นายกรัฐมนตรีระบุสถานการณ์หลังจากที่ 9 แกนนำ นปก. ถูกจับกุมสถานการณ์ทางการเมืองน่าจะคลี่คลายลงไปได้ระดับหนึ่ง และเมื่อเข้าสู่กระบวนการยุติธรรมและสามารถทำความเข้าใจกับประชาชนส่วนใหญ่ได้ว่าการดำเนินการดังกล่าวไม่ได้เป็นการกลั่นแกล้ง
เมื่อเวลา 10.40 น. ที่ทำเนียบรัฐบาล พลเอก สุรยุทธ์ จุลานนท์ นายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงสถานการณ์หลังจากที่ 9 แกนนำกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยขับไล่เผด็จการ (นปก.) ถูกจับกุมว่า คิดว่าสถานการณ์ในเรื่องทางการเมืองน่าจะคลี่คลายลงไปได้ระดับหนึ่ง ซึ่งคิดว่าเมื่อเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม และสามารถทำความเข้าใจกับประชาชนส่วนใหญ่ได้ว่าการดำเนินการต่าง ๆ ไม่ได้เป็นการกลั่นแกล้ง ไม่ได้เป็นการไปฉกฉวยผลประโยชน์ในสิ่งหนึ่งสิ่งใด คิดว่าด้วยเหตุผลและการทำงานของเจ้าหน้าที่ก็เห็นว่า รัฐบาลไม่ได้เข้าไปมีส่วนเกี่ยวข้องในการตั้งเป้าหรือตั้งธงแต่อย่างใด และอยากให้เป็นเรื่องของกระบวนการพิจารณาของกฎหมายอย่างแท้จริง
ต่อข้อถามว่า ในส่วนของกลุ่ม นปก.ที่เหลือรัฐบาลจะดำเนินการอย่างไร นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า รัฐบาลคงจะไม่เข้าไปจัดการ แต่ละบุคคลก็สามารถพิจารณาได้เอง ซึ่งคิดว่าระยะเวลาในการที่จะลงประชามติใกล้เข้ามาแล้ว ถ้าหากเราจะเดินหน้าไปสู่การลงประชามติก็เป็นสิ่งที่ดี อย่างไรก็ตาม ขณะนี้คิดว่าประชาชนส่วนใหญ่เข้าใจว่าไม่เป็นสิ่งที่ดี ถ้าจะใช้วิธีการประท้วงที่รุนแรง แต่รัฐบาลก็พร้อมที่จะรับฟังเมื่อมีการวิจารณ์หรือมีการชี้แจงเหตุผลกัน
ต่อข้อถามว่า พลตำรวจเอก เสรีพิศุทธ์ เตมียาเวส รักษาราชการแทนผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติได้รายงานให้ทราบถึงฟางเส้นสุดท้ายที่ตำรวจเปลี่ยนจากหมายจับเป็นหมายฝากขังหรือไม่ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า พลตำรวจเอก เสรีพิศุทธ์ฯ ไม่ได้พูดถึงฟางเส้นสุดท้ายหรือฟางเส้นแรก แต่ได้รายงานถึงเหตุการณ์ต่าง ๆ ว่าเป็นมาอย่างไร
ต่อข้อถามว่า แกนนำ นปก.ระบุว่าถูกหักหลัง นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ทางเลขาธิการศาลฎีกาได้ชี้แจงรายละเอียดแล้ว ซึ่งชัดเจน คงไม่ได้เป็นเรื่องของการหักหลัง เพราะทุกคนเชื่อมั่นในกระบวนการของศาลยุติธรรม
ผู้สื่อข่าวถามว่า ในการพบกับพลเอก เปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรีและรัฐบุรุษ ท่านได้แสดงความห่วงใยอะไรบ้าง นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า เท่าที่ได้ฟัง พลเอก เปรมฯ ได้ซักถามพลตำรวจเอก เสรีพิศุทธ์ฯ ว่าเหตุการณ์เป็นอย่างไรในช่วงค่ำ นอกนั้นก็ไม่เห็นมีอะไร
ผู้สื่อข่าวถามว่า มีความเห็นอย่างไรที่ทาง นปก. ได้ตั้งแกนนำขึ้นมาใหม่ คิดว่าสถานการณ์จะกลับไปสู่จุดเดิมหรือไม่ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า คงต้องเฝ้าดู คิดว่าคนส่วนใหญ่น่าจะเข้าใจ เพราะการทำอะไรที่ถือว่าผิดกฎหมาย ละเมิดสิทธิของผู้อื่น ใช้สิทธิของตัวเองจนไปก้าวก่ายสิทธิของผู้อื่น ก็จะมีปัญหา ถ้าหากทำอยู่ในกรอบของกฎหมาย ไม่ไปละเมิดสิทธิของผู้อื่น ก็ไม่น่าจะมีปัญหาอะไร
ผู้สื่อข่าวถามว่า รัฐบาลรู้สึกเบาใจขึ้นหรือไม่หลัง 9 แกนนำ นปก.ถูกจับแล้ว นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า คงตอบในนามรัฐบาลไม่ได้ แต่ส่วนตัวมีความรู้สึกว่าถ้าเราทุกคนยึดหลักการคือทำตามกรอบของกฎหมาย และในบ้านเมืองของเราก็จะมีสิ่งที่เราไม่สามารถจะไปล้วงล้ำก้ำเกินสิทธิของผู้อื่นได้ ถ้าเราสามารถทำได้ก็จะเป็นสิ่งที่ดีที่สุด และไม่คิดว่าจะมีอะไรที่ดีมากกว่าที่เราทุกคนจะยอมรับกฎเกณฑ์ของสังคม
ผู้สื่อข่าวถามว่า คิดว่ากลุ่มการเมืองจะมีการออกมาเคลื่อนไหวอะไรหรือไม่ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า เป็นเรื่องที่ต้องคอยติดตามดูกันต่อไป หน้าที่ของรัฐบาลคือการดูแลความสงบเรียบร้อย ถ้ามีสิ่งใดที่ก้ำเกิน ก็ต้องดำเนินการตามกฎหมาย แต่ไม่ได้คิดว่าจะเตรียมตัวเพื่อเผชิญกับอะไร ขอฝากไปถึงประชาชนทุกคนว่ารัฐบาลมุ่งไปสู่ความสงบ และการลงประชามติเพื่อให้เกิดการเลือกตั้ง รัฐบาลไม่เคยคิดที่จะทำสิ่งหนึ่งสิ่งใดที่จะทำให้เกิดปัญหาขึ้น
ผู้สื่อข่าวถามว่า มีการประเมินกันว่ารัฐบาลตั้งใจปล่อยให้มีการชุมนุมอย่างยืดเยื้อเพื่อให้สถานการณ์รุนแรง เพื่อรองรับการออกกฎหมายความมั่นคง นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ไม่เกี่ยวกัน เรื่องของการออกกฎหมายความมั่นคงนั้นเป็นขั้นตอนตามปกติ คือการรับฟังความคิดเห็น การรวบรวมข้อมูลในการปรับปรุงแก้ไข
--กลุ่มยุทธศาสตร์และแผนการประชาสัมพันธ์ สำนักโฆษก--
เมื่อเวลา 10.40 น. ที่ทำเนียบรัฐบาล พลเอก สุรยุทธ์ จุลานนท์ นายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงสถานการณ์หลังจากที่ 9 แกนนำกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยขับไล่เผด็จการ (นปก.) ถูกจับกุมว่า คิดว่าสถานการณ์ในเรื่องทางการเมืองน่าจะคลี่คลายลงไปได้ระดับหนึ่ง ซึ่งคิดว่าเมื่อเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม และสามารถทำความเข้าใจกับประชาชนส่วนใหญ่ได้ว่าการดำเนินการต่าง ๆ ไม่ได้เป็นการกลั่นแกล้ง ไม่ได้เป็นการไปฉกฉวยผลประโยชน์ในสิ่งหนึ่งสิ่งใด คิดว่าด้วยเหตุผลและการทำงานของเจ้าหน้าที่ก็เห็นว่า รัฐบาลไม่ได้เข้าไปมีส่วนเกี่ยวข้องในการตั้งเป้าหรือตั้งธงแต่อย่างใด และอยากให้เป็นเรื่องของกระบวนการพิจารณาของกฎหมายอย่างแท้จริง
ต่อข้อถามว่า ในส่วนของกลุ่ม นปก.ที่เหลือรัฐบาลจะดำเนินการอย่างไร นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า รัฐบาลคงจะไม่เข้าไปจัดการ แต่ละบุคคลก็สามารถพิจารณาได้เอง ซึ่งคิดว่าระยะเวลาในการที่จะลงประชามติใกล้เข้ามาแล้ว ถ้าหากเราจะเดินหน้าไปสู่การลงประชามติก็เป็นสิ่งที่ดี อย่างไรก็ตาม ขณะนี้คิดว่าประชาชนส่วนใหญ่เข้าใจว่าไม่เป็นสิ่งที่ดี ถ้าจะใช้วิธีการประท้วงที่รุนแรง แต่รัฐบาลก็พร้อมที่จะรับฟังเมื่อมีการวิจารณ์หรือมีการชี้แจงเหตุผลกัน
ต่อข้อถามว่า พลตำรวจเอก เสรีพิศุทธ์ เตมียาเวส รักษาราชการแทนผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติได้รายงานให้ทราบถึงฟางเส้นสุดท้ายที่ตำรวจเปลี่ยนจากหมายจับเป็นหมายฝากขังหรือไม่ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า พลตำรวจเอก เสรีพิศุทธ์ฯ ไม่ได้พูดถึงฟางเส้นสุดท้ายหรือฟางเส้นแรก แต่ได้รายงานถึงเหตุการณ์ต่าง ๆ ว่าเป็นมาอย่างไร
ต่อข้อถามว่า แกนนำ นปก.ระบุว่าถูกหักหลัง นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ทางเลขาธิการศาลฎีกาได้ชี้แจงรายละเอียดแล้ว ซึ่งชัดเจน คงไม่ได้เป็นเรื่องของการหักหลัง เพราะทุกคนเชื่อมั่นในกระบวนการของศาลยุติธรรม
ผู้สื่อข่าวถามว่า ในการพบกับพลเอก เปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรีและรัฐบุรุษ ท่านได้แสดงความห่วงใยอะไรบ้าง นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า เท่าที่ได้ฟัง พลเอก เปรมฯ ได้ซักถามพลตำรวจเอก เสรีพิศุทธ์ฯ ว่าเหตุการณ์เป็นอย่างไรในช่วงค่ำ นอกนั้นก็ไม่เห็นมีอะไร
ผู้สื่อข่าวถามว่า มีความเห็นอย่างไรที่ทาง นปก. ได้ตั้งแกนนำขึ้นมาใหม่ คิดว่าสถานการณ์จะกลับไปสู่จุดเดิมหรือไม่ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า คงต้องเฝ้าดู คิดว่าคนส่วนใหญ่น่าจะเข้าใจ เพราะการทำอะไรที่ถือว่าผิดกฎหมาย ละเมิดสิทธิของผู้อื่น ใช้สิทธิของตัวเองจนไปก้าวก่ายสิทธิของผู้อื่น ก็จะมีปัญหา ถ้าหากทำอยู่ในกรอบของกฎหมาย ไม่ไปละเมิดสิทธิของผู้อื่น ก็ไม่น่าจะมีปัญหาอะไร
ผู้สื่อข่าวถามว่า รัฐบาลรู้สึกเบาใจขึ้นหรือไม่หลัง 9 แกนนำ นปก.ถูกจับแล้ว นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า คงตอบในนามรัฐบาลไม่ได้ แต่ส่วนตัวมีความรู้สึกว่าถ้าเราทุกคนยึดหลักการคือทำตามกรอบของกฎหมาย และในบ้านเมืองของเราก็จะมีสิ่งที่เราไม่สามารถจะไปล้วงล้ำก้ำเกินสิทธิของผู้อื่นได้ ถ้าเราสามารถทำได้ก็จะเป็นสิ่งที่ดีที่สุด และไม่คิดว่าจะมีอะไรที่ดีมากกว่าที่เราทุกคนจะยอมรับกฎเกณฑ์ของสังคม
ผู้สื่อข่าวถามว่า คิดว่ากลุ่มการเมืองจะมีการออกมาเคลื่อนไหวอะไรหรือไม่ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า เป็นเรื่องที่ต้องคอยติดตามดูกันต่อไป หน้าที่ของรัฐบาลคือการดูแลความสงบเรียบร้อย ถ้ามีสิ่งใดที่ก้ำเกิน ก็ต้องดำเนินการตามกฎหมาย แต่ไม่ได้คิดว่าจะเตรียมตัวเพื่อเผชิญกับอะไร ขอฝากไปถึงประชาชนทุกคนว่ารัฐบาลมุ่งไปสู่ความสงบ และการลงประชามติเพื่อให้เกิดการเลือกตั้ง รัฐบาลไม่เคยคิดที่จะทำสิ่งหนึ่งสิ่งใดที่จะทำให้เกิดปัญหาขึ้น
ผู้สื่อข่าวถามว่า มีการประเมินกันว่ารัฐบาลตั้งใจปล่อยให้มีการชุมนุมอย่างยืดเยื้อเพื่อให้สถานการณ์รุนแรง เพื่อรองรับการออกกฎหมายความมั่นคง นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ไม่เกี่ยวกัน เรื่องของการออกกฎหมายความมั่นคงนั้นเป็นขั้นตอนตามปกติ คือการรับฟังความคิดเห็น การรวบรวมข้อมูลในการปรับปรุงแก้ไข
--กลุ่มยุทธศาสตร์และแผนการประชาสัมพันธ์ สำนักโฆษก--