วันนี้ เวลา 11.20น. นายธีระ สูตะบุตร รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กล่าวในรายการ “สายตรงทำเนียบ” ทางสถานีวิทยุโทรทัศน์แห่งประเทศไทย ช่อง 11 กรมประชาสัมพันธ์ กล่าวว่า ปีนี้ราคาพืชผลทางการเกษตรถือว่าอยู่ในเกณฑ์ดี ในส่วนของไม้ผลทางกรมส่งเสริม สหกรณ์และกรมส่งเสริมการเกษตรเข้าไปดูแลอย่างเต็มที่ โดยเฉพาะมังคุดมีปริมาณผลิตสูงกว่าปีที่แล้ว 3 เท่า แต่ราคาก็ดีขึ้น ส่วนพืชเกษตรชนิดอื่นๆ เช่น ข้าว มันสำปะหลัง ข้าวโพด ปาล์มน้ำมัน ยางพารา ราคาก็อยู่ในเกณฑ์ที่ดี ทำให้การส่งออกเพิ่มขึ้น 20 เปอร์เซ็นต์ แต่เกษตรกรยังมีภาวะเสี่ยงอยู่ ดังนั้น ทางกรมชลประทานและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะร่วมกันจัดทำแผนโดยการเพิ่มพื้นที่ชลประทานให้มากที่สุด เพื่อลดปัญหาเสี่ยงของเกษตรกร คาดว่าแผนดังกล่าวจะเสร็จภายใน 1 เดือน รวมไปถึงการสร้างอ่างเก็บน้ำทั้งขนาดเล็กและขนาดใหญ่ พื้นที่แก้มลิง เพิ่มขึ้นในอนาคต อย่างไรก็ตาม การดำเนินการดังกล่าวจะต้องคำนึงถึงผลกระทบสิ่งแวดล้อม ผลกระทบทางสังคม และประชาชนในพื้นที่ โดยจะต้องเปิดโอกาสให้ประชาชนเข้ามามีส่วนร่วมด้วย นอกจากนี้จะต้องเร่งพัฒนาเมล็ดพันธุ์และต้นพันธุ์ให้มีคุณภาพมากที่สุด โดยเฉพาะข้าว ซึ่งขณะนี้กรมการข้าวมีศูนย์ผลิตเมล็ดพันธุ์หลักและศูนย์ข้าวชุมชน โดยมีเกษตรกรที่เข้าร่วมโครงการประมาณ 4,000 แห่งแล้ว และจะเพิ่มศูนย์ข้าวชุมชนอีกประมาณปีละ 1,000 แห่ง เพื่อขยายการผลิตเมล็ดพันธุ์ข้าวดี รวมทั้งการสร้างผลิตพันธุ์มูลค่าเพิ่มแก่สินค้าเกษตรหลังการเก็บเกี่ยว โดยเน้นการแปรรูปเป็นหลัก
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กล่าวว่า จะเร่งรัดให้กรมวิชาการเกษตรตรวจสอบคุณภาพผลผลิตทางการเกษตรของเกษตรกรส่วนต่างๆ การขยายตลาดการส่งออกผลิตผลทางการเกษตร และผลผลิตที่ผ่านการแปรรูปแล้ว ไปสู่ต่างประเทศให้มากขึ้น โดยเฉพาะประเทศแถบอาหรับ ซึ่งมีอนาคตที่ดี เช่น การเปิดธุรกิจอาหารฮาลาล หรือการส่งออกผลไม้ไทย เป็นต้น ซึ่งขณะนี้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ได้เร่งผลักดันกฎหมาย 2-3 ฉบับเกี่ยวกับสภาการเกษตร มาตรฐานปุ๋ย มาตรฐานทางพันธุ์พืช การประมง ให้เทียบเท่านานาประเทศ เพื่อรองรับการส่งออกด้วย นอกจากนี้ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ยังคงผลักดันและสนับสนุนสินค้าเดิมที่มีศักยภาพในตลาดโลก เช่น กล้วยไม้ และปาล์มสวยงาม
--กลุ่มยุทธศาสตร์และแผนการประชาสัมพันธ์ สำนักโฆษก--
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กล่าวว่า จะเร่งรัดให้กรมวิชาการเกษตรตรวจสอบคุณภาพผลผลิตทางการเกษตรของเกษตรกรส่วนต่างๆ การขยายตลาดการส่งออกผลิตผลทางการเกษตร และผลผลิตที่ผ่านการแปรรูปแล้ว ไปสู่ต่างประเทศให้มากขึ้น โดยเฉพาะประเทศแถบอาหรับ ซึ่งมีอนาคตที่ดี เช่น การเปิดธุรกิจอาหารฮาลาล หรือการส่งออกผลไม้ไทย เป็นต้น ซึ่งขณะนี้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ได้เร่งผลักดันกฎหมาย 2-3 ฉบับเกี่ยวกับสภาการเกษตร มาตรฐานปุ๋ย มาตรฐานทางพันธุ์พืช การประมง ให้เทียบเท่านานาประเทศ เพื่อรองรับการส่งออกด้วย นอกจากนี้ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ยังคงผลักดันและสนับสนุนสินค้าเดิมที่มีศักยภาพในตลาดโลก เช่น กล้วยไม้ และปาล์มสวยงาม
--กลุ่มยุทธศาสตร์และแผนการประชาสัมพันธ์ สำนักโฆษก--