เมื่อเวลา 17.00 น.ที่อิมแพค เมืองทองธานี พลเอก สุรยุทธ์ จุลานนท์ นายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงเหตุผลในการผ่อนคลายประกาศคณะปฎิรูปการปกครองในระบอบประชา ธิปไตย อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข (คปค.) ฉบับที่ 15 โดยให้พรรคการเมืองสามารถดำเนินกิจกรรมทางการเมืองได้ ว่า ได้มีการหารือกับพลเอก สนธิ บุญยรัตกลิน ประธานคณะมนตรีความมั่นคงแห่งชาติ (คมช.) ที่จะให้พรรคการเมืองดำเนินกิจกรรมทางการเมือง โดยได้พูดถึงพรรคการเมืองที่มีอยู่ให้สามารถดำเนินกิจกรรมทางการเมืองได้ทันที
ส่วนการจดทะเบียนจัดตั้งพรรคการเมืองใหม่ได้มอบหมายให้คณะกรรมการกฤษฎีกาไปจัดทำร่างพระราชบัญญัติเพื่อนำเสนอต่อสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) โดยเร็ว คาดว่าในสัปดาห์หน้าคณะกรรมการกฤษฎีกาคงจะยกร่างเสร็จเพื่อนำเสนอคณะรัฐมนตรี จากนั้นจะเสนอไปยัง สนช.ต่อไป และเนื่องจากเป็นการแก้ไขเฉพาะประกาศ คปค.ฉบับที่ 15 ซึ่งเป็นกฎหมายสั้น ๆ จึงจะขอความกรุณาทาง สนช.ให้พิจารณา 3 วาระรวด เพื่อไม่ให้เสียเวลาและให้ทุกส่วนได้มีโอกาสเข้ามาร่วมดำเนินการทางการเมืองได้อย่างเต็มที่ คาดว่าคงจะใช้เวลาไม่เกิน 2 สัปดาห์ หลังจากที่ผ่านการพิจารณาของคณะรัฐมนตรีไปแล้ว
ส่วนการพิจารณา 3 วาระรวด สนช.จะให้ความร่วมมือหรือไม่นั้น นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า เราคงต้องขอร้อง เพราะเป็นโอกาสที่อยากจะให้พรรคการเมืองที่จะเข้ามามีส่วนร่วมเข้ามาช่วยกัน
ผู้สื่อข่าวถามว่า ทำไมใช้วิธีการแก้ไข แต่ไม่เป็นการยกเลิกประกาศ คปค.ทั้ง 2 ฉบับ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า เป็นการแก้ไขเฉพาะในส่วนของประกาศ คปค.ฉบับที่ 15 เพราะมีส่วนเชื่อมโยงกับ คปค.ฉบับที่ 27 และยังคงอยู่ ส่วนพรรคที่จะจดทะเบียนตั้งพรรคการเมืองใหม่ในโอกาสหน้าก็ต้องรอให้เป็นพระราชบัญญัติเสียก่อน
ผู้สื่อข่าวถามว่า แสดงว่าวันนี้อดีตพรรคไทยรักไทยยังไม่สามารถดำเนินกิจกรรมทางการเมืองได้ใช่หรือไม่ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ใช่ แต่พรรคการเมืองที่มีอยู่แล้วก็สามารถดำเนินกิจกรรมทางการเมืองได้
ส่วนที่ว่าเป็นห่วงหรือไม่จากการผ่อนคลายดังกล่าว จะทำให้นักการเมืองรุ่นเก่าถือโอกาสสร้างความวุ่นวายให้กับบ้านเมือง นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า มองในแง่ดีที่ว่าเราจะได้มีส่วนร่วมในการที่จะช่วยกันทำให้บรรยากาศทางการเมืองของเราดีขึ้น และทำให้ประชาชนเข้าใจเรื่องขั้นตอนการร่างรัฐธรรมนูญและนำไปสู่การทำประชามติ สิ่งใดที่พรรคการเมืองจะมีส่วนร่วมได้ในช่วงนี้ก็ยังมีเวลา ส่วนเรื่องการตัดสิทธิเลือกตั้งกรรมการบริหารพรรคไทยรักไทย จำนวน 111 คนนั้น เราต้องเคารพคำวินิจฉัยของตุลาการรัฐธรรมนูญ คงไม่สามารถไปทำอะไรที่จะลบล้างคำวินิจฉัยนั้นได้
ต่อข้อถามว่า ได้หารือกับประธาน คมช.แล้วใช่หรือไม่ว่าสถานการณ์จะไม่เกิดความวุ่นวายจึงได้ผ่อนคลายประกาศ คปค. นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า คิดว่าความวุ่นวายไม่น่าจะเกิดขึ้น คงเป็นเรื่องของการแสดงออกบ้างเล็กๆ น้อย แต่คงไม่ทำให้เกิดความวุ่นวายทางการเมือง
ต่อข้อถามว่า เมื่อมีการผ่อนคลายประกาศ คปค.แล้ว คิดว่ากำหนดวันเลือกตั้งยังคงเดิมหรือไม่ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ยังไม่ได้มีการหารือว่าจะมีการปรับวันเลือกตั้งให้ใกล้เข้ามาหรือไม่อย่างไร เพราะเรื่องนี้เกี่ยวข้องกับหลายๆ ส่วน จะเฉพาะคณะกรรมการการเลือกตั้งเพียงอย่างเดียวไม่ได้ เพราะคงต้องดูว่าการที่จะให้มีการทำประชามติขึ้นอยู่กับร่างรัฐธรรมนูญว่าจะเสร็จเร็วหรือไม่ และทำประชามติได้เร็วหรือไม่ ต้องย้อนกลับมาหลายส่วน ส่วนจะมีแนวโน้มเลื่อนวันเลือกตั้งได้เร็วขึ้นหรือไม่นั้น นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า มีหลายส่วนที่เห็นว่าน่าจะทำได้มากขึ้น
ต่อข้อถามว่า หลังจากที่ตัดสินคดียุบพรรคแล้ว รัฐบาลคิดว่ายังมีวิกฤติอะไรที่น่าเป็นห่วงอีกบ้าง นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ถ้าพวกเราช่วยกันคลี่คลายบรรยากาศต่าง ๆ จะทำให้การแก้ไขปัญหาลุล่วงไปได้ด้วยดี แนวคิดที่จะใช้การพูดจาตกลงกัน การทำความเข้าใจกันน่าจะเป็นแนวทางที่ดีในการแก้ไขปัญหาบ้านเมืองของเราต่อไป อย่างในพื้นที่ภาคใต้ก็เริ่มมีการเจรจาพูดจากัน มีความเข้าใจกันมากขึ้น เพราะฉะนั้นในส่วนกลางคิดว่าแนวคิดนี้น่าจะใช้ได้ จึงน่าจะเปิดโอกาสให้ผู้ที่มีความเดือดร้อน มีความข้องใจได้พูดจาทำความเข้าใจกันได้มากยิ่งขึ้น
ผู้สื่อข่าวถามว่า การผ่อนคลายประกาศ คปค.จะทำให้นักการเมืองที่ออกมาเคลื่อนไหวขณะนี้ลดลงหรือไม่ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ถือว่าเราเปิดโอกาสให้พรรคการเมืองเข้ามามีส่วนร่วมให้มากที่สุดและเร็วที่สุด ถือว่ารัฐบาลมีเจตนาที่จะให้ทุกคนเข้ามามีส่วนร่วมในการดำเนินการทางการเมือง ส่วนเป็นห่วงหรือไม่ว่าจะเป็นดาบสองคมหรือไม่นั้น นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ไม่เป็นห่วง คนที่มองในภาพที่ดีก็คงมาช่วยกันในส่วนนี้
--กลุ่มยุทธศาสตร์และแผนการประชาสัมพันธ์ สำนักโฆษก--
ส่วนการจดทะเบียนจัดตั้งพรรคการเมืองใหม่ได้มอบหมายให้คณะกรรมการกฤษฎีกาไปจัดทำร่างพระราชบัญญัติเพื่อนำเสนอต่อสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) โดยเร็ว คาดว่าในสัปดาห์หน้าคณะกรรมการกฤษฎีกาคงจะยกร่างเสร็จเพื่อนำเสนอคณะรัฐมนตรี จากนั้นจะเสนอไปยัง สนช.ต่อไป และเนื่องจากเป็นการแก้ไขเฉพาะประกาศ คปค.ฉบับที่ 15 ซึ่งเป็นกฎหมายสั้น ๆ จึงจะขอความกรุณาทาง สนช.ให้พิจารณา 3 วาระรวด เพื่อไม่ให้เสียเวลาและให้ทุกส่วนได้มีโอกาสเข้ามาร่วมดำเนินการทางการเมืองได้อย่างเต็มที่ คาดว่าคงจะใช้เวลาไม่เกิน 2 สัปดาห์ หลังจากที่ผ่านการพิจารณาของคณะรัฐมนตรีไปแล้ว
ส่วนการพิจารณา 3 วาระรวด สนช.จะให้ความร่วมมือหรือไม่นั้น นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า เราคงต้องขอร้อง เพราะเป็นโอกาสที่อยากจะให้พรรคการเมืองที่จะเข้ามามีส่วนร่วมเข้ามาช่วยกัน
ผู้สื่อข่าวถามว่า ทำไมใช้วิธีการแก้ไข แต่ไม่เป็นการยกเลิกประกาศ คปค.ทั้ง 2 ฉบับ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า เป็นการแก้ไขเฉพาะในส่วนของประกาศ คปค.ฉบับที่ 15 เพราะมีส่วนเชื่อมโยงกับ คปค.ฉบับที่ 27 และยังคงอยู่ ส่วนพรรคที่จะจดทะเบียนตั้งพรรคการเมืองใหม่ในโอกาสหน้าก็ต้องรอให้เป็นพระราชบัญญัติเสียก่อน
ผู้สื่อข่าวถามว่า แสดงว่าวันนี้อดีตพรรคไทยรักไทยยังไม่สามารถดำเนินกิจกรรมทางการเมืองได้ใช่หรือไม่ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ใช่ แต่พรรคการเมืองที่มีอยู่แล้วก็สามารถดำเนินกิจกรรมทางการเมืองได้
ส่วนที่ว่าเป็นห่วงหรือไม่จากการผ่อนคลายดังกล่าว จะทำให้นักการเมืองรุ่นเก่าถือโอกาสสร้างความวุ่นวายให้กับบ้านเมือง นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า มองในแง่ดีที่ว่าเราจะได้มีส่วนร่วมในการที่จะช่วยกันทำให้บรรยากาศทางการเมืองของเราดีขึ้น และทำให้ประชาชนเข้าใจเรื่องขั้นตอนการร่างรัฐธรรมนูญและนำไปสู่การทำประชามติ สิ่งใดที่พรรคการเมืองจะมีส่วนร่วมได้ในช่วงนี้ก็ยังมีเวลา ส่วนเรื่องการตัดสิทธิเลือกตั้งกรรมการบริหารพรรคไทยรักไทย จำนวน 111 คนนั้น เราต้องเคารพคำวินิจฉัยของตุลาการรัฐธรรมนูญ คงไม่สามารถไปทำอะไรที่จะลบล้างคำวินิจฉัยนั้นได้
ต่อข้อถามว่า ได้หารือกับประธาน คมช.แล้วใช่หรือไม่ว่าสถานการณ์จะไม่เกิดความวุ่นวายจึงได้ผ่อนคลายประกาศ คปค. นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า คิดว่าความวุ่นวายไม่น่าจะเกิดขึ้น คงเป็นเรื่องของการแสดงออกบ้างเล็กๆ น้อย แต่คงไม่ทำให้เกิดความวุ่นวายทางการเมือง
ต่อข้อถามว่า เมื่อมีการผ่อนคลายประกาศ คปค.แล้ว คิดว่ากำหนดวันเลือกตั้งยังคงเดิมหรือไม่ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ยังไม่ได้มีการหารือว่าจะมีการปรับวันเลือกตั้งให้ใกล้เข้ามาหรือไม่อย่างไร เพราะเรื่องนี้เกี่ยวข้องกับหลายๆ ส่วน จะเฉพาะคณะกรรมการการเลือกตั้งเพียงอย่างเดียวไม่ได้ เพราะคงต้องดูว่าการที่จะให้มีการทำประชามติขึ้นอยู่กับร่างรัฐธรรมนูญว่าจะเสร็จเร็วหรือไม่ และทำประชามติได้เร็วหรือไม่ ต้องย้อนกลับมาหลายส่วน ส่วนจะมีแนวโน้มเลื่อนวันเลือกตั้งได้เร็วขึ้นหรือไม่นั้น นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า มีหลายส่วนที่เห็นว่าน่าจะทำได้มากขึ้น
ต่อข้อถามว่า หลังจากที่ตัดสินคดียุบพรรคแล้ว รัฐบาลคิดว่ายังมีวิกฤติอะไรที่น่าเป็นห่วงอีกบ้าง นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ถ้าพวกเราช่วยกันคลี่คลายบรรยากาศต่าง ๆ จะทำให้การแก้ไขปัญหาลุล่วงไปได้ด้วยดี แนวคิดที่จะใช้การพูดจาตกลงกัน การทำความเข้าใจกันน่าจะเป็นแนวทางที่ดีในการแก้ไขปัญหาบ้านเมืองของเราต่อไป อย่างในพื้นที่ภาคใต้ก็เริ่มมีการเจรจาพูดจากัน มีความเข้าใจกันมากขึ้น เพราะฉะนั้นในส่วนกลางคิดว่าแนวคิดนี้น่าจะใช้ได้ จึงน่าจะเปิดโอกาสให้ผู้ที่มีความเดือดร้อน มีความข้องใจได้พูดจาทำความเข้าใจกันได้มากยิ่งขึ้น
ผู้สื่อข่าวถามว่า การผ่อนคลายประกาศ คปค.จะทำให้นักการเมืองที่ออกมาเคลื่อนไหวขณะนี้ลดลงหรือไม่ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ถือว่าเราเปิดโอกาสให้พรรคการเมืองเข้ามามีส่วนร่วมให้มากที่สุดและเร็วที่สุด ถือว่ารัฐบาลมีเจตนาที่จะให้ทุกคนเข้ามามีส่วนร่วมในการดำเนินการทางการเมือง ส่วนเป็นห่วงหรือไม่ว่าจะเป็นดาบสองคมหรือไม่นั้น นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ไม่เป็นห่วง คนที่มองในภาพที่ดีก็คงมาช่วยกันในส่วนนี้
--กลุ่มยุทธศาสตร์และแผนการประชาสัมพันธ์ สำนักโฆษก--