นางจรวยพร ธรณินทร์ ปลัดกระทรวงศึกษาธิการได้นำคณะผู้แทนลูกเสือไทยจำนวน 120 คน เข้าเยี่ยมคารวะ พลเอกสุรยุทธ์ จุลานนท์ นายกรัฐมนตรี เพื่อรับโอวาทก่อนเดินทางไปร่วมงานชุมนุมลูกเสือโลกครั้งที่ 21 ณ ประเทศอังกฤษ ระหว่างวันที่ 27 กรกฎาคม — 10 สิงหาคม 2550
วันนี้ เวลา 15.00 น. ณ ตึกสันติไมตรี ทำเนียบรัฐบาล นางจรวยพร ธรณินทร์ ปลัดกระทรวงศึกษาธิการได้นำคณะผู้แทนลูกเสือไทยจำนวน 120 คน เข้าเยี่ยมคารวะ พลเอกสุรยุทธ์ จุลานนท์ นายกรัฐมนตรี เพื่อรับโอวาทก่อนเดินทางไปร่วมงานชุมนุมลูกเสือโลกครั้งที่ 21 ณ ประเทศอังกฤษ ระหว่างวันที่ 27 กรกฎาคม — 10 สิงหาคม 2550
นางจรวยพร ธรณินทร์ ปลัดกระทรวงศึกษาธิการ ได้กล่าวถึงวัตถุประสงค์ในการจัดส่งคณะผู้แทนลูกเสือไทยไปร่วมงานชุมนุมลูกเสือโลก ครั้งที่ 21 ณ ประเทศอังกฤษว่า เพื่อกระชับความสัมพันธ์ไมตรีอันดีกับประเทศสมาชิกองค์การลูกเสือโลกและเผยแพร่ชื่อเสียง ภาพลักษณ์ที่ดีของประเทศไทย ให้เป็นที่รู้จักแพร่หลายทั่วโลก พร้อมทั้งเพื่อร่วมเฉลิมฉลองครบรอบ 100 ปีการลูกเสือโลก ในฐานะประเทศสมาชิก ตลอดจนเพื่อสร้างเสริมประสบการณ์ให้กับลูกเสือเนตรนารีในการอยู่ค่ายพักแรมร่วมกัน และฝึกให้มีระเบียบวินัย มีความอดทน อดกลั้น มีความรัก ความสามัคคีและรู้จักช่วยเหลือกันตามอุดมการณ์ของลูกเสือ และเพื่อแลกเปลี่ยนเรียนรู้วัฒนธรรมประเพณีกับประเทศสมาชิก
ทั้งนี้ กระทรวงศึกษาธิการ ได้ร่วมกับสำนักงานคณะกรรมการบริหารลูกเสือแห่งชาติ ทำการสอบคัดเลือกลูกเสือ เนตรนารี และผู้บังคับบัญชาลูกเสือ จากทุกภาคทั่วประเทศ จำนวน 40 คน และได้ให้ทุนลูกเสือ เนตรนารี ผู้ประสบภัยสึนามิ กับบุตรข้าราชการครูผู้เสียชีวิตจากเหตุการณ์ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ และได้มีลูกเสือเนตรนารีและบังคับบัญชาลูกเสือที่สนใจสมัครไปร่วมงานชุมนุมฯ ด้วย รวมทั้งสิ้น 120 คน ประกอบด้วย คณะผู้บริหารงานลูกเสือระดับสูง 7 คน คณะผู้บังคับบัญชาลูกเสือ จำนวน 20 คน ลูกเสือ เนตรนารี จำนวน 60 คน และลูกเสืออาสา จำนวน 33 คน
โอกาสนี้ นายกรัฐมนตรีได้กล่าวให้โอวาทว่า กิจการลูกเสือเกิดขึ้นครั้งแรกในสมัยรัชกาลที่ 6 และชนรุ่นหลังได้สืบทอดติดต่อกันมาจนถึงปัจจุบัน โดยการนำแนวทางของกิจการลูกเสือมาใช้ให้เกิดประโยชน์ต่อส่วนรวม กิจการลูกเสือจึงถือเป็นกิจกรรมที่น่าสนใจและควรมีการส่งเสริมให้เยาวชนได้มีโอกาสพบปะแลกเปลี่ยนกับการจัดกิจกรรมของลูกเสือในประเทศต่าง ๆ มากขึ้น เพื่อสร้างโอกาสอันดีที่จะทำให้เยาวชนได้เพิ่มพูนความรู้ ความสามารถในการที่จะไปร่วมกิจกรรมกับลูกเสือในประเทศต่าง ๆ
อย่างไรก็ตาม นายกรัฐมนตรีได้ขอให้คณะผู้แทนลูกเสือไทยได้นำลักษณะนิสัยอันดีงามของคนไทยคือ การแสดงความเอื้อเฟื้อ ความอ่อนโยน โดยเฉพาะความยิ้มแย้มแจ่มใสของคนไทยที่ไม่เหมือนชนชาติอื่น ไปพัฒนาความสัมพันธ์กับลูกเสือจากประเทศทั่วโลก ซึ่งถือเป็นส่วนสำคัญที่จะทำให้คณะลูกเสือและเนตรนารีทุกคนสามารถที่จะปรับตัวเข้ากับเพื่อน ๆ ที่มาจากประเทศต่าง ๆ อีก 150 ประเทศได้ เพราะคนไทยมีข้อได้เปรียบตรงที่เป็นคนเปิดเผย มีจิตใจที่อ่อนโยน ยิ้มง่าย
พร้อมกันนี้ นายกรัฐมนตรีได้แสดงความห่วงใยในเรื่องของการปรับตัวเพื่อให้เข้ากับสภาพอากาศในประเทศอังกฤษ โดยขอให้ทุกคนได้เตรียมความพร้อมทั้งในเรื่องของเครื่องนุ่งห่มและหลีกเลี่ยงความเปียกชื้นจากฝนเพราะอาจจะทำให้เป็นไข้หวัดได้ง่าย
จากนั้น นายกรัฐมนตรีได้กล่าวขอบคุณทุกฝ่ายที่ให้การสนับสนุนในการจัดส่งคณะผู้แทนลูกเสือไทยไปร่วมงานชุมนุมลูกเสือโลกครั้งนี้ พร้อมอวยพรให้ทุกท่านประสบความสำเร็จในการทำงาน และประสบความสำเร็จในการสร้างความเข้าใจกับลูกเสือทั่วโลก จากนั้นได้ร่วมถ่ายภาพหมู่เป็นที่ระลึกกับคณะตัวแทนลูกเสือไทยทุกคน
--กลุ่มยุทธศาสตร์และแผนการประชาสัมพันธ์ สำนักโฆษก--
วันนี้ เวลา 15.00 น. ณ ตึกสันติไมตรี ทำเนียบรัฐบาล นางจรวยพร ธรณินทร์ ปลัดกระทรวงศึกษาธิการได้นำคณะผู้แทนลูกเสือไทยจำนวน 120 คน เข้าเยี่ยมคารวะ พลเอกสุรยุทธ์ จุลานนท์ นายกรัฐมนตรี เพื่อรับโอวาทก่อนเดินทางไปร่วมงานชุมนุมลูกเสือโลกครั้งที่ 21 ณ ประเทศอังกฤษ ระหว่างวันที่ 27 กรกฎาคม — 10 สิงหาคม 2550
นางจรวยพร ธรณินทร์ ปลัดกระทรวงศึกษาธิการ ได้กล่าวถึงวัตถุประสงค์ในการจัดส่งคณะผู้แทนลูกเสือไทยไปร่วมงานชุมนุมลูกเสือโลก ครั้งที่ 21 ณ ประเทศอังกฤษว่า เพื่อกระชับความสัมพันธ์ไมตรีอันดีกับประเทศสมาชิกองค์การลูกเสือโลกและเผยแพร่ชื่อเสียง ภาพลักษณ์ที่ดีของประเทศไทย ให้เป็นที่รู้จักแพร่หลายทั่วโลก พร้อมทั้งเพื่อร่วมเฉลิมฉลองครบรอบ 100 ปีการลูกเสือโลก ในฐานะประเทศสมาชิก ตลอดจนเพื่อสร้างเสริมประสบการณ์ให้กับลูกเสือเนตรนารีในการอยู่ค่ายพักแรมร่วมกัน และฝึกให้มีระเบียบวินัย มีความอดทน อดกลั้น มีความรัก ความสามัคคีและรู้จักช่วยเหลือกันตามอุดมการณ์ของลูกเสือ และเพื่อแลกเปลี่ยนเรียนรู้วัฒนธรรมประเพณีกับประเทศสมาชิก
ทั้งนี้ กระทรวงศึกษาธิการ ได้ร่วมกับสำนักงานคณะกรรมการบริหารลูกเสือแห่งชาติ ทำการสอบคัดเลือกลูกเสือ เนตรนารี และผู้บังคับบัญชาลูกเสือ จากทุกภาคทั่วประเทศ จำนวน 40 คน และได้ให้ทุนลูกเสือ เนตรนารี ผู้ประสบภัยสึนามิ กับบุตรข้าราชการครูผู้เสียชีวิตจากเหตุการณ์ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ และได้มีลูกเสือเนตรนารีและบังคับบัญชาลูกเสือที่สนใจสมัครไปร่วมงานชุมนุมฯ ด้วย รวมทั้งสิ้น 120 คน ประกอบด้วย คณะผู้บริหารงานลูกเสือระดับสูง 7 คน คณะผู้บังคับบัญชาลูกเสือ จำนวน 20 คน ลูกเสือ เนตรนารี จำนวน 60 คน และลูกเสืออาสา จำนวน 33 คน
โอกาสนี้ นายกรัฐมนตรีได้กล่าวให้โอวาทว่า กิจการลูกเสือเกิดขึ้นครั้งแรกในสมัยรัชกาลที่ 6 และชนรุ่นหลังได้สืบทอดติดต่อกันมาจนถึงปัจจุบัน โดยการนำแนวทางของกิจการลูกเสือมาใช้ให้เกิดประโยชน์ต่อส่วนรวม กิจการลูกเสือจึงถือเป็นกิจกรรมที่น่าสนใจและควรมีการส่งเสริมให้เยาวชนได้มีโอกาสพบปะแลกเปลี่ยนกับการจัดกิจกรรมของลูกเสือในประเทศต่าง ๆ มากขึ้น เพื่อสร้างโอกาสอันดีที่จะทำให้เยาวชนได้เพิ่มพูนความรู้ ความสามารถในการที่จะไปร่วมกิจกรรมกับลูกเสือในประเทศต่าง ๆ
อย่างไรก็ตาม นายกรัฐมนตรีได้ขอให้คณะผู้แทนลูกเสือไทยได้นำลักษณะนิสัยอันดีงามของคนไทยคือ การแสดงความเอื้อเฟื้อ ความอ่อนโยน โดยเฉพาะความยิ้มแย้มแจ่มใสของคนไทยที่ไม่เหมือนชนชาติอื่น ไปพัฒนาความสัมพันธ์กับลูกเสือจากประเทศทั่วโลก ซึ่งถือเป็นส่วนสำคัญที่จะทำให้คณะลูกเสือและเนตรนารีทุกคนสามารถที่จะปรับตัวเข้ากับเพื่อน ๆ ที่มาจากประเทศต่าง ๆ อีก 150 ประเทศได้ เพราะคนไทยมีข้อได้เปรียบตรงที่เป็นคนเปิดเผย มีจิตใจที่อ่อนโยน ยิ้มง่าย
พร้อมกันนี้ นายกรัฐมนตรีได้แสดงความห่วงใยในเรื่องของการปรับตัวเพื่อให้เข้ากับสภาพอากาศในประเทศอังกฤษ โดยขอให้ทุกคนได้เตรียมความพร้อมทั้งในเรื่องของเครื่องนุ่งห่มและหลีกเลี่ยงความเปียกชื้นจากฝนเพราะอาจจะทำให้เป็นไข้หวัดได้ง่าย
จากนั้น นายกรัฐมนตรีได้กล่าวขอบคุณทุกฝ่ายที่ให้การสนับสนุนในการจัดส่งคณะผู้แทนลูกเสือไทยไปร่วมงานชุมนุมลูกเสือโลกครั้งนี้ พร้อมอวยพรให้ทุกท่านประสบความสำเร็จในการทำงาน และประสบความสำเร็จในการสร้างความเข้าใจกับลูกเสือทั่วโลก จากนั้นได้ร่วมถ่ายภาพหมู่เป็นที่ระลึกกับคณะตัวแทนลูกเสือไทยทุกคน
--กลุ่มยุทธศาสตร์และแผนการประชาสัมพันธ์ สำนักโฆษก--