พลเอก สุรยุทธ์ จุลานนท์ นายกรัฐมนตรี เผยได้รับทราบจากธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เกี่ยวกับปัญหาค่าเงินบาทที่แข็งค่าขึ้นอย่างต่อเนื่องว่าผู้ส่งออกได้เทขายเงินดอลลาห์เป็นจำนวนมาก และมีการขายล่วงหน้า ซึ่งเป็นการซ้ำเติมผู้ส่งออกด้วยกันเอง ดังนั้น ต้องช่วยกันติดตามดู ทั้งนี้ เชื่อว่าจะไม่ส่งผลกระทบจนเกิดวิกฤตเศรษฐกิจรอบสอง
วันนี้ ที่ค่ายสิรินธร อำเภอยะรัง จังหวัดปัตตานี พลเอก สุรยุทธ์ จุลานนท์ นายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงปัญหาค่าเงินบาทที่แข็งค่าขึ้นอย่างต่อเนื่องว่า ได้รับทราบจากธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ว่า ผู้ส่งออกได้เทขายเงินดอลลาห์เป็นจำนวนมาก และมีการขายล่วงหน้า ซึ่งเป็นการซ้ำเติมผู้ส่งออกด้วยกันเอง ดังนั้น ต้องช่วยกันติดตามดู อย่างไรก็ตาม ปัญหาค่าเงินนั้นทาง ธปท.ยังดูแลได้ หากมีปัญหาทางรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังคงจะติดตามดู แต่ขณะนี้ยังไม่มีอะไร ทั้งนี้ เราควรทราบดีว่าการหมุนเวียนการลงทุนของต่างประเทศเข้ามาในภูมิภาคเอเซีย และการมีปัญหาไม่ได้อยู่ที่เรา แต่เราต้องระมัดระวัง หากมีการไหลเข้าและถ่ายออกไม่เร็วเกินไปนักก็จะมีผลกระทบ
ต่อข้อถามว่า มีการวิตกว่าจะเกิดวิกฤตเศรษฐกิจรอบสอง นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า เท่าที่ฟังจากผู้ว่า ธปท.นั้น มีมาตรการหลายอย่างซึ่งเชื่อว่าจะไม่มีผลกระทบจนเกิดวิกฤติเศรษฐกิจขึ้นอีก ส่วนที่ประเทศญี่ปุ่นเพิ่มจำนวนทุนสำรองเงินตราต่างประเทศขึ้นอีกหนึ่งเท่าตัวจากเดิม 3,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ เป็น 6,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ นั้น เพื่อช่วยเหลือกันถือเป็นมาตรการใหม่ในการแก้ไขปัญหา และเป็นความร่วมมือกันของตลาดเงินในเอเชีย ซึ่งในประเทศญี่ปุ่นก็มีลักษณะเดียวกัน เพราะมีเงินดอลลาห์เข้าไปลงทุนคล้ายกับไทย จึงต้องมีความร่วมมือช่วยเหลือกัน อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ยังไม่มีความจำเป็นต้องนำเงินสำรองระหว่างประเทศเข้ามาแก้ไขปัญหาดังกล่าว
--กลุ่มยุทธศาสตร์และแผนการประชาสัมพันธ์ สำนักโฆษก--
วันนี้ ที่ค่ายสิรินธร อำเภอยะรัง จังหวัดปัตตานี พลเอก สุรยุทธ์ จุลานนท์ นายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงปัญหาค่าเงินบาทที่แข็งค่าขึ้นอย่างต่อเนื่องว่า ได้รับทราบจากธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ว่า ผู้ส่งออกได้เทขายเงินดอลลาห์เป็นจำนวนมาก และมีการขายล่วงหน้า ซึ่งเป็นการซ้ำเติมผู้ส่งออกด้วยกันเอง ดังนั้น ต้องช่วยกันติดตามดู อย่างไรก็ตาม ปัญหาค่าเงินนั้นทาง ธปท.ยังดูแลได้ หากมีปัญหาทางรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังคงจะติดตามดู แต่ขณะนี้ยังไม่มีอะไร ทั้งนี้ เราควรทราบดีว่าการหมุนเวียนการลงทุนของต่างประเทศเข้ามาในภูมิภาคเอเซีย และการมีปัญหาไม่ได้อยู่ที่เรา แต่เราต้องระมัดระวัง หากมีการไหลเข้าและถ่ายออกไม่เร็วเกินไปนักก็จะมีผลกระทบ
ต่อข้อถามว่า มีการวิตกว่าจะเกิดวิกฤตเศรษฐกิจรอบสอง นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า เท่าที่ฟังจากผู้ว่า ธปท.นั้น มีมาตรการหลายอย่างซึ่งเชื่อว่าจะไม่มีผลกระทบจนเกิดวิกฤติเศรษฐกิจขึ้นอีก ส่วนที่ประเทศญี่ปุ่นเพิ่มจำนวนทุนสำรองเงินตราต่างประเทศขึ้นอีกหนึ่งเท่าตัวจากเดิม 3,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ เป็น 6,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ นั้น เพื่อช่วยเหลือกันถือเป็นมาตรการใหม่ในการแก้ไขปัญหา และเป็นความร่วมมือกันของตลาดเงินในเอเชีย ซึ่งในประเทศญี่ปุ่นก็มีลักษณะเดียวกัน เพราะมีเงินดอลลาห์เข้าไปลงทุนคล้ายกับไทย จึงต้องมีความร่วมมือช่วยเหลือกัน อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ยังไม่มีความจำเป็นต้องนำเงินสำรองระหว่างประเทศเข้ามาแก้ไขปัญหาดังกล่าว
--กลุ่มยุทธศาสตร์และแผนการประชาสัมพันธ์ สำนักโฆษก--