พลเอก สุรยุทธ์ จุลานนท์ นายกรัฐมนตรี เป็นประธานในงานแถลงข่าวเฉลิมพระเกียรติเนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 80 พรรษา 5 ธันวาคม 2550 พร้อมเป็นประธานเปิดนิทรรศการและเว็บไซต์เฉลิมพระเกียรติฯ www.80thbirthdayanniversary.go.th และเปิดศูนย์ประชาสัมพันธ์การจัดงานเฉลิมพระเกียรติฯ จัดโดยคณะกรรมการฝ่ายประชาสัมพันธ์งานเฉลิมพระเกียรติฯ
วันนี้ เวลา 10.00 น. ณ ตึกสันติไมตรี ทำเนียบรัฐบาล พลเอก สุรยุทธ์ จุลานนท์ นายกรัฐมนตรี เป็นประธานในงานแถลงข่าวเฉลิมพระเกียรติเนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 80 พรรษา 5 ธันวาคม 2550 พร้อมเป็นประธานเปิดนิทรรศการและเว็บไซต์เฉลิมพระเกียรติฯ www.80thbirthdayanniversary.go.th และเปิดศูนย์ประชาสัมพันธ์การจัดงานเฉลิมพระเกียรติฯ จัดโดยคณะกรรมการฝ่ายประชาสัมพันธ์งานเฉลิมพระเกียรติฯ
คุณหญิงทิพาวดี เมฆสวรรค์ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ได้กล่าวรายงาน โดยสรุปว่า เนื่องในโอกาสที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวจะทรงเจริญพระชนมพรรษา 80 พรรษา ในวันที่ 5 ธันวาคม 2550 นับเป็นมหามงคลสมัยพิเศษยิ่งซึ่งรัฐบาลจะได้จัดงานเฉลิมฉลองครั้งยิ่งใหญ่ให้สมพระเกียรติ และได้กำหนดให้การจัดงานเฉลิมพระเกียรติฯ เป็นวาระแห่งชาติ โดยส่วนราชการและหน่วยงานต่าง ๆ ได้ร่วมกันจัดงานเพื่อให้ประชาชนในทุกภาคส่วนได้แสดงความกตัญญูกตเวที พร้อมรำลึกในพระมหากรุณาธิคุณ และแสดงความจงรักภักดีถวายเป็นราชสักการะแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
โอกาสนี้ นายกรัฐมนตรีได้ชมวีดิทัศน์สรุปกิจกรรมเฉลิมพระเกียรติฯ ในปี 2550 ที่ได้ดำเนินการมาแล้วตั้งแต่เดือนมกราคมถึงเดือนมิถุนายน รวมทั้งกิจกรรมเด่น ๆ ที่จะดำเนินการตั้งแต่เดือนกรกฎาคมถึงเดือนธันวาคม 2550 ก่อนกล่าวเปิดการแถลงข่าวเฉลิมพระเกียรติเนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 80 พรรษา 5 ธันวาคม 2550 สรุปสาระสำคัญว่า เนื่องในโอกาสอันเป็นมหามงคลยิ่งที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงเจริญพระชนมพรรษา 80 พรรษา ในวันที่ 5 ธันวาคม ศกนี้ รัฐบาลได้กำหนดให้เป็นวาระแห่งชาติ ที่ทุกฝ่ายจะได้ร่วมกันจัดงานเฉลิมพระเกียรติขึ้น ใน 4 ลักษณะ คือ งานพระราชพิธี งานรัฐพิธี งานศาสนพิธี และงานโครงการและกิจกรรม ซึ่งขณะนี้คณะกรรมการฝ่ายต่าง ๆ จำนวน 9 คณะ ในคณะกรรมการอำนวยการจัดงานเฉลิมพระเกียรติฯ ได้ช่วยกันจัดโครงการและกิจกรรมต่าง ๆ มาแล้ว จำนวนหลายโครงการและกิจกรรม เช่น การเชิญชวนให้ประชาชน สวมเสื้อเหลือง ประดับธงและตราสัญลักษณ์งานเฉลิมพระเกียรติฯ การจัดสร้างซุ้มเฉลิมพระเกียรติฯ การประดับตกแต่งธงทิวโคมไฟและตราสัญลักษณ์ การจัดพิมพ์ธนบัตร สร้างเหรียญกษาปณ์ที่ระลึกและเหรียญที่ระลึก การจัดทำหนังสือพร้อมบัตรโทรศัพท์เฉลิมพระเกียรติฯ การจัดทำตราไปรษณียากรที่ระลึก การจัดทำเข็มที่ระลึกตราสัญลักษณ์ งานเฉลิมพระเกียรติฯ และการจัดทำเพลงเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เป็นต้น นอกจากนี้ ยังมีโครงการและกิจกรรมที่หน่วยงานทั้งภาครัฐและภาคเอกชนได้ร่วมกันจัดทำขึ้นอีกจำนวน 31 โครงการและกิจกรรมด้วย
การดำเนินโครงการต่าง ๆ ดังกล่าวได้เริ่มมาตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม จนถึงวันนี้ เป็นเวลาประมาณ 6 เดือนแล้ว และจะได้ดำเนินงานต่อไปจนถึงสิ้นปี 2550 วันนี้จึงเป็นโอกาสอันดีที่คณะกรรมการฝ่ายประชาสัมพันธ์ ได้จัดงานแถลงข่าวขึ้น เพื่อย้ำเตือนถึงความสำคัญของการร่วมมือกันเผยแพร่โครงการและกิจกรรมเฉลิมพระเกียรติฯ ให้ปรากฏแพร่หลาย ให้ประชาชนได้รับรู้และมีส่วนร่วมในกิจกรรมต่าง ๆ ต่อไป
“ ผมขอความร่วมมือจากสื่อมวลชนทุกสาขา ขอให้ช่วยกันรณรงค์เผยแพร่กิจกรรมจัดงานต่าง ๆ อย่างต่อเนื่องต่อไปด้วย และขอเชิญชวนพี่น้องคนไทยร่วมกันน้อมเกล้าน้อมกระหม่อม แสดงความจงรักภักดีให้เป็นที่ประจักษ์แก่สายตาของชาวโลกอีกครั้งหนึ่ง ด้วยการพร้อมใจกันบำเพ็ญสาธารณประโยชน์และประกอบคุณงามความดีเพื่อถวายเป็นพระราชกุศล พร้อมทั้งเข้าร่วมกิจกรรมและงานเฉลิมฉลองต่าง ๆ ซึ่งจะจัดให้มีขึ้นต่อไปโดยพร้อมเพรียงกัน” นายกรัฐมนตรีกล่าว
จากนั้น นายกรัฐมนตรีได้เป็นประธานเปิดนิทรรศการและเว็บไซต์เฉลิมพระเกียรติฯ ww.80thbirthdayanniversary.go.th และเปิดศูนย์ประชาสัมพันธ์การจัดงานเฉลิมพระเกียรติฯ โดยการลงนามเปิดที่แท่นพิธี ต่อจากนั้น นายกรัฐมนตรี คณะรัฐมนตรี ผู้บริหารภาคราชการ และแขกผู้มีเกียรติได้ร่วมขับร้องเพลง “พ่อแห่งแผ่นดิน” บนเวที และชมนิทรรศการเฉลิมพระเกียรติฯ จาก 12 หน่วยงาน ณ โถงกลาง ตึกสันติไมตรี
การจัดงานแถลงข่าวของคณะกรรมการฝ่ายประชาสัมพันธ์งานเฉลิมพระเกียรติในวันนี้ มีนิทรรศการเกี่ยวกับโครงการและกิจกรรมตัวอย่างที่จัดขึ้นเพื่อน้อมเกล้าฯ เฉลิมพระเกียรติในโอกาสมหามงคลฯ จำนวนหลายโครงการ อาทิ โครงการอนุรักษ์ฟิล์มภาพยนตร์และภาพนิ่งส่วนพระองค์ โครงการจัดสร้างพระมหามณฑปประดิษฐานพระพุทธมหาสุวรรณปฏิมากร วัดไตรมิตรวิทยาราม โครงการเรือห้องสมุดเฉลิมพระเกียรติ 80 พรรษามหาราชัน โครงการปลูกต้นไม้ปลูกป่าถาวรเฉลิมพระเกียรติฯ โครงการหอนิทรรศการคีตราชัน โครงการเฉลิมพระเกียรติฯ ของกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร และนิทรรศการเฉลิมพระเกียรติฯ ซึ่งเป็นการร่วมใจกันจัดถวายโดยภาครัฐกับภาคเอกชน ในรูปแบบนิทรรศการเดินสายไปทั่วประเทศ เป็นต้น
--กลุ่มยุทธศาสตร์และแผนการประชาสัมพันธ์ สำนักโฆษก--
วันนี้ เวลา 10.00 น. ณ ตึกสันติไมตรี ทำเนียบรัฐบาล พลเอก สุรยุทธ์ จุลานนท์ นายกรัฐมนตรี เป็นประธานในงานแถลงข่าวเฉลิมพระเกียรติเนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 80 พรรษา 5 ธันวาคม 2550 พร้อมเป็นประธานเปิดนิทรรศการและเว็บไซต์เฉลิมพระเกียรติฯ www.80thbirthdayanniversary.go.th และเปิดศูนย์ประชาสัมพันธ์การจัดงานเฉลิมพระเกียรติฯ จัดโดยคณะกรรมการฝ่ายประชาสัมพันธ์งานเฉลิมพระเกียรติฯ
คุณหญิงทิพาวดี เมฆสวรรค์ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ได้กล่าวรายงาน โดยสรุปว่า เนื่องในโอกาสที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวจะทรงเจริญพระชนมพรรษา 80 พรรษา ในวันที่ 5 ธันวาคม 2550 นับเป็นมหามงคลสมัยพิเศษยิ่งซึ่งรัฐบาลจะได้จัดงานเฉลิมฉลองครั้งยิ่งใหญ่ให้สมพระเกียรติ และได้กำหนดให้การจัดงานเฉลิมพระเกียรติฯ เป็นวาระแห่งชาติ โดยส่วนราชการและหน่วยงานต่าง ๆ ได้ร่วมกันจัดงานเพื่อให้ประชาชนในทุกภาคส่วนได้แสดงความกตัญญูกตเวที พร้อมรำลึกในพระมหากรุณาธิคุณ และแสดงความจงรักภักดีถวายเป็นราชสักการะแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
โอกาสนี้ นายกรัฐมนตรีได้ชมวีดิทัศน์สรุปกิจกรรมเฉลิมพระเกียรติฯ ในปี 2550 ที่ได้ดำเนินการมาแล้วตั้งแต่เดือนมกราคมถึงเดือนมิถุนายน รวมทั้งกิจกรรมเด่น ๆ ที่จะดำเนินการตั้งแต่เดือนกรกฎาคมถึงเดือนธันวาคม 2550 ก่อนกล่าวเปิดการแถลงข่าวเฉลิมพระเกียรติเนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 80 พรรษา 5 ธันวาคม 2550 สรุปสาระสำคัญว่า เนื่องในโอกาสอันเป็นมหามงคลยิ่งที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงเจริญพระชนมพรรษา 80 พรรษา ในวันที่ 5 ธันวาคม ศกนี้ รัฐบาลได้กำหนดให้เป็นวาระแห่งชาติ ที่ทุกฝ่ายจะได้ร่วมกันจัดงานเฉลิมพระเกียรติขึ้น ใน 4 ลักษณะ คือ งานพระราชพิธี งานรัฐพิธี งานศาสนพิธี และงานโครงการและกิจกรรม ซึ่งขณะนี้คณะกรรมการฝ่ายต่าง ๆ จำนวน 9 คณะ ในคณะกรรมการอำนวยการจัดงานเฉลิมพระเกียรติฯ ได้ช่วยกันจัดโครงการและกิจกรรมต่าง ๆ มาแล้ว จำนวนหลายโครงการและกิจกรรม เช่น การเชิญชวนให้ประชาชน สวมเสื้อเหลือง ประดับธงและตราสัญลักษณ์งานเฉลิมพระเกียรติฯ การจัดสร้างซุ้มเฉลิมพระเกียรติฯ การประดับตกแต่งธงทิวโคมไฟและตราสัญลักษณ์ การจัดพิมพ์ธนบัตร สร้างเหรียญกษาปณ์ที่ระลึกและเหรียญที่ระลึก การจัดทำหนังสือพร้อมบัตรโทรศัพท์เฉลิมพระเกียรติฯ การจัดทำตราไปรษณียากรที่ระลึก การจัดทำเข็มที่ระลึกตราสัญลักษณ์ งานเฉลิมพระเกียรติฯ และการจัดทำเพลงเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เป็นต้น นอกจากนี้ ยังมีโครงการและกิจกรรมที่หน่วยงานทั้งภาครัฐและภาคเอกชนได้ร่วมกันจัดทำขึ้นอีกจำนวน 31 โครงการและกิจกรรมด้วย
การดำเนินโครงการต่าง ๆ ดังกล่าวได้เริ่มมาตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม จนถึงวันนี้ เป็นเวลาประมาณ 6 เดือนแล้ว และจะได้ดำเนินงานต่อไปจนถึงสิ้นปี 2550 วันนี้จึงเป็นโอกาสอันดีที่คณะกรรมการฝ่ายประชาสัมพันธ์ ได้จัดงานแถลงข่าวขึ้น เพื่อย้ำเตือนถึงความสำคัญของการร่วมมือกันเผยแพร่โครงการและกิจกรรมเฉลิมพระเกียรติฯ ให้ปรากฏแพร่หลาย ให้ประชาชนได้รับรู้และมีส่วนร่วมในกิจกรรมต่าง ๆ ต่อไป
“ ผมขอความร่วมมือจากสื่อมวลชนทุกสาขา ขอให้ช่วยกันรณรงค์เผยแพร่กิจกรรมจัดงานต่าง ๆ อย่างต่อเนื่องต่อไปด้วย และขอเชิญชวนพี่น้องคนไทยร่วมกันน้อมเกล้าน้อมกระหม่อม แสดงความจงรักภักดีให้เป็นที่ประจักษ์แก่สายตาของชาวโลกอีกครั้งหนึ่ง ด้วยการพร้อมใจกันบำเพ็ญสาธารณประโยชน์และประกอบคุณงามความดีเพื่อถวายเป็นพระราชกุศล พร้อมทั้งเข้าร่วมกิจกรรมและงานเฉลิมฉลองต่าง ๆ ซึ่งจะจัดให้มีขึ้นต่อไปโดยพร้อมเพรียงกัน” นายกรัฐมนตรีกล่าว
จากนั้น นายกรัฐมนตรีได้เป็นประธานเปิดนิทรรศการและเว็บไซต์เฉลิมพระเกียรติฯ ww.80thbirthdayanniversary.go.th และเปิดศูนย์ประชาสัมพันธ์การจัดงานเฉลิมพระเกียรติฯ โดยการลงนามเปิดที่แท่นพิธี ต่อจากนั้น นายกรัฐมนตรี คณะรัฐมนตรี ผู้บริหารภาคราชการ และแขกผู้มีเกียรติได้ร่วมขับร้องเพลง “พ่อแห่งแผ่นดิน” บนเวที และชมนิทรรศการเฉลิมพระเกียรติฯ จาก 12 หน่วยงาน ณ โถงกลาง ตึกสันติไมตรี
การจัดงานแถลงข่าวของคณะกรรมการฝ่ายประชาสัมพันธ์งานเฉลิมพระเกียรติในวันนี้ มีนิทรรศการเกี่ยวกับโครงการและกิจกรรมตัวอย่างที่จัดขึ้นเพื่อน้อมเกล้าฯ เฉลิมพระเกียรติในโอกาสมหามงคลฯ จำนวนหลายโครงการ อาทิ โครงการอนุรักษ์ฟิล์มภาพยนตร์และภาพนิ่งส่วนพระองค์ โครงการจัดสร้างพระมหามณฑปประดิษฐานพระพุทธมหาสุวรรณปฏิมากร วัดไตรมิตรวิทยาราม โครงการเรือห้องสมุดเฉลิมพระเกียรติ 80 พรรษามหาราชัน โครงการปลูกต้นไม้ปลูกป่าถาวรเฉลิมพระเกียรติฯ โครงการหอนิทรรศการคีตราชัน โครงการเฉลิมพระเกียรติฯ ของกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร และนิทรรศการเฉลิมพระเกียรติฯ ซึ่งเป็นการร่วมใจกันจัดถวายโดยภาครัฐกับภาคเอกชน ในรูปแบบนิทรรศการเดินสายไปทั่วประเทศ เป็นต้น
--กลุ่มยุทธศาสตร์และแผนการประชาสัมพันธ์ สำนักโฆษก--