วันนี้ (26 มิ.ย.50 ) เวลา 14.30 น. ตามเวลาท้องถิ่น ณ โรงแรม Taj Mahal กรุงนิวเดลี สาธารณรัฐอินเดีย พลเอก สุรยุทธ์ จุลานนท์ นายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงผลการหารือทวิภาคีกับนาย Pranab Mukherjee รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ และนาย Kamal Nath รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์และอุตสาหกรรมของอินเดีย ดังนี้
นายกรัฐมนตรีกล่าวว่าได้รับการต้อนรับอย่างอบอุ่นจากอินเดีย ซึ่งการหารือกับรัฐมนตรีต่างประเทศและรัฐมนตรีพาณิชย์ของอินเดีย ได้มีการเน้นย้ำถึงความสำคัญของความร่วมทางเศรษฐกิจระหว่างไทยและอินเดีย ซึ่งได้ใช้โอกาสนี้ติดตามเพิ่มเติมความร่วมมือที่ได้มีการดำเนินการแล้ว และหารือถึงโอกาสและลู่ทางความร่วมมือใหม่ๆ ทั้งนี้ ความร่วมมือระหว่างกัน ส่งผลให้มูลค่าการค้าระหว่างกันเจริญรุดหน้า และคาดว่าจะบรรลุเป้าหมาย 4,000 ล้านเหรียญสหรัฐ ตามที่ตั้งไว้ ซึ่งขณะนี้ ไทยได้เปรียบดุลการค้ากว่า 200 ล้านเหรียญฯ และจะขยายผลในส่วนอื่นๆต่อไป ทั้งนี้ เพื่อส่งเสริมและสนับสนุนการลงทุนระหว่างกัน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ของไทยได้นำภาคเอกชนไปเยือนภาคตะวันออกเฉียงเหนือของอินเดีย และได้เล็งเห็นโอกาสและศักยภาพการลงทุนในด้านต่างๆ เช่น ก่อสร้าง การโรงแรม การท่องเที่ยว ซึ่งจะได้พัฒนาต่อเนื่องในด้านเส้นทางคมนาคม เช่น การสร้างเส้นทางเครือข่ายคมนาคมระหว่าง ไทย — พม่า — อินเดีย ซึ่งไทยจะได้ผลักดันพม่าในเรื่องนี้ต่อไป รวมถึงความร่วมมือในกรอบอนุภูมิภาค อีกด้วย
นอกจากนี้ ไทยและอินเดีย ต่างมีนโยบายการต่างประเทศที่สอดคล้องและเกื้อกูลกัน กล่าวคือ นโยบาย Look East ของอินเดีย และ Look West ของไทย ซึ่งจะเป็นประโยชน์และสานต่อความร่วมมือต่างๆ ให้มีการพัฒนาต่อไป
--กลุ่มยุทธศาสตร์และแผนการประชาสัมพันธ์ สำนักโฆษก--
นายกรัฐมนตรีกล่าวว่าได้รับการต้อนรับอย่างอบอุ่นจากอินเดีย ซึ่งการหารือกับรัฐมนตรีต่างประเทศและรัฐมนตรีพาณิชย์ของอินเดีย ได้มีการเน้นย้ำถึงความสำคัญของความร่วมทางเศรษฐกิจระหว่างไทยและอินเดีย ซึ่งได้ใช้โอกาสนี้ติดตามเพิ่มเติมความร่วมมือที่ได้มีการดำเนินการแล้ว และหารือถึงโอกาสและลู่ทางความร่วมมือใหม่ๆ ทั้งนี้ ความร่วมมือระหว่างกัน ส่งผลให้มูลค่าการค้าระหว่างกันเจริญรุดหน้า และคาดว่าจะบรรลุเป้าหมาย 4,000 ล้านเหรียญสหรัฐ ตามที่ตั้งไว้ ซึ่งขณะนี้ ไทยได้เปรียบดุลการค้ากว่า 200 ล้านเหรียญฯ และจะขยายผลในส่วนอื่นๆต่อไป ทั้งนี้ เพื่อส่งเสริมและสนับสนุนการลงทุนระหว่างกัน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ของไทยได้นำภาคเอกชนไปเยือนภาคตะวันออกเฉียงเหนือของอินเดีย และได้เล็งเห็นโอกาสและศักยภาพการลงทุนในด้านต่างๆ เช่น ก่อสร้าง การโรงแรม การท่องเที่ยว ซึ่งจะได้พัฒนาต่อเนื่องในด้านเส้นทางคมนาคม เช่น การสร้างเส้นทางเครือข่ายคมนาคมระหว่าง ไทย — พม่า — อินเดีย ซึ่งไทยจะได้ผลักดันพม่าในเรื่องนี้ต่อไป รวมถึงความร่วมมือในกรอบอนุภูมิภาค อีกด้วย
นอกจากนี้ ไทยและอินเดีย ต่างมีนโยบายการต่างประเทศที่สอดคล้องและเกื้อกูลกัน กล่าวคือ นโยบาย Look East ของอินเดีย และ Look West ของไทย ซึ่งจะเป็นประโยชน์และสานต่อความร่วมมือต่างๆ ให้มีการพัฒนาต่อไป
--กลุ่มยุทธศาสตร์และแผนการประชาสัมพันธ์ สำนักโฆษก--