แท็ก
คณะกรรมการการเลือกตั้ง
สุรยุทธ์ จุลานนท์
บล.เครดิต สวิส
ร่างรัฐธรรมนูญ
ทำเนียบรัฐบาล
นายกรัฐมนตรี
พลเอก สุรยุทธ์ จุลานนท์ นายกรัฐมนตรี ระบุรัฐบาลจะเร่งรณรงค์การลงประชามติควบคู่ไปกับการทำความเข้าใจต่อร่างรัฐธรรมนูญ ซึ่งมีหลายส่วนทั้งสภาร่างรัฐธรรมนูญ คณะกรรมการการเลือกตั้ง และในส่วนของภาครัฐ ที่จะต้องเข้าไปมีส่วนช่วยสนับสนุน โดยเฉพาะสื่อมวลชนทุกแขนง
วันนี้ เวลา 12.15 น. ที่ทำเนียบรัฐบาล พลเอก สุรยุทธ์ จุลานนท์ นายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงผลสำรวจที่ประชาชนส่วนใหญ่ยังขาดความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับร่างรัฐธรรมนูญและการทำประชามติ ว่า คงเร่งรัดกันเต็มที่ ซึ่งในวันที่ 19 กรกฎาคมนี้ ทางกรุงเทพมหานครได้ขยายเวลาที่จะให้ผู้ที่ต้องการไปใช้สิทธินอกภูมิลำเนาไปขอลงทะเบียนได้จนถึงเวลา 19.00 น. เพียงแต่นำบัตรประชาชนเพียงอย่างเดียวไปทำเรื่องก็ได้แล้ว ไม่ต้องมีหลักฐานอื่นไปแสดง เราพยายามที่อำนวยความสะดวกให้ ส่วนในเรื่องของวันลงประชามติคงต้องรณรงค์ควบคู่ไปกับการทำความเข้าใจต่อร่างรัฐธรรมนูญ ซึ่งมีหลายส่วนทั้งสภาร่างรัฐธรรมนูญ คณะกรรมการการเลือกตั้ง และในส่วนของภาครัฐ ที่จะต้องเข้าไปมีส่วนช่วยสนับสนุน โดยใช้สื่อต่างๆ เพราะมีความสำคัญโดยเฉพาะสถานีโทรทัศน์ต่าง ๆ ถ้าร่วมมือร่วมใจกันในช่วงเวลานี้ คิดว่าเราสามารถที่จะทำให้ประชาชนส่วนใหญ่ได้ทราบถึงวันที่จะมีการลงประชามติได้
ผู้สื่อข่าวถามว่า รัฐบาลจะทำอย่างไรเพราะขณะที่ฝ่ายสนับสนุนนำข้อดีมาเชิญชวนประชาชน แต่ฝ่ายคัดค้านก็นำแต่ข้อเสียมาชี้แจง นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า คิดว่าประชาชนตัดสินใจได้และเรามีเวลาพออีก 1 เดือน คิดว่าประชาชนจะสามารถตัดสินใจได้
ต่อข้อถามว่า รัฐบาลจะเข้าไปรณรงค์อะไรเป็นพิเศษหรือไม่ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า อย่างที่เรียนแล้วว่าตนเองจะให้การสนับสนุนทั้งคณะกรรมการการเลือกตั้งและสภาร่างรัฐธรรมนูญให้ได้ใช้เครื่องมือของรัฐในการประชาสัมพันธ์
ผู้สื่อข่าวถามว่า มีการออกสติ๊กเกอร์รณรงค์ให้ประชาชนไปลงประชามติโดยให้รับร่างรัฐธรรมนูญ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ยังไม่เห็น แต่เข้าใจว่าเป็นลักษณะการเชิญชวนประชาชนให้ออกมาใช้สิทธิ์มากกว่า ซึ่งตรงนี้ต้องรอกฎหมายในเรื่องการทำประชามติออกมาก่อนว่าผิดหรือไม่
ต่อข้อถามว่า เท่าที่ได้อ่านเนื้อหาของร่างรัฐธรรมนูญคิดว่าเป็นร่างรัฐธรรมนูญที่เหมาะต่อการปกครองประเทศในช่วงภาวะวิกฤตหรือไม่ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ได้อ่านร่างรัฐธรรมนูญแล้ว และเห็นว่าได้มีการปรับปรุงแก้ไขเนื้อหาจากรัฐธรรมนูญปี 2540 อย่างไรบ้าง อย่างที่พูดแล้วว่าไม่มีอะไรที่สมบูรณ์ และยังมีอีกหลายอย่างที่ต้องมีการปรับปรุงแก้ไขเพิ่มเติม และในร่างรัฐธรรมนูญฉบับนี้ก็ได้เปิดโอกาสให้มีการปรับปรุงแก้ไขเพิ่มเติมแล้ว นั่นจะเป็นจุดที่สำคัญ ซึ่งคิดว่าสิ่งที่ได้มีการปรับปรุงแก้ไขโดยสมาชิกสภาร่างรัฐธรรมนูญนั้นถือว่าเป็นจุดเริ่มต้นที่ดี
--กลุ่มยุทธศาสตร์และแผนการประชาสัมพันธ์ สำนักโฆษก--
วันนี้ เวลา 12.15 น. ที่ทำเนียบรัฐบาล พลเอก สุรยุทธ์ จุลานนท์ นายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงผลสำรวจที่ประชาชนส่วนใหญ่ยังขาดความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับร่างรัฐธรรมนูญและการทำประชามติ ว่า คงเร่งรัดกันเต็มที่ ซึ่งในวันที่ 19 กรกฎาคมนี้ ทางกรุงเทพมหานครได้ขยายเวลาที่จะให้ผู้ที่ต้องการไปใช้สิทธินอกภูมิลำเนาไปขอลงทะเบียนได้จนถึงเวลา 19.00 น. เพียงแต่นำบัตรประชาชนเพียงอย่างเดียวไปทำเรื่องก็ได้แล้ว ไม่ต้องมีหลักฐานอื่นไปแสดง เราพยายามที่อำนวยความสะดวกให้ ส่วนในเรื่องของวันลงประชามติคงต้องรณรงค์ควบคู่ไปกับการทำความเข้าใจต่อร่างรัฐธรรมนูญ ซึ่งมีหลายส่วนทั้งสภาร่างรัฐธรรมนูญ คณะกรรมการการเลือกตั้ง และในส่วนของภาครัฐ ที่จะต้องเข้าไปมีส่วนช่วยสนับสนุน โดยใช้สื่อต่างๆ เพราะมีความสำคัญโดยเฉพาะสถานีโทรทัศน์ต่าง ๆ ถ้าร่วมมือร่วมใจกันในช่วงเวลานี้ คิดว่าเราสามารถที่จะทำให้ประชาชนส่วนใหญ่ได้ทราบถึงวันที่จะมีการลงประชามติได้
ผู้สื่อข่าวถามว่า รัฐบาลจะทำอย่างไรเพราะขณะที่ฝ่ายสนับสนุนนำข้อดีมาเชิญชวนประชาชน แต่ฝ่ายคัดค้านก็นำแต่ข้อเสียมาชี้แจง นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า คิดว่าประชาชนตัดสินใจได้และเรามีเวลาพออีก 1 เดือน คิดว่าประชาชนจะสามารถตัดสินใจได้
ต่อข้อถามว่า รัฐบาลจะเข้าไปรณรงค์อะไรเป็นพิเศษหรือไม่ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า อย่างที่เรียนแล้วว่าตนเองจะให้การสนับสนุนทั้งคณะกรรมการการเลือกตั้งและสภาร่างรัฐธรรมนูญให้ได้ใช้เครื่องมือของรัฐในการประชาสัมพันธ์
ผู้สื่อข่าวถามว่า มีการออกสติ๊กเกอร์รณรงค์ให้ประชาชนไปลงประชามติโดยให้รับร่างรัฐธรรมนูญ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ยังไม่เห็น แต่เข้าใจว่าเป็นลักษณะการเชิญชวนประชาชนให้ออกมาใช้สิทธิ์มากกว่า ซึ่งตรงนี้ต้องรอกฎหมายในเรื่องการทำประชามติออกมาก่อนว่าผิดหรือไม่
ต่อข้อถามว่า เท่าที่ได้อ่านเนื้อหาของร่างรัฐธรรมนูญคิดว่าเป็นร่างรัฐธรรมนูญที่เหมาะต่อการปกครองประเทศในช่วงภาวะวิกฤตหรือไม่ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ได้อ่านร่างรัฐธรรมนูญแล้ว และเห็นว่าได้มีการปรับปรุงแก้ไขเนื้อหาจากรัฐธรรมนูญปี 2540 อย่างไรบ้าง อย่างที่พูดแล้วว่าไม่มีอะไรที่สมบูรณ์ และยังมีอีกหลายอย่างที่ต้องมีการปรับปรุงแก้ไขเพิ่มเติม และในร่างรัฐธรรมนูญฉบับนี้ก็ได้เปิดโอกาสให้มีการปรับปรุงแก้ไขเพิ่มเติมแล้ว นั่นจะเป็นจุดที่สำคัญ ซึ่งคิดว่าสิ่งที่ได้มีการปรับปรุงแก้ไขโดยสมาชิกสภาร่างรัฐธรรมนูญนั้นถือว่าเป็นจุดเริ่มต้นที่ดี
--กลุ่มยุทธศาสตร์และแผนการประชาสัมพันธ์ สำนักโฆษก--