วันนี้ เวลา 10.30 น. ณ ศูนย์แถลงข่าวรัฐบาล ตึกนารีสโมสร ทำเนียบรัฐบาล รองศาสตราจารย์ธีรภัทร์ เสรีรังสรรค์ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงว่าจะนำร่างพระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดเกี่ยวกับการขัดกันระหว่างประโยชน์ส่วนบุคคลและประโยชน์ส่วนรวม พ.ศ. ... เสนอคณะรัฐมนตรีในวันพรุ่งนี้ (22 พ.ค.) ซึ่งร่างพระราชบัญญัติฉบับนี้จะสามารถป้องกันและปราบปรามการทุจริตคอร์รัปชั่นในลักษณะที่เรียกว่าการคอร์รัปชั่นเชิงนโยบาย การทุจริตเชิงนโยบาย หรือการกระทำที่มีลักษณะที่เรียกว่าผลประโยชน์ทับซ้อน ให้ลดน้อยลงไปได้ และจะเป็นคุณูปการที่สำคัญอย่างยิ่งต่อสังคมไทยทั้งปัจจุบันและอนาคต รวมทั้งจะทำให้ระบบกฎหมาย กระบวนการป้องกันและปราบปรามการทุจริตคอร์รัปชั่นของประเทศไทยก้าวทันอารยประเทศที่มีการพัฒนาประชาธิปไตยที่มั่นคงถาวร อีกทั้งยังป้องกันการทุจริตคอร์รัปชั่นในรูปแบบใหม่ ๆ และจะเป็นรากฐานสำคัญของการพัฒนาระบอบประชา ธิปไตยเชิงคุณภาพ ที่จะให้ได้ผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองก็ดี เจ้าหน้าที่ของรัฐก็ดีที่จะทำหน้าที่เพื่อประโยชน์ต่อบ้านเมืองส่วนรวมและประชาชนส่วนใหญ่ของประเทศอย่างแท้จริง
โดยร่างพระราชบัญญัติฉบับดังกล่าวมีสาระสำคัญ อาทิ การกำหนดนิยามความหมายของคำว่า เจ้าหน้าที่ของรัฐ ผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง คู่สมรส ญาติ และคณะกรรมการ ป.ป.ช. กำหนดห้ามมิให้ผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองหรือเจ้าหน้าที่ของรัฐ คู่สมรสหรือญาติ เข้ามามีส่วนได้เสียไม่ว่าโดยทางตรงหรือโดยอ้อม ซึ่งเป็นการขัดกันระหว่างประโยชน์ส่วนบุคคลของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองหรือเจ้าหน้าที่ของรัฐกับประโยชน์ส่วนรวม ฯลฯ กำหนดให้เจ้าหน้าที่ของรัฐ คู่สมรส หรือญาติ ที่ได้รับของขวัญ ของที่ระลึก เงินหรือทรัพย์สินอื่นใดที่มีผู้มอบให้ในโอกาสที่เจ้าหน้าที่ของรัฐปฏิบัติตามตำแหน่งหน้าที่ของตน หรือราชการอื่นตามที่รับมอบหมาย แม้ว่าจะให้เป็นการส่วนตัวก็ตาม ให้บรรดาของเหล่านั้นตกเป็นของรัฐทั้งสิ้น ฯลฯ การกำหนดให้ ส.ส. ส.ว. หรือสมาชิกของทั้งสองสภา ซึ่งเข้าชื่อรวมกันไม่น้อยกว่า 50 คน ผู้มีสิทธิเลือกตั้งจำนวนไม่น้อยกว่า 5,000 คน ผู้ตรวจการแผ่นดินของรัฐสภาร่วมกันอย่างน้อย 2 คน มีสิทธิเข้าชื่อยื่นคำร้องต่อคณะกรรมการ ป.ป.ช. ขอให้มีการไต่สวนข้อเท็จจริง เพื่อระงับการดำเนินงานโครงการของรัฐหรือสัญญาสัมปทานของรัฐ ฯลฯ เป็นต้น
--กลุ่มยุทธศาสตร์และแผนการประชาสัมพันธ์ สำนักโฆษก--
โดยร่างพระราชบัญญัติฉบับดังกล่าวมีสาระสำคัญ อาทิ การกำหนดนิยามความหมายของคำว่า เจ้าหน้าที่ของรัฐ ผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง คู่สมรส ญาติ และคณะกรรมการ ป.ป.ช. กำหนดห้ามมิให้ผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองหรือเจ้าหน้าที่ของรัฐ คู่สมรสหรือญาติ เข้ามามีส่วนได้เสียไม่ว่าโดยทางตรงหรือโดยอ้อม ซึ่งเป็นการขัดกันระหว่างประโยชน์ส่วนบุคคลของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองหรือเจ้าหน้าที่ของรัฐกับประโยชน์ส่วนรวม ฯลฯ กำหนดให้เจ้าหน้าที่ของรัฐ คู่สมรส หรือญาติ ที่ได้รับของขวัญ ของที่ระลึก เงินหรือทรัพย์สินอื่นใดที่มีผู้มอบให้ในโอกาสที่เจ้าหน้าที่ของรัฐปฏิบัติตามตำแหน่งหน้าที่ของตน หรือราชการอื่นตามที่รับมอบหมาย แม้ว่าจะให้เป็นการส่วนตัวก็ตาม ให้บรรดาของเหล่านั้นตกเป็นของรัฐทั้งสิ้น ฯลฯ การกำหนดให้ ส.ส. ส.ว. หรือสมาชิกของทั้งสองสภา ซึ่งเข้าชื่อรวมกันไม่น้อยกว่า 50 คน ผู้มีสิทธิเลือกตั้งจำนวนไม่น้อยกว่า 5,000 คน ผู้ตรวจการแผ่นดินของรัฐสภาร่วมกันอย่างน้อย 2 คน มีสิทธิเข้าชื่อยื่นคำร้องต่อคณะกรรมการ ป.ป.ช. ขอให้มีการไต่สวนข้อเท็จจริง เพื่อระงับการดำเนินงานโครงการของรัฐหรือสัญญาสัมปทานของรัฐ ฯลฯ เป็นต้น
--กลุ่มยุทธศาสตร์และแผนการประชาสัมพันธ์ สำนักโฆษก--