนในโครงการน้ำเงี้ยบต่อไป ซึ่ง สปป. ลาว จะจ่ายพลังงานไฟฟ้าเข้าระบบให้ประเทศไทยปีละ 1,393 ล้านหน่วย ภายในปี 2557 โดยมีอัตราค่าไฟฟ้าเฉลี่ยตลอดอายุโครงการ 27 ปี ที่ระดับ 2.13 บาทต่อหน่วย (ณ อัตราแลกเปลี่ยน 30 บาทต่อ 1 เหรียญสหรัฐ) ซึ่งนับเป็นโครงการที่ 7 ที่รัฐบาลไทยได้ดำเนินการรับซื้อไฟฟ้าจาก สปป. ลาว ประกอบด้วย โครงการที่จ่ายไฟฟ้าเข้าระบบของ กฟผ. แล้ว จำนวน 2 โครงการ คือ โครงการเทิน-หินบุน ขนาดกำลังผลิต 187 เมกะวัตต์ และโครงการห้วยเฮาะ ขนาดกำลังผลิต 126 เมกะวัตต์ โครงการที่ได้ลงนามซื้อขายไฟฟ้าแล้ว จำนวน 2 โครงการ คือ โครงการน้ำเทิน 2 ขนาดกำลังผลิต 920 เมกะวัตต์ และโครงการน้ำงึม 2 ขนาดกำลังผลิต 615 เมกะวัตต์ โครงการที่มีการตกลงราคาซื้อขายไฟฟ้าแล้วและอยู่ระหว่างพิจารณาร่างสัญญา จำนวน 2 โครงการ คือ โครงการน้ำเทิน 1 ขนาดกำลังผลิต 523 เมกะวัตต์ และโครงการน้ำงึม 3 ขนาดกำลังผลิต 440 เมกะวัตต์
พร้อมกันนี้ ที่ประชุมเห็นชอบการกำหนดส่วนเพิ่ม (Adder) ราคารับซื้อไฟฟ้าให้ในอัตราคงที่เป็นระยะเวลา 7 ปี สำหรับผู้ผลิตไฟฟ้ารายเล็ก (SPP) ที่ใช้พลังงานหมุนเวียน โดยกำหนดให้เชื้อเพลิงขยะและพลังงานลม จะได้ส่วนเพิ่ม 2.50 บาทต่อหน่วย และแสงอาทิตย์จะได้ส่วนเพิ่ม 8 บาทต่อหน่วย ส่วน SPP พลังงานหมุนเวียนอื่นๆ เช่น แกลบ เศษไม้ ก๊าซชีวมวล จะใช้วิธีเปิดประมูลแข่งขัน โดยให้คณะกรรมการบริหารนโยบายพลังงาน (กบง.) เป็นผู้ประกาศและดำเนินการคัดเลือก จากผู้ที่ขอส่วนเพิ่มอัตราต่ำสุดก่อนแต่สูงสุดไม่เกิน 0.30 บาทต่อหน่วย เป็นระยะเวลา 7 ปี เช่นกัน ทั้งนี้ ภาครัฐกำหนดเป้าหมายการรับซื้อไฟฟ้าจาก SPP ที่ใช้พลังงานหมุนเวียน จำนวน 530 เมกะวัตต์ แบ่งเป็น ผู้ผลิตไฟฟ้าจากขยะ จำนวน 100 เมกะวัตต์ พลังงานลม จำนวน 115 เมกะวัตต์ พลังงานแสงอาทิตย์ จำนวน 15 เมกะวัตต์ และพลังงานหมุนเวียนชนิดอื่นๆ เช่น แกลบ เศษไม้ ขยะ พลังน้ำ กำหนดปริมาณพลังไฟฟ้าที่จะรับซื้อรวม 300 เมกะวัตต์
--กลุ่มยุทธศาสตร์และแผนการประชาสัมพันธ์ สำนักโฆษก--