พลเอก บุญรอด สมทัศน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์อำนวยการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด กล่าวในรายการ “สายตรงทำเนียบ” ทางสถานีวิทยุโทรทัศน์แห่งประเทศไทย ช่อง 11 กรมประชาสัมพันธ์เกี่ยวกับสถานการณ์ยาเสพติดในขณะนี้ว่า สถานการณ์ยาเสพติดได้ทวีความรุนแรงเพิ่มขึ้น เนื่องจากมีการเปลี่ยนแปลงทางการเมือง และมีรัฐบาลชั่วคราวเข้ามาบริหารประเทศ ทำให้ผู้ค้ายาเสพติดคิดว่า รัฐบาลชุดนี้คงไม่มีเวลาเอาจริงเอาจังกับเรื่องนี้ ทำให้ยาเสพติดกลับมาแพร่ระบาดอีก รัฐบาลให้ความสำคัญกับเรื่องนี้และถือเป็นวาระแห่งชาติ โดยจัดให้มีโครงการ “รวมพลังไทย ขจัดภัยยาเสพติด ร่วมเทิดไท้องค์ราชัน” ซึ่งได้นำแผนดังกล่าวมาสู่การปฏิบัติ ทั้งเรื่องการขจัดปัญหาที่คงเหลือ และสร้างความมั่นคงยั่งยืนให้เกิดขึ้น โดยมีการบูรณาการการทำงานร่วมกันกับทุกกระทรวงที่เกี่ยวข้อง ทั้งการสกัดกั้น การป้องกัน และการบำบัดฟื้นฟูผู้ติดยาเสพติด
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม กล่าวว่า เมื่อวันที่ 4 เมษายนที่ผ่านมาได้เดินทางไปทำลายไร่ฝิ่น ที่อำเภออมก๋อย จังหวัดเชียงใหม่ ทำให้รับทราบว่าสถานการณ์ปลูกฝิ่นในพื้นที่ประเทศไทยยังมีอยู่ ซึ่งเป็นพื้นที่ที่มีศักยภาพ และมีพื้นที่ที่ต้องเฝ้าระวังอยู่ประมาณ 12 ล้านไร่ เนื่องจากชาวเขายังลักลอบปลูกฝิ่นถึง 1,200 ไร่ ส่วนใหญ่อยู่ใน จังหวัดเชียงใหม่ เชียงราย แม่ฮ่องสอน ลำปาง และตาก โดยสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด (ป.ป.ส.) จะเป็นผู้สำรวจและไปทำลาย ในปีหนึ่ง ๆ สามารถทำลายได้กว่าร้อยละ 90 ยังมีเพียงส่วนน้อยที่เล็ดลอดออกมา อย่างไรก็ตาม ได้มีการประสานกับผู้ว่าราชการจังหวัดในภาคเหนือทั้งหมดเพื่อร่วมกันแก้ไขให้ปัญหาดังกล่าวหมดสิ้นไปจากแผ่นดินไทย
นอกจากนี้ สถานการณ์ความไม่สงบในจังหวัดชายแดนภาคใต้ที่เกิดขึ้น ส่วนหนึ่งมาจากยาเสพติด โดยเฉพาะวัยรุ่นที่ใช้ใบกระท่อมผสมกับสารเสพติดต่าง ๆ ทำให้ขาดสติจนออกมาก่อความไม่สงบ ซึ่งถือว่ายาเสพติดเป็นภัยต่อความมั่นคงของประเทศด้วย ทั้งนี้ในส่วนของกระทรวงศึกษาธิการได้มีการเผยแพร่ถึงภัยยาเสพติดให้แก่เด็กและเยาวชนรวมทั้งโครงการ To Be Number One ของทูลกระหม่อมหญิงอุบลรัตนราชกัญญา สิริวัฒนาพรรณวดี ก็เป็นอีกโครงการหนึ่งที่ช่วยให้เยาวชนไม่เข้าไปยุ่งเกี่ยวกับยาเสพติด
--กลุ่มยุทธศาสตร์และแผนการประชาสัมพันธ์ สำนักโฆษก--
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม กล่าวว่า เมื่อวันที่ 4 เมษายนที่ผ่านมาได้เดินทางไปทำลายไร่ฝิ่น ที่อำเภออมก๋อย จังหวัดเชียงใหม่ ทำให้รับทราบว่าสถานการณ์ปลูกฝิ่นในพื้นที่ประเทศไทยยังมีอยู่ ซึ่งเป็นพื้นที่ที่มีศักยภาพ และมีพื้นที่ที่ต้องเฝ้าระวังอยู่ประมาณ 12 ล้านไร่ เนื่องจากชาวเขายังลักลอบปลูกฝิ่นถึง 1,200 ไร่ ส่วนใหญ่อยู่ใน จังหวัดเชียงใหม่ เชียงราย แม่ฮ่องสอน ลำปาง และตาก โดยสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด (ป.ป.ส.) จะเป็นผู้สำรวจและไปทำลาย ในปีหนึ่ง ๆ สามารถทำลายได้กว่าร้อยละ 90 ยังมีเพียงส่วนน้อยที่เล็ดลอดออกมา อย่างไรก็ตาม ได้มีการประสานกับผู้ว่าราชการจังหวัดในภาคเหนือทั้งหมดเพื่อร่วมกันแก้ไขให้ปัญหาดังกล่าวหมดสิ้นไปจากแผ่นดินไทย
นอกจากนี้ สถานการณ์ความไม่สงบในจังหวัดชายแดนภาคใต้ที่เกิดขึ้น ส่วนหนึ่งมาจากยาเสพติด โดยเฉพาะวัยรุ่นที่ใช้ใบกระท่อมผสมกับสารเสพติดต่าง ๆ ทำให้ขาดสติจนออกมาก่อความไม่สงบ ซึ่งถือว่ายาเสพติดเป็นภัยต่อความมั่นคงของประเทศด้วย ทั้งนี้ในส่วนของกระทรวงศึกษาธิการได้มีการเผยแพร่ถึงภัยยาเสพติดให้แก่เด็กและเยาวชนรวมทั้งโครงการ To Be Number One ของทูลกระหม่อมหญิงอุบลรัตนราชกัญญา สิริวัฒนาพรรณวดี ก็เป็นอีกโครงการหนึ่งที่ช่วยให้เยาวชนไม่เข้าไปยุ่งเกี่ยวกับยาเสพติด
--กลุ่มยุทธศาสตร์และแผนการประชาสัมพันธ์ สำนักโฆษก--