วันนี้ เวลา 14.00 น. ณ ตึกสันติไมตรี ทำเนียบรัฐบาล พลเอก สุรยุทธ์ จุลานนท์ นายกรัฐมนตรี พร้อมด้วยนายโฆสิต ปั้นเปี่ยมรัษฎ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม คุณหญิงทิพาวดี เมฆสวรรค์ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี พบปะสื่อมวลชนประจำทำเนียบรัฐบาล พร้อมตอบข้อซักถามในประเด็นต่างๆ ที่อยู่ในความสนใจของสื่อมวลชนและประชาชน
ประชุมหน่วยงานความมั่นคงแก้ 3 เรื่องหลัก การเมือง-ภาคใต้-ยาเสพติด
พลเอก สุรยุทธ์ จุลานนท์ นายกรัฐมนตรี เป็นการพบกับสื่อมวลชนตามปกติ เมื่อเช้าได้สัญญากันไว้ว่า จะเล่าให้ฟังเรื่องที่มีการประชุมที่กองบัญชาการกองทัพบกเมื่อเช้านี้ ตั้งแต่เวลา 10.00 น. ขอเรียนว่าเป็นการประชุมของกองอำนวยการรักษาความมั่นภายใน (กอ.รมน.) แต่ไม่ได้ใช้ที่ประชุมที่ กอ.รมน. เนื่องจากที่นั่นหอประชุมแคบ เมื่อเช้าได้เชิญรัฐมนตรีจากหลายกระทรวงที่จะต้องทำงานเกี่ยวข้องกันในด้านของมิติความมั่นคง ซึ่งในวาระสำคัญที่ได้มีการพูดกันคงเป็นเรื่องหลัก ๆ 3 เรื่อง คือ เกี่ยวกับสถานการณ์ทางการเมืองในปัจจุบัน เรื่องสถานการณ์ทางภาคใต้ และเรื่องการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด ที่ได้ดำเนินมา นั่นเป็นเรื่องหลัก ๆ 3 เรื่องที่ได้พูดกันเมื่อเช้านี้
ในเรื่องของสถานการณ์ทางการเมือง ได้มีการแลกเปลี่ยนข้อคิดเห็นกันระหว่างรัฐมนตรีหลาย ๆ กระทรวงว่า แต่ละกระทรวงได้มีบทบาท มีความเกี่ยวข้องในด้านต่าง ๆ อย่างไรบ้าง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศได้พูดถึงบทบาทของกระทรวงการต่างประเทศในช่วงระยะเวลาที่ผ่านมา ในเรื่องที่จะทำความเข้าใจกับบรรดาประเทศต่าง ๆ ให้เข้าใจว่า ขณะนี้เราอยู่ในห้วงเวลาของการเปลี่ยนผ่านและมีความจำเป็นที่จะต้องเดินไปตามครรลองของการเปลี่ยนแปลงนั้นตามรัฐธรรมนูญฉบับ ชั่วคราว ซึ่งได้ดำเนินการมาโดยตลอด คิดว่าเป็นที่มีความเชื่อใจของมิตรประเทศต่าง ๆ ว่าเราได้ดำเนินการมาเรียบร้อย และจะไปสู่ขั้นตอนของร่างรัฐธรรมนูญฉบับที่ 2 ในช่วงระยะเวลาที่ไม่นานเกินไปนัก หลังจากนั้นจะเป็นการลงประชามติ ซึ่งจะเป็นไปตามขั้นตอน และอาจจะทำได้เร็วกว่าห้วงเวลาที่กำหนด ในภาพของมุมมองจากต่างประเทศแล้ว คงเป็นสิ่งที่เขาเพ่งเล็งว่าเราสามารถที่จะดำเนินการให้กลับไปสู่การเลือกตั้งในปลายปีนี้ได้หรือไม่ตามที่ได้กล่าวไปแล้ว นั่นเป็นประเด็นใหญ่ที่ถือว่าเป็นภาพที่ต่างประเทศได้มองดูประเทศไทย
ในเรื่องของการประชาสัมพันธ์ของบริษัทที่ทำหน้าที่ประชาสัมพันธ์ให้กับพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี กระทรวงการต่างประเทศได้ชี้แจงว่า คงเป็นเรื่องที่เขาได้ทำตามหน้าที่ที่รับเงินไปแล้ว เขาก็ต้องทำหน้าที่ประชาสัมพันธ์อย่างนั้น แต่ผลที่ออกมาคงไม่ได้มีผลกระทบต่อภาพลักษณ์ของประเทศแต่อย่างใด เพราะว่ามุมมองอย่างที่ผมได้บอกว่า มุมมองของรัฐบาลประเทศต่าง ๆ นั้น มองเพียงว่าเราจะก้าวไปสู่ขั้นตอนของการเลือกตั้งตามระบอบประชาธิปไตย มีรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้งอย่างไร
ในส่วนของกระทรวงต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องในขณะนี้ บทบาทที่จะมีส่วนร่วมกับกระบวนการที่จะไปสู่การเมืองที่มาจากระบอบประชาธิปไตยโดยสมบูรณ์ คือการที่จะทำให้ประชาชนเกิดความเข้าใจในร่างรัฐธรรมนูญที่เรากำลังดำเนินการอยู่ในขณะนี้ ทำอย่างไรที่จะทำความเข้าใจกับประชาชนที่ไม่ได้มีโอกาสติดตามข่าวสารมากนัก ประชาชนที่อยู่ในระดับฐานรากมีความเข้าใจว่า รัฐธรรมนูญที่เรากำลังดำเนินการร่างอยู่นี้ มีสาระอะไรบ้าง มีการเปลี่ยนแปลงจากฉบับที่สำคัญคือฉบับปี 2540 อย่างไรบ้าง นั่นเป็นประเด็นที่เจ้าหน้าที่ของรัฐสามารถที่จะนำไปทำความเข้าใจกับพี่น้องประชาชน และจะนำไปสู่การลงประชามติ หลังจากนั้นจะเป็นการที่จะทำความเข้าใจเพื่อจะไปสู่การเลือกตั้ง ซึ่งคงไม่ได้เป็นเรื่องที่ยากลำบากอะไร เพราะว่าขณะนี้ทางคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ได้ร่วมมือกับกระทรวงศึกษาธิการ มีการลงนามในข้อตกลงร่วมกันว่าจะดำเนินการกันอย่างไรที่จะทำให้ทางด้านของกระทรวงศึกษาธิการมีโอกาสที่จะพบปะกับเยาวชน ซึ่งบางส่วนก็มีสิทธิในการเลือกตั้งแล้ว นั่นเป็นเรื่องที่ กกต. ได้ดำเนินการอยู่ในขณะนี้ หลาย ๆ กระทรวงซึ่งมีหน้าที่คล้าย ๆ กัน ไม่ว่าจะเป็นกระทรวงมหาดไทย ซึ่งเกี่ยวข้องโดยตรงอยู่แล้ว ทั้งในการปกครองส่วนภูมิภาค และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ก็มีบทบาทที่สำคัญที่จะต้องมีส่วนช่วยกัน
เมื่อเช้าได้พูดกันถึงว่าทำอย่างไรที่จะมองทางด้านของมิติความมั่นคงแล้ว เรามาร่วมมือกัน มีการประสานงานกันว่า ในขั้นตอนในส่วนไหน สมมติว่าในช่วงเดือนกรกฎาคมนี้ แต่ละกระทรวงมีโครงการ มีงานอะไรที่จะลงไปทำในระดับฐานรากบ้าง แต่ละส่วนจะได้มีการประสานกัน และทำให้งานนั้นสอดคล้องกัน นั่นเป็นเรื่องที่พูดในประเด็นของสถานการณ์ทางการเมือง
ในส่วนของสถานการณ์ทางภาคใต้ ก็มีลักษณะที่คล้ายกัน หมายถึงว่าในขณะนี้เราทราบดีอยู่แล้วว่าความรุนแรงนั้น ไม่ได้ลดลง มีความรุนแรงเพิ่มขึ้น ทำอย่างไรที่จะช่วยกันแก้ไขปัญหาในส่วนนี้ ซึ่งได้พูดกันในรายละเอียดหลาย ๆ ประเด็นว่า ความปลอดภัยของครู ความมีส่วนร่วมของพี่น้องประชาชนจะต้องเข้ามามีส่วนร่วมกันอย่างไร ความเข้าใจที่คลาดเคลื่อนของข้อมูลข่าวสาร ซึ่งมีข่าวลืออย่างมากมายในท้องถิ่นว่า เป็นการกระทำของอีกฝ่ายหนึ่ง ซึ่งเป็นเรื่องที่จะต้องหาทางแก้ไขในส่วนนี้ และหลาย ๆ ส่วนราชการซึ่งมีข้าราชการและพนักงานของรัฐอยู่ในพื้นที่จะได้มีโอกาสเข้ามาร่วมกันทำงาน โดยอาศัยองค์กรซึ่งมีอยู่แล้วในท้องที่ คือ ศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศอ.บต.) จะเป็นส่วนที่จะมีการประสานงานเพื่อให้เกิดความร่วมมือ เกิดความเป็นเอกภาพในการทำงานขึ้นมาให้มากยิ่งขึ้น
ในส่วนของสถานการณ์ทางภาคใต้ก็เช่นเดียวกัน ในมุมมองของทางด้านต่างประเทศ ถือว่าเราได้การยอมรับทั้งในเรื่องของแนวทางในการแก้ไขปัญหา ทั้งในเรื่องของสิ่งที่ต่างประเทศมองว่าเป็นเรื่องภายในของประเทศของเรา จะไม่มีการแทรกแซง ไม่ว่าจะเป็นจากส่วนหนึ่งส่วนใดก็ตาม และที่สำคัญ ผมคิดว่าเป็นส่วนหนึ่งของความเข้าใจและความร่วมมือของมิตรประเทศของเรา ไม่ว่าจะเป็นประเทศที่ใกล้ชิด คือ มาเลเซีย อินโดนีเซีย ก็มีส่วนที่จะทำให้เกิดความเข้าใจอันนี้ในระดับของต่างประเทศที่เกี่ยวข้องด้วย
ในอีกไม่กี่วันข้างหน้าปลายเดือนนี้ จะมีผู้นำทางศาสนาของประเทศอียิปต์มาเยือนประเทศไทย ในฐานะที่เป็นแขกของรัฐบาล และมีเลขาธิการสันนิบาตมุสลิมโลก ซึ่งเป็นแขกของรัฐบาลเช่นกัน มาเยือนไทยในห้วงเวลาเดียวกัน ซึ่งจะเป็นโอกาสอันดีที่จะได้มีการทำความเข้าใจ และจะมีความร่วมมือในด้านของการศึกษาที่จะเกิดขึ้นต่อไปในโอกาสข้างหน้า นั่นเป็นเรื่องที่ถือได้ว่าเป็นมุมมองของต่างประเทศต่อปัญหาสถานการณ์ทางภาคใต้
ในส่วนของสถานการณ์ปัญหายาเสพติด ได้พูดถึงว่าในปัจจุบันมีการใช้ยาเสพติดเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะในพื้นที่กรุงเทพมหานครและปริมณฑล ทั้งนี้คงเป็นสถานการณ์ที่เราคงต้องติดตามและหาทางแก้ไขกันต่อไป แหล่งผลิตต่าง ๆ ยังไม่ได้มีความเปลี่ยนแปลงมากนัก แต่สิ่งที่เราได้รับทราบคงเป็นเรื่องของการนำยาเสพติดผ่านเข้ามาในประเทศไทย และนำไปสู่แหล่งอื่น คือเป็นทางผ่านมามากขึ้น โดยที่อาศัยผู้หญิงที่เข้ามามีส่วนร่วม นั่นเป็นเรื่องที่จะต้องดำเนินการหาทางแก้ไขกันต่อไป ขณะนี้ยาเสพติดที่ใช้มากที่สุดเป็นพวกสารระเหย ที่มีการแพร่ขยายมากยิ่งขึ้น
นั่นเป็นเรื่องที่ได้พูดคุยและทำความเข้าใจกันว่าทุกส่วนราชการ คงจะต้องให้ความร่วมมือในสิ่งเหล่านี้ให้มากยิ่งขึ้น เพื่อให้ปัญหาหลัก ๆ ที่เราได้กล่าวไปแล้วคลี่คลายไปในทางที่ดีขึ้น เป็นเรื่องที่ได้ประชุมกันเกือบ 2 ชั่วโมงเมื่อเช้านี้ คงสรุปประเด็นหลัก ๆ ให้สื่อมวลชนที่รับฟังอยู่ในขณะนี้ได้รับทราบ
ผู้สื่อข่าว ที่บอกว่าการเลือกตั้งจะเร็วขึ้นหมายความว่ามีแนวโน้มหรือมีการหารือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องแล้ว
พลเอก สุรยุทธ์ จุลานนท์ นายกรัฐมนตรี ในขณะนี้ยังไม่มี แต่ดูว่าขั้นต้นในเรื่องของการที่จะทำประชามติ เราสามารถที่จะปรับให้เร็วขึ้นมาได้หรือไม่ ถ้าเป็นไปอย่างที่ได้มีการพูดกันคือ ในช่วงวันที่ 19 สิงหาคม ถ้าเป็นตามนั้นโอกาสที่จะปรับการเลือกตั้งให้เร็วขึ้นกว่าเดิมก็มี นั่นเป็นเรื่องที่คงจะได้มีการพูดกัน คงจะรอว่าร่างรัฐธรรมนูญฉบับที่ 2 คงจะเป็นไปตามกำหนดคือ 180 วัน ถ้าเผื่อเป็นไปตามนั้น การเตรียมการในเรื่องของการลงประชามติ คงได้มีการหารือกันในอีกไม่กี่วันข้างหน้านี้
ผู้สื่อข่าวสถานีโทรทัศน์สีกองทัพบก ช่อง 7 ที่บอกว่าจะเปิดรับการเจรจากับ พ.ต.ท.ทักษิณฯ ได้มีการติดต่อหรือมีความคืบหน้าหรือไม่
พลเอก สุรยุทธ์ จุลานนท์ นายกรัฐมนตรี ยังไม่มี เป็นสิ่งที่ถือว่ารัฐบาลพร้อมที่จะทำความเข้าใจพูดคุยกันเพื่อให้การแก้ไขปัญหาเป็นไปโดยสันติวิธี
ทุกภาคส่วนต้องร่วมกันป้องกันการทุจริต
ผู้สื่อข่าวหนังสือพิมพ์ไทยโพสต์ ประเด็นแรก ท่านนายกรัฐมนตรีมีท่าทีอย่างไร หาก พ.ต.ท.ทักษิณฯ ตั้งรัฐบาลพลัดถิ่น ประเด็นที่ 2 ขณะนี้มีกระแสข่าวว่าข้าราชการตุลาการมีกระบวนการล็อบบี้ในวงการราชการ มีการรับสินบนถึง 30 ล้านบาท ตรงนี้จะทำให้การฟ้องร้องคดีที่มีต่อ พ.ต.ท.ทักษิณฯ เสียไปหรือไม่ และท่านนายกรัฐมนตรีมีวิธีการหรือมีแนวคิดอย่างไรกับการปราบปรามการทุจริตในวงราชการ
พลเอก สุรยุทธ์ จุลานนท์ นายกรัฐมนตรี ในเรื่องของการปราบปรามการทุจริตในวงราชการคงตอบได้ก่อนว่า เราถือว่าเป็นวาระแห่งชาติที่คงจะต้องทำต่อไป และคงไม่ใช่เป็นหน้าที่ของทางภาครัฐแต่เพียงส่วนเดียว เป็นหน้าที่ของทุก ๆ ส่วน ในขณะนี้ได้พูดกันว่าแม้แต่บริษัทของเอกชนก็ต้องมีธรรมาภิบาล การที่กำหนดให้มีการบริหารงานในลักษณะที่เป็นธรรมาภิบาล จะช่วยให้แต่ละส่วนสามารถตรวจสอบซึ่งกันและกันได้ นั่นเป็นส่วนที่ดี ในภาพรวมในเรื่องของการที่จะป้องกันการทุจริตประพฤติมิชอบในวงการของเรา ซึ่งไม่จำเป็นจะต้องเฉพาะในราชการเท่านั้น ในบางครั้งมีจากทางภาคเอกชนก็มาทำหน้าที่ในส่วนนี้ด้วย เป็นเรื่องที่คิดว่าเราคงจะต้องร่วมกันทั้งหมด ถ้าอยากจะเห็นบ้านเมืองของเรามีความก้าวหน้า เราคงจะต้องช่วยกันตรวจสอบในเรื่องเหล่านี้ต่อไป
การต่อสู้คดีทางศาลเป็นการพิสูจน์ตัวเองที่ดีที่สุดของ พ.ต.ท.ทักษิณฯ
ทางด้านตุลาการ ผมไม่มีข้อมูลที่จะตอบในส่วนนี้ได้ เพราะเป็นเรื่องที่เพิ่งปรากฏ คงจะต้องรอข้อมูลต่าง ๆ ที่ปลัดกระทรวงยุติธรรมได้ดำเนินการ ผมไม่ได้มีข้อมูล และยังไม่ได้รับรายงาน ผมก็ยังไม่มีโอกาสที่จะถามรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรมในเรื่องเหล่านี้ เป็นเรื่องที่ไม่สามารถจะตอบได้ในขณะนี้
ส่วนเรื่องของรัฐบาลพลัดถิ่น ผมยังไม่มั่นใจว่าคำถามนี้หมายถึงอะไร ว่าจะไปตั้งในลักษณะไหน คือ การจะตั้งรัฐบาลพลัดถิ่น คงจะต้องมองให้ชัดว่า การที่จะไปดำเนินการอย่างนั้นได้ จะต้องเป็นเรื่องราวทางการเมืองที่ประเทศหนึ่งประเทศใดที่คุณทักษิณฯ อาจจะเข้าไปลี้ภัย และยินยอมให้มีการดำเนินการในส่วนเหล่านั้นขึ้น แต่ผมคิดว่าประเด็นตรงนี้ คงจะไม่เกี่ยวกับเรื่องทางการเมืองแล้ว เพราะว่าเรื่องทางการเมืองนั้นคงจะบรรเทาไป เนื่องจากคดีต่าง ๆ ซึ่งถือว่าบางส่วนเป็นคดีอาญา บางส่วนเป็นคดีแพ่ง ผมคิดว่าสิ่งที่คุณทักษิณฯ ได้พูดผ่านการบันทึกและออกอากาศที่ท้องสนามหลวงนั้น เป็นสิ่งที่ดีที่สุด คือมาต่อสู้คดีทางศาลกัน เป็นการพิสูจน์ตัวเองที่ดีที่สุดว่าคุณทักษิณฯ บริสุทธิ์ คุณทักษิณฯ ไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้อง นั่นคือวิถีทางที่ผมคิดว่าดีที่สุดสำหรับทุก ๆ คน ที่จะพิสูจน์ตัวเองว่าเราบริสุทธิ์ หรือว่าบกพร่อง หรือว่ามีความผิดตามที่มีพยานหลักฐาน
ผู้สื่อข่าวหนังสือพิมพ์ผู้จัดการรายวัน เมื่อสักครู่ที่ท่านนายกรัฐมนตรีบอกว่า รัฐบาลพร้อมที่จะทำการพูดคุยกับ พ.ต.ท. ทักษิณฯ ตรงนี้เหมือนกับในวันรุ่งขึ้นอาจจะถูกตีความหรือถูกมองว่ารัฐบาลพร้อมรับเงื่อนไขของ พ.ต.ท. ทักษิณฯ ถ้าเกิดมีการยื่นใด ๆ เจรจาใด ๆ กลับมา ตรงนี้อยากให้ท่านนายกรัฐมนตรีพูดถึงขอบเขตการเจรจาว่า พ.ต.ท. ทักษิณฯ สามารถที่เจรจาอะไรกับรัฐบาลได้ และอีกเรื่องหนึ่งคืออยากให้ท่านนายกรัฐมนตรีช่วยประเมินคำพูดหรือคำเจรจาของ พ.ต.ท. ทักษิณ ฯ ที่พูดผ่านมาที่สนามหลวงตรงนี้ว่า ได้มีการวิเคราะห์ไหมว่าคำพูดของท่านต้องการเจตนาหรือต้องการอะไร นอกเหนือจากการที่จะมาสู้คดีเพื่อตัวเองและครอบครัว
พลเอก สุรยุทธ์ จุลานนท์ นายกรัฐมนตรี เจตนาผมคงจะวิเคราะห์ลำบากครับ ผมคงไม่สามารถจะไประบุเจตนาที่คุณทักษิณฯ มีอยู่ได้ครบถ้วน สิ่งที่ผมพูดได้คือกรอบของการพูดคุยกัน คงพูดคุยซึ่งจะไม่ส่งผลกระทบต่อเรื่องของคดีความต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นอยู่ในปัจจุบัน หรือที่จะมีต่อไปในอนาคต ผมคงเข้าไปยุ่งเกี่ยวไม่ได้ เพราะว่าแนวทางของรัฐบาลคือการแก้ไขปัญหาทางการเมืองโดยสันติวิธี แต่ไม่ได้เข้าไปยุ่งเกี่ยวกับเรื่องของกระบวนการยุติธรรม รัฐบาลได้แยกส่วนนี้ชัดเจนในทุก ๆ วาระ ว่าการดำเนินการตามกระบวนการยุติธรรมนั้น เราจะไม่เข้าไปแทรกแซง เราจะไม่เข้าไปเกี่ยวข้อง แม้กระทั่งวันที่ผมได้พูดในวันที่ถือได้ว่าชี้แจงแนวทางของรัฐบาลต่อพี่น้องประชาชน ผมก็ไม่ทราบล่วงหน้าว่าทางคณะกรรมการตรวจสอบทรัพย์สินฯ นั้น จะมีการประกาศอายัดทรัพย์ ผมไม่ทราบ นั่นเป็นส่วนที่อยากจะเรียนว่าได้แยกกันออกไปอย่างชัดเจน เพราะฉะนั้นการทำงานต่าง ๆ ผมจะทำอยู่เฉพาะในกรอบที่ผมสามารถจะดำเนินการได้ ส่วนหนึ่งส่วนใดที่ไม่ได้อยู่ในกรอบของการทำหน้าที่ของผมแล้ว ผมจะไม่พูด ไม่เจรจาตกลงกับผู้ใด
ผู้สื่อข่าว ในการคุยกันเมื่อเช้ามีการประเมินถึงความรุนแรง หรือว่าประเมินม็อบที่มีการต่อต้านกันตอนนี้ไหมคะ เพราะว่ามีประชาชนส่วนใหญ่แสดงความวิตกกังวลว่าปัญหานี้เมื่อไรจะหมดไป ไม่ทราบว่าทางรัฐบาลกับคมช. จะหาวิธีแก้ไขอย่างไรคะ
พลเอก สุรยุทธ์ จุลานนท์ นายกรัฐมนตรี ในเรื่องของการประเมิน ผมได้หารือกันเมื่อเช้าก็เห็นว่า ในขณะนี้เมื่อสถานการณ์ต่าง ๆ เริ่มชัดเจนมากยิ่งขึ้น ในเรื่องของการตรวจสอบทรัพย์สินก็ตาม ในเรื่องของสิ่งต่าง ๆ ที่จะตามมาอีกก็ตาม เท่าที่ทราบทางกรมสอบสวนคดีพิเศษจะมีการชี้แจง เรื่องที่ทางกรมสอบสวนคดีพิเศษจะยื่นฟ้องต่อทางอัยการสูงสุด และเข้าสู่ศาลในที่สุดในวันพรุ่งนี้ นั่นก็เป็นอีกเรื่องหนึ่ง เป็นเรื่องที่ทางคุณทักษิณฯ ได้ดำเนินการในลักษณะที่ผิดพระราชบัญญัติของตลาดหลักทรัพย์ สิ่งเหล่านี้เป็นเรื่องที่ผมคิดว่าจะค่อย ๆ ปรากฏให้เห็นชัดเจน แล้วสิ่งที่ทางผู้ชุมนุมได้นำไปอ้างว่าเป็นการถูกกลั่นแกล้งอะไรต่าง ๆ จะค่อย ๆ เห็นชัดว่าไม่ได้เป็นอย่างที่มีการกล่าวอ้าง นั่นเป็นส่วนที่ผมอยากจะเรียนว่าความเป็นจริงคงเป็นเครื่องที่จะพิสูจน์ในที่สุดว่า สิ่งที่ผู้ชุมนุมได้นำไปใช้เป็นข้อกล่าวอ้างต่าง ๆ เหล่านั้นไม่ได้เป็นไปตามที่ปรากฏ คงจะต้องมีการต่อสู้กันในชั้นศาล อย่างที่ผมได้เรียนไปในตอนต้นว่านั่นเป็นทางที่ดีที่สุดที่จะพิสูจน์กัน เพราะฉะนั้นการชุมนุมคงจะไม่ขยายใหญ่ไป เนื่องจากว่าแทนที่จะเป็นการชุมนุม ก็จะเป็นการต่อสู้คดีในชั้นศาลกันต่อไป ซึ่งเป็นไปตามกระบวนการยุติธรรม และนั่นก็ถือว่าจะเป็นทางออกที่ดีที่สุดของทุก ๆ เรื่อง ถ้าเราตกลงกันไม่ได้ ไม่มีข้อยุติ เราก็ต้องไปต่อสู้กันในกระบวนการในชั้นศาล
ผู้สื่อข่าวหนังสือพิมพ์มติชน ข้อมูลที่กรมสอบสวนคดีพิเศษที่ท่านนายกรัฐมนตรีพูดเมื่อสักครู่นี้คือเรื่องบริษัทเอสซี แอสเส็ทใช่ไหมคะ
พลเอก สุรยุทธ์ จุลานนท์ นายกรัฐมนตรี ครับ ใช่ครับ
ผู้สื่อข่าวหนังสือพิมพ์มติชน สามารถระบุชัดเลยไหมคะว่าคุณทักษิณฯ คือผู้ต้องหาในคดีนี้
พลเอก สุรยุทธ์ จุลานนท์ นายกรัฐมนตรี พรุ่งนี้คงจะต้องรอฟัง ผมก็ไม่ได้เป็นนักกฎหมาย ได้รับรายงานมาก็เล่าให้ท่านทั้งหลายได้รับฟังได้ว่า คงจะต้องรอฟังการแถลงเป็นรายละเอียดจากทางกรมสอบสวนคดีพิเศษครับ
ผู้สื่อข่าวหนังสือพิมพ์มติชน ทีนี้ในแง่ความมั่นคง เมื่อมีคดีของคุณทักษิณฯ เข้ามาสู่กระบวนการพิจารณาอีก การที่จะให้กลับหรือไม่ให้กลับมาสู้คดีนี้พิจารณาอย่างไรคะ
พลเอก สุรยุทธ์ จุลานนท์ นายกรัฐมนตรี อยู่ที่ขั้นตอนครับ ถ้าหากว่าเป็นเรื่องคดีอาญา แล้ว จำเป็นจะต้องมารับทราบข้อกล่าวหา ก็ต้องเป็นไปตามนั้น ทางรัฐบาลคงไม่เข้าไปยุ่งเกี่ยวอย่างที่ได้บอกไว้แล้วว่า ถ้าเป็นเรื่องของกระบวนการยุติธรรมก็ขอให้เป็นอำนาจของกระบวนการยุติธรรม ที่จะต้องทำตามกฎหมาย เราจะไม่เข้าไปยุ่งเกี่ยวว่ามาได้หรือไม่ได้ คงไม่ได้เป็นเช่นนั้น คงอยู่ที่กฎหมายว่าระบุไว้อย่างไร
การชุมนุมถ้าไม่อยู่ในกรอบของกฎหมายก็ต้องดำเนินการตามกฎหมาย
ผู้สื่อข่าวสถานีโทรทัศน์สีกองทัพบก ช่อง 7 ท่านนายกรัฐมนตรีคะ เกี่ยวกับกลุ่มพลังเงียบที่ขณะนี้เริ่มจะไม่เป็นพลังเงียบแล้ว เริ่มจะออกมาเคลื่อนไหวคัดค้านการชุมนุมของกลุ่มสนามหลวง ตรงนี้กังวลหรือไม่ว่าจะขยายวงออกไปจนกลายเป็นกระทบกระทั่งกัน
พลเอก สุรยุทธ์ จุลานนท์ นายกรัฐมนตรี ได้มีการหารือกันเมื่อเช้าเช่นเดียวกันว่า สิ่งใดที่จะทำให้เกิดความสงบในบ้านเมืองเราขึ้นมาได้ ควรจะกระทำ และผมคิดว่าทางฝ่ายความมั่นคงเองได้ระมัดระวังในเรื่องเหล่านี้อย่างดี ที่จะไม่ให้เกิดการกระทบกระทั่งกันขึ้น แม้กระทั่งการชุมนุม การเดินขบวนที่ผ่านมาก็จะเห็นว่าถ้าหากผู้ชุมนุม ผู้เดินขบวนไม่ได้ทำอะไรที่ผิดกฎหมาย จะไม่ได้มีการดำเนินการอะไรซึ่งจะทำให้มองเห็นว่าไม่ได้อยู่ในกรอบของกฎหมาย แต่ถ้าหากว่าทำผิดกฎหมาย เราจะมีการดำเนินการกัน
ผู้สื่อข่าวหนังสือพิมพ์มติชน วันหนึ่งอย่างไรคุณทักษิณฯ ก็ต้องเข้ามาต่อสู้คดีอาญาอยู่แล้ว ทำไมรัฐบาลไม่เปิดโอกาสให้คุณทักษิณฯ เข้ามาตั้งแต่วันนี้ครับ รัฐบาลกลัวอะไรคุณทักษิณฯ ครับ
พลเอก สุรยุทธ์ จุลานนท์ นายกรัฐมนตรี ผมพูดตั้งนานแล้วครับว่าเราไม่ได้ห้าม คุณทักษิณฯ มีสิทธิ์ที่จะเข้ามา ถ้าถามว่ากลัวหรือไม่กลัว ผมคงไม่ได้กลัวอะไรครับ ต้องถามคุณทักษิณฯ ว่ากลัวอะไรหรือเปล่า
ผู้สื่อข่าวเนชั่นทีวี ท่านนายกรัฐมนตรีบอกว่ารัฐบาลไม่มีแนวทางที่จะไปแทรกแซงกระบวนการยุติธรรม แต่ว่าสิ่งที่กลุ่มผู้ชุมนุมเอามาพูดกันตอนนี้ค่อนข้างมากคือว่า เขาไม่ได้รับความเป็นธรรม ไม่ได้รับการใช้หลักนิติธรรม ตรงนี้ท่านนายกรัฐมนตรียืนยันได้ไหมว่า สิ่งที่ผ่านมารัฐบาลใช้หลักนิติธรรมกับฝ่ายกลุ่มอำนาจเก่าด้วย และยืนยันแทน คมช.ได้ไหมว่าไม่ได้แทรกแซงเหมือนกันครับ
พลเอก สุรยุทธ์ จุลานนท์ นายกรัฐมนตรี รัฐบาลยืนยันได้ว่าในส่วนของรัฐบาลนั้นไม่ได้ดำเนินการใด ๆ ที่จะเข้าไปเกี่ยวข้อง และถือว่ายึดหลักนิติธรรมมาโดยตลอด คมช.เองก็ระมัดระวังในเรื่องนี้ เพราะว่าในส่วนหนึ่งของคมช.นั้นคือ ทำหน้าที่เป็นข้าราชการ ไม่ว่าจะเป็นข้าราชการทหาร ข้าราชการตำรวจ ก็เป็นข้าราชการ ซึ่งอยู่ภายใต้การกำกับดูแลของรัฐบาลเช่นกัน ได้มีการพูดกัน หารือกันหลายครั้งว่าแนวทางในการแก้ไขปัญหาของเรา ที่จะแก้ไขปัญหาทางการเมืองให้ลุล่วงไปได้ในส่วนของการเลือกตั้งอย่างที่ทุกท่านมีความต้องการนั้น เราจะทำอย่างไร นั่นคือต้องยึดหลักของนิติธรรม ยึดหลักของกฎหมาย จะไม่ทำสิ่งใดที่นอกกรอบของกฎหมายครับ
การให้การศึกษาเป็นแนวทางแก้ปัญหาภาคใต้ในระยะยาว
ผู้สื่อข่าวหนังสือพิมพ์บางกอกโพสต์ อยากเรียนถามถึงสถานการณ์ภาคใต้ ซึ่งขณะนี้ดูเหมือนว่ายังวนกันอยู่ในอ่าง ยังไม่ไปถึงไหน ตั้งแต่มีการปรับโครงสร้างใหม่อะไรแล้ว ที่ผ่านมาไม่ทราบว่ามีอะไรที่แก้ไขปัญหาได้อย่างเป็นรูปธรรมบ้าง และอย่างที่ท่านนายกรัฐมนตรีบอกว่าการก่อการร้ายจำกัดอยู่ไม่กี่อำเภอนี้ ในเมื่อเป็นอย่างนี้แล้วทำไมเราไม่สามารถที่จะให้ความคุ้มครองชีวิตทรัพย์สินกับผู้บริสุทธิ์ได้ ขณะเดียวกันเราต้องสูญเสียชีวิตเจ้าหน้าที่ไปครั้งละมาก ๆ สร้างความกระทบกระเทือนต่อขวัญกำลังใจของคนโดยรวม ทั้งผู้ปฏิบัติงานด้วย และที่บอกว่าท่านนายกรัฐมนตรีจะเข้ามารับผิดชอบดูแลเองจะเป็นในลักษณะไหน
พลเอก สุรยุทธ์ จุลานนท์ นายกรัฐมนตรี ความรับผิดชอบของรัฐบาลคงหลีกเลี่ยงไม่ได้ ผมไม่ได้ปัดความรับผิดชอบว่าในส่วนของรัฐบาลเราจะต้องทำอะไรบ้าง อย่างที่เรียนมาโดยตลอดว่าในส่วนของรัฐบาลนั้น ได้พยายามที่จะปรับตามสถานการณ์ของการเปลี่ยนแปลงต่าง ๆ มาโดยตลอด ถ้าท่านทั้งหลายได้ติดตามก็จะเห็นว่า การก่อการร้ายขึ้นมาในพื้นที่ของจังหวัดชายแดนภาคใต้นั้นจะจำกัดพื้นที่อยู่ แต่ความรุนแรงเพิ่มมากขึ้น สิ่งที่เป็นข่าวบ้างเล็ก ๆ น้อย ๆ คือมีการจับผู้ต้องหา ผู้ต้องสงสัย พร้อมทั้งหลักฐานต่าง ๆ บ้าง แต่ว่าสิ่งที่เราไม่สามารถที่จะชี้ชัดลงไปได้ในทันทีคือเป็นผู้ผิดจริงหรือไม่ ต้องเข้าไปสู่กระบวนการยุติธรรม ต้องใช้เวลา อย่างน้อย ๆ คดีหนึ่งผมคิดว่าไม่ต่ำกว่าปี กว่าจะมีการสอบพยานไต่สวนในชั้นศาล กว่าจะตัดสินลงโทษได้ นั่นจะเป็นส่วนที่ทำให้เห็นว่าผู้ที่ถูกจับกุมดำเนินคดีนั้นทำไมถึงเงียบหายไป เราต้องมาตระหนักถึงสิ่งเหล่านี้ว่า ถ้าเราจะยืนอยู่บนพื้นฐานของหลักนิติธรรม เราจำเป็นที่จะต้องอดใจรอ แต่ในเรื่องของการดูแล เราพยายามอย่างเต็มที่แล้วที่จะช่วยดูแล คุ้มครองครู ทหารเอง ตำรวจเอง ก็เสียชีวิตจำนวนมาก ๆ เพราะว่าทุกคนตั้งใจที่จะทำหน้าที่ เมื่อได้รับมอบหน้าที่แล้ว เราก็ตั้งใจทำกันทุกคน บุคคลเหล่านั้นถือว่าเป็นผู้ที่เสียสละ เสียสละแม้กระทั่งชีวิตเพื่อทำหน้าที่ของเขา ผมคิดว่าเราควรที่จะระลึกถึงความเสียสละเหล่านั้น ควรที่จะยกย่องเขา แล้วก็หาทางที่จะช่วยกันว่าจะทำอย่างไรที่จะทำให้พี่น้องประชาชนส่วนใหญ่ ได้เกิดความเข้าใจว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องที่จะต้องแก้ไขปัญหากันในระยะยาว ไม่สามารถที่จะแก้ในระยะสั้น ๆ ได้
ผมคิดว่าทุกคนคงจะเข้าใจว่าเรื่องนี้ไม่สามารถจะยุติได้ภายใน 1 ปี แม้กระทั่งคดีอย่างที่ผมได้พูดไปแล้ว ก็ไม่สามารถที่จะบอกได้ว่า จะสามารถตัดสินได้ภายในระยะเวลาเท่าไร นั่นเป็นตัวอย่าง ทำอย่างไรที่เราจะช่วยกันที่จะทำความเข้าใจ แล้วก็ให้พี่น้องคนไทยส่วนใหญ่มีความร่วมมือ มีความเข้าใจกันด้วย มีหลาย ๆ ส่วนที่เราได้พูดกันในวันนี้ คือการที่จะใช้วิธีการทางด้านการให้การศึกษา เพื่อที่จะให้เยาวชนในจังหวัดชายแดนภาคใต้มีโอกาสที่จะได้พบปะกับบุคคลอื่น ๆ บ้าง มีโอกาสที่เห็นสังคมในภาพที่กว้างกว่าเดิมในบ้านเมืองของเราบ้าง สิ่งเหล่านี้จะเป็นเครื่องช่วยให้เขาได้ปรับ ทัศนคติ ทำอย่างไรที่จะให้การศึกษาซึ่งเขาสามารถที่จะนำบางส่วนของการศึกษานั้นไปประกอบอาชีพได้ และถ้ามีการประกอบอาชีพแล้ว จะมีการขยายกิจการต่อไปในอนาคตได้อย่างไร นั่นเป็นส่วนที่ถือได้ว่าเป็นแนวทางที่จะแก้ไขปัญหาในระยะยาวอย่างจริงจัง ถ้าเราช่วยกันในส่วนเหล่านี้ เราจะมีโอกาสที่จะสร้างความเป็นไทยขึ้นมาในบ้านเมืองของเราได้ เขาจะได้ไม่มีข้ออ้างว่าถูกกีดกัน ไม่เป็นที่ยอมรับของสังคมไทยโดยส่วนรวม สิ่งเหล่านี้ไม่ได้เป็นสิ่งที่ดี ถ้าเราได้มีการทำความเข้าใจกัน ร่วมมือกัน สร้างความรู้สึกที่ดีต่อกัน โอกาสที่จะแก้ไขปัญหาในระยะยาวนี้เป็นไปได้
ผู้สื่อข่าว ที่ท่านบอกว่ากำลังจะมีการพูดจากัน จนถึงขณะนี้แล้ว ในส่วนนี้ได้คืบหน้าอย่างไร
พลเอก สุรยุทธ์ จุลานนท์ นายกรัฐมนตรี เป็นเรื่องที่คงจะติดตามกันต่อไป ความคืบหน้ายังไม่มีมากนัก เรียนได้ว่าคงจะมีข้อมูลภายในช่วงต้นเดือนหน้าว่ามีอะไรที่เป็นความคืบหน้าบ้าง ในขณะนี้ยังไม่มี
ผู้สื่อข่าว คุยกับใครพวกไหนบ้าง
พลเอก สุรยุทธ์ จุลานนท์ นายกรัฐมนตรี ในเรื่องของการดำเนินการนี้ผมยังไม่สามารถจะตอบรายละเอียดได้
ผู้สื่อข่าว เมื่อเช้ามีการพูดถึงว่าอะไรที่เป็นปัจจัยสำคัญหรือสาเหตุสำคัญที่ทำให้สถานการณ์ความรุนแรงได้เพิ่มขึ้นตามที่นายกรัฐมนตรีกล่าวในปัจจุบันนี้
พลเอก สุรยุทธ์ จุลานนท์ นายกรัฐมนตรี มีปัจจัยหลาย ๆ ส่วนที่มาพิจารณา สถานการณ์ทางการเมืองในปัจจุบันก็ส่วนหนึ่ง สถานการณ์ที่เขาเกิดความรู้สึกว่า จำเป็นจะต้องให้เกิดความรุนแรงเพื่อให้เป็นที่สนใจของต่างประเทศก็เป็นอีกส่วนหนึ่ง สิ่งที่รัฐบาลได้ดำเนินการไป ก็ส่งผลกระทบ เพราะว่ามิตรประเทศของเราที่อยู่ในกลุ่มประเทศอิสลามก็ได้ยอมรับ ได้มีการออกแถลงการณ์ของทางกลุ่มประเทศอิสลามว่า วิธีการแก้ไขปัญหาของไทย สถานการณ์ทางภาคใต้ของไทยเป็นเรื่องที่ทาง OIC ได้ยอมรับว่านโยบายของเรานั้นถูกต้องแล้ว สถานการณ์เป็นสถานการณ์ภายในประเทศซึ่งไม่มีการแทรกแซง และทางกลุ่มประเทศมุสลิมเองก็จะเข้ามาช่วยในเรื่องของการศึกษา ในเรื่องของการที่จะทำความเข้าใจต่อไป เหมือนอย่างที่ผมได้พูดไปเมื่อสักครู่ว่าจะมีผู้นำทางศาสนาที่สำคัญที่จะเข้ามาเยือนประเทศไทย ซึ่งเราก็จะได้มีโอกาสได้แลกเปลี่ยนข้อคิดเห็น ได้ทำความเข้าใจ แล้วอาจจะแลกเปลี่ยนในเรื่องของความร่วมมือกันต่อไป นั่นก็เป็นเรื่องที่ถือได้ว่าความรุนแรงที่เกิดขึ้นในช่วงนี้ เป็นปัจจัยที่มาจากหลาย ๆ ด้าน เราก็จำเป็นจะต้องพิจารณาดูให้รอบคอบว่า อะไรที่เป็นปัจจัยหลักที่ทำให้เกิดความรุนแรงขึ้น ผมคิดว่าในแง่ของผู้ที่ก่อความไม่สงบนี้ ก็น่าจะเป็นโอกาสอันดีในขณะที่บ้านเมืองของเรามีความวุ่นวายทางการเมือง เกิดวิกฤติเขาก็จะได้ใช้โอกาสอันนั้นให้เป็นประโยชน์ในการที่จะขยายผลไปสู่ต่างประเทศ นั่นก็เป็นส่วนที่ผมคาดคะเนเอา แต่ถ้าเราช่วยกัน มันก็อยู่ที่ปัญหาที่ว่า ไก่เกิดก่อนไข่ หรือว่าไข่เกิดก่อนไก่ ว่าเราจะแก้ปัญหาตรงไหนก่อนกันอย่างไร แต่สิ่งที่เราน่าจะแก้ไขปัญหาได้และได้ทำควบคู่กันไปเหมือนอย่างที่ผมพูดตั้งแต่คือ ปัญหาทางการเมือง และปัญหาสถานการณ์ทางภาคใต้ มันไม่สามารถที่จะแยกออกไปได้ ผมพูดตั้งแต่วันแรกที่เข้ามารับหน้าที่ นั่นก็เป็นส่วนที่อยากจะเรียนว่าตรงนี้เป็นส่วนที่มีความสำคัญ เราคงจะไปแยกพิจารณาเฉพาะส่วนคงเป็นเรื่องที่ลำบาก
ผู้สื่อข่าว ในช่วงวิกฤติของการเมืองในขณะนี้ที่ทำให้ผู้ก่อเหตุในพื้นที่ภาคใต้ใช้โอกาสช่วงนี้ขยายผลเพื่อให้ต่างชาติเข้ามามองตรงนี้ แล้วดูเหมือนว่าแนวร่วมจะเริ่มมากขึ้นทุกที ตรงนี้จะสามารถคุมกำเนิดแนวร่วมได้อย่างไร และอีกส่วนหนึ่งคือเรื่องของการศึกษา ทุนการศึกษาของต่างประเทศที่เป็นประเทศมุสลิมต่าง ๆ ที่ให้เข้ามาในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ เราจะมีการจัดระเบียบอย่างไร เพราะว่าประชาชนในพื้นที่ 3 จังหวัดภาคใต้ส่วนใหญ่จะไปเรียนทางด้านศาสนามากกว่าเรียนทางด้านสายวิชาอาชีพ
(ยังมีต่อ)