พลเอกสุรยุทธ์ จุลานนท์ นายกรัฐมนตรี ได้เป็นประธานในพิธีรับธงมหกรรมประชาธิปไตย พร้อมพานปฏิญญาพัฒนา การเมืองไทย 2550 และธงอาสาสมัครพัฒนาประชาธิปไตย (อสพป.) จากตัวแทน 76 จังหวัด ที่เดินขบวนมาจากอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย ก่อนนำเข้าสู่งานมหกรรมประชาธิปไตยที่อิมแพค เมืองธานีในวันพรุ่งนี้
วันนี้ เวลา 15.30 น. ณ บริเวณหน้าตึกไทยคู่ฟ้า ทำเนียบรัฐบาล พลเอกสุรยุทธ์ จุลานนท์ นายกรัฐมนตรี ได้เป็นประธานในพิธีรับธงมหกรรมประชาธิปไตย พร้อมพานปฏิญญาพัฒนาการเมืองไทย 2550 และธงอาสาสมัครพัฒนาประชาธิปไตย (อสพป.) จากตัวแทน 76 จังหวัด ที่เดินขบวนมาจากอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย ก่อนนำเข้าสู่งานมหกรรมประชาธิปไตยที่อิมแพค เมืองธานีในวันพรุ่งนี้ โดยมี รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย (นายบัญญัติ จันทน์เสนะ ผู้บริหารส่วนราชการรัฐวิสาหกิจ เครือข่ายภาคประชาชน อาสาสมัครพัฒนาประชาธิปไตย ได้มาร่วมในพิธีเป็นจำนวนมาก
รองศาสตราจารย์ ธีรภัทร์ เสรีรังสรรค์ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ได้กล่าวรายงานว่า ตามที่รัฐบาลได้แถลงนโยบายการบริหารราชการแผ่นดินต่อสภานิติบัญญัติแห่งชาติ ในด้านการปฏิรูปการเมือง การปกครอง และการบริหาร อันเป็นนโยบายที่เกี่ยวข้องโดยตรงกับประชาชนคนไทยทั่วประเทศและมีความสำคัญต่อการพัฒนาทางการเมืองในระบอบประชาธิปไตย อันมีพระมหากษัตริย์ ทรงเป็นพระประมุข ประกอบกับในขณะนี้สถานการณ์ทางการเมืองที่มีจุดสำคัญแห่งการเปลี่ยนผ่านไปสู่ระบอบประชาธิปไตย โดยเฉพาะกระบวนการออกเสียงประชามติที่มีต่อร่างรัฐธรรมนูญ 2550 นี้ การส่งเสริมให้ประชาชนมีส่วนร่วมทางการเมืองอย่างสร้างสรรค์ตามครรลองการปกครองประชาธิปไตย จึงเป็นหน้าที่รัฐบาลโดยตรง
สำนักนายกรัฐมนตรีและกระทรวงมหาดไทย จึงได้ร่วมกันกำหนดให้มีการส่งเสริมประชาชน ทุกหมู่เหล่า ทุกเชื้อชาติ ทุกศาสนา บนความหลากหลายแห่งวัฒนธรรมท้องถิ่นทั่วทุกภูมิภาคของประเทศ ได้ร่วมกันจัดประชุมประชาชนในรูปแบบประชาคม เพื่อระดมสมอง ระดมความคิดเห็น และระดมเจตนารมณ์ของการพัฒนาประชาธิปไตยว่า ประชาชนมุ่งหมายที่จะพัฒนาการเมืองในระบอบประชาธิปไตยอย่างไร โดยเริ่มมีการประชุมตั้งแต่ระดับหมู่บ้านทุกหมู่บ้าน จำนวน 74,435 หมู่บ้าน ไปสู่การประชุมระดับตำบล จำนวน 7,255 ตำบล การประชุมระดับอำเภอจำนวน 797 อำเภอ และการประชุมประชาคมระดับจังหวัดจำนวน 75 จังหวัดกับกรุงเทพมหานคร โดยได้มีการสรุปและบูรณาการความคิดเห็นโดยผู้ทรงคุณวุฒิ เพื่อให้ได้มาซึ่งปฏิญญาพัฒนาการเมืองไทย 2550 ของประชาชนทั่วประเทศร่วมกัน และได้มีการวิ่งธงสัญลักษณ์ อันเป็นการแสดงพลังแห่งการขับเคลื่อนปฏิญญาดังกล่าว ตั้งแต่วันที่ 1 กรกฎาคม 2550 ที่ผ่านมา ซึ่งถือเป็นการแสดงพลังเชิดชูประชาธิปไตยครั้งประวัติศาสตร์การเมืองไทย ด้วยการเริ่มตั้งขบวนวิ่งธง ขบวนปฏิญญา ร่วมกับบรรดาข้าราชการ พี่น้อง อสพป. และประชาชนผู้เป็นตัวแทนทั่วประเทศ ซึ่งเคลื่อนขบวนจากอนุสาวรีย์ประชาธิปไตยมายังทำเนียบรัฐบาล ในวันนี้
จากนั้น รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ในฐานะตัวแทนของประชาชนทั่วประเทศได้ส่งมอบธงสัญลักษณ์พัฒนาการเมืองไทย 2550 พร้อมรับมอบพานปฏิญญาพัฒนาการเมืองไทย 2550 จากรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย ต่อจากนั้นผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร และตัวแทนทั้ง 75จังหวัด ได้มอบธงมหกรรมประชาธิปไตยแก่นายกรัฐมนตรีด้วย
โอกาสนี้นายกรัฐมนตรีได้กล่าวให้โอวาทกับทุกคนเพื่อเป็นขวัญและกำลังใจในการร่วมกันทำกิจกรรมในครั้งนี้ว่า การจัดทำปฏิญญาพัฒนาการเมืองไทย 2550 และกิจกรรมวิ่งธงจากหมู่บ้านสู่ประเทศในครั้งนี้ เป็นการสะท้อนให้เห็นถึงความตั้งใจของบรรดาพี่น้องคนไทยทั้งประเทศ ที่ได้อุทิศเวลา กำลังความคิด กำลังกาย และที่สำคัญคือ กำลังใจ รวมกันเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันบนพื้นฐานแห่งการปฏิบัติตนตามแนวทางพระราชดำรัส “รู้รัก สามัคคี” ในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และการที่ประชาชนชาวไทยทุกหมู่เหล่า ทุกพื้นที่ แสดงให้เห็นถึงเจตนารมณ์ที่มุ่งมั่นในการสร้างพลังทางการเมือง ขับเคลื่อนประชาธิปไตยออกมาเป็นมติมหาชนที่เกิดขึ้นจากการประชุมประชาคมระดับหมู่บ้าน ทุกหมู่บ้านในประเทศ จนถึงประชาคมจังหวัดทุกจังหวัดมาอยู่รวมกันอยู่ที่แห่งนี้ ที่เรียกว่า “ปฏิญญาพัฒนาการเมืองไทย 2550”
นายกรัฐมนตรีได้กล่าวว่า จะน้อมนำปฏิญญาดังกล่าว และธงทั้งหลายอันเป็นสัญลักษณ์ของความรู้รักสามัคคีของปวงชนชาวไทย และการพัฒนาประชาธิปไตยของคนไทยนี้ไปจัดแสดงและจะกล่าวประกาศปฏิญญาพัฒนาการเมืองไทย 2550 ท่ามกลางสักขีพยาน ซึ่งประกอบไป ผู้นำภาครัฐ ผู้นำภาคเอกชน ทหาร ตำรวจ ข้าราชการ รัฐวิสาหกิจ คณะทูตานุทูต ตลอดจนสาธารณชนต่างๆ อย่างเป็นทางการ ในวันพรุ่งนี้ (3 สิงหาคม 2550) ตั้งแต่เวลา 10.00 น. เป็นต้นไป ณ อิมแพคเมืองทองธานี เพื่อให้ทุกฝ่ายเกิดความเข้าใจและตระหนักถึงเจตนารมณ์ทางการเมืองสูงสุดของพวกเราคนไทยทั้งมวล
นายกรัฐมนตรีกล่าวถึงการจัดงานมหกรรมประชาธิปไตย : ปฏิญญาพัฒนาการเมืองไทย 2550 ว่าเป็นตัวชี้วัดสำคัญที่แสดงให้เห็นว่าคนไทยได้เข้าถึง “การรู้รักสามัคคีและร่วมกันพัฒนาประชาธิปไตย” ตามแนวพระราชดำริของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวอย่างแท้จริง พร้อมกล่าวขอบคุณสำนักนายกรัฐมนตรี และกระทรวงมหาดไทยที่มีบทบาทสำคัญในการจัดงานดังกล่าวได้อย่างสมบูรณ์และสมเกียรติ
พร้อมกันนี้นายกรัฐมนตรีได้กล่าวเชิญชวนคนไทยทั้งประเทศร่วมกันติดตามข่าวสารและร่วมรับชมพิธีเปิดงานมหกรรมประชาธิปไตย : ปฏิญญาพัฒนาการเมืองไทย 2550 ในวันและเวลาดังกล่าว และร่วมกันแสดงรวมพลังประกาศปฏิญญาพัฒนาการเมืองไทย 2550 ในวันที่ 5 สิงหาคม 2550 เวลา 18.00 น. ณ ศาลากลางจังหวัดทุกจังหวัดโดยพร้อมเพรียงกัน พร้อมเชิญชวนคนไทยทุกคนที่มีสิทธิออกเสียงเลือกตั้งไปร่วมกันลงประชามติ รับหรือไม่รับร่างรัฐธรรมนูญปี 2550 ในวันอาทิตย์ที่ 19 สิงหาคม 2550 ตั้งแต่เวลา 08.00 — 16.00 น.
--กลุ่มยุทธศาสตร์และแผนการประชาสัมพันธ์ สำนักโฆษก--
วันนี้ เวลา 15.30 น. ณ บริเวณหน้าตึกไทยคู่ฟ้า ทำเนียบรัฐบาล พลเอกสุรยุทธ์ จุลานนท์ นายกรัฐมนตรี ได้เป็นประธานในพิธีรับธงมหกรรมประชาธิปไตย พร้อมพานปฏิญญาพัฒนาการเมืองไทย 2550 และธงอาสาสมัครพัฒนาประชาธิปไตย (อสพป.) จากตัวแทน 76 จังหวัด ที่เดินขบวนมาจากอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย ก่อนนำเข้าสู่งานมหกรรมประชาธิปไตยที่อิมแพค เมืองธานีในวันพรุ่งนี้ โดยมี รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย (นายบัญญัติ จันทน์เสนะ ผู้บริหารส่วนราชการรัฐวิสาหกิจ เครือข่ายภาคประชาชน อาสาสมัครพัฒนาประชาธิปไตย ได้มาร่วมในพิธีเป็นจำนวนมาก
รองศาสตราจารย์ ธีรภัทร์ เสรีรังสรรค์ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ได้กล่าวรายงานว่า ตามที่รัฐบาลได้แถลงนโยบายการบริหารราชการแผ่นดินต่อสภานิติบัญญัติแห่งชาติ ในด้านการปฏิรูปการเมือง การปกครอง และการบริหาร อันเป็นนโยบายที่เกี่ยวข้องโดยตรงกับประชาชนคนไทยทั่วประเทศและมีความสำคัญต่อการพัฒนาทางการเมืองในระบอบประชาธิปไตย อันมีพระมหากษัตริย์ ทรงเป็นพระประมุข ประกอบกับในขณะนี้สถานการณ์ทางการเมืองที่มีจุดสำคัญแห่งการเปลี่ยนผ่านไปสู่ระบอบประชาธิปไตย โดยเฉพาะกระบวนการออกเสียงประชามติที่มีต่อร่างรัฐธรรมนูญ 2550 นี้ การส่งเสริมให้ประชาชนมีส่วนร่วมทางการเมืองอย่างสร้างสรรค์ตามครรลองการปกครองประชาธิปไตย จึงเป็นหน้าที่รัฐบาลโดยตรง
สำนักนายกรัฐมนตรีและกระทรวงมหาดไทย จึงได้ร่วมกันกำหนดให้มีการส่งเสริมประชาชน ทุกหมู่เหล่า ทุกเชื้อชาติ ทุกศาสนา บนความหลากหลายแห่งวัฒนธรรมท้องถิ่นทั่วทุกภูมิภาคของประเทศ ได้ร่วมกันจัดประชุมประชาชนในรูปแบบประชาคม เพื่อระดมสมอง ระดมความคิดเห็น และระดมเจตนารมณ์ของการพัฒนาประชาธิปไตยว่า ประชาชนมุ่งหมายที่จะพัฒนาการเมืองในระบอบประชาธิปไตยอย่างไร โดยเริ่มมีการประชุมตั้งแต่ระดับหมู่บ้านทุกหมู่บ้าน จำนวน 74,435 หมู่บ้าน ไปสู่การประชุมระดับตำบล จำนวน 7,255 ตำบล การประชุมระดับอำเภอจำนวน 797 อำเภอ และการประชุมประชาคมระดับจังหวัดจำนวน 75 จังหวัดกับกรุงเทพมหานคร โดยได้มีการสรุปและบูรณาการความคิดเห็นโดยผู้ทรงคุณวุฒิ เพื่อให้ได้มาซึ่งปฏิญญาพัฒนาการเมืองไทย 2550 ของประชาชนทั่วประเทศร่วมกัน และได้มีการวิ่งธงสัญลักษณ์ อันเป็นการแสดงพลังแห่งการขับเคลื่อนปฏิญญาดังกล่าว ตั้งแต่วันที่ 1 กรกฎาคม 2550 ที่ผ่านมา ซึ่งถือเป็นการแสดงพลังเชิดชูประชาธิปไตยครั้งประวัติศาสตร์การเมืองไทย ด้วยการเริ่มตั้งขบวนวิ่งธง ขบวนปฏิญญา ร่วมกับบรรดาข้าราชการ พี่น้อง อสพป. และประชาชนผู้เป็นตัวแทนทั่วประเทศ ซึ่งเคลื่อนขบวนจากอนุสาวรีย์ประชาธิปไตยมายังทำเนียบรัฐบาล ในวันนี้
จากนั้น รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ในฐานะตัวแทนของประชาชนทั่วประเทศได้ส่งมอบธงสัญลักษณ์พัฒนาการเมืองไทย 2550 พร้อมรับมอบพานปฏิญญาพัฒนาการเมืองไทย 2550 จากรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย ต่อจากนั้นผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร และตัวแทนทั้ง 75จังหวัด ได้มอบธงมหกรรมประชาธิปไตยแก่นายกรัฐมนตรีด้วย
โอกาสนี้นายกรัฐมนตรีได้กล่าวให้โอวาทกับทุกคนเพื่อเป็นขวัญและกำลังใจในการร่วมกันทำกิจกรรมในครั้งนี้ว่า การจัดทำปฏิญญาพัฒนาการเมืองไทย 2550 และกิจกรรมวิ่งธงจากหมู่บ้านสู่ประเทศในครั้งนี้ เป็นการสะท้อนให้เห็นถึงความตั้งใจของบรรดาพี่น้องคนไทยทั้งประเทศ ที่ได้อุทิศเวลา กำลังความคิด กำลังกาย และที่สำคัญคือ กำลังใจ รวมกันเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันบนพื้นฐานแห่งการปฏิบัติตนตามแนวทางพระราชดำรัส “รู้รัก สามัคคี” ในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และการที่ประชาชนชาวไทยทุกหมู่เหล่า ทุกพื้นที่ แสดงให้เห็นถึงเจตนารมณ์ที่มุ่งมั่นในการสร้างพลังทางการเมือง ขับเคลื่อนประชาธิปไตยออกมาเป็นมติมหาชนที่เกิดขึ้นจากการประชุมประชาคมระดับหมู่บ้าน ทุกหมู่บ้านในประเทศ จนถึงประชาคมจังหวัดทุกจังหวัดมาอยู่รวมกันอยู่ที่แห่งนี้ ที่เรียกว่า “ปฏิญญาพัฒนาการเมืองไทย 2550”
นายกรัฐมนตรีได้กล่าวว่า จะน้อมนำปฏิญญาดังกล่าว และธงทั้งหลายอันเป็นสัญลักษณ์ของความรู้รักสามัคคีของปวงชนชาวไทย และการพัฒนาประชาธิปไตยของคนไทยนี้ไปจัดแสดงและจะกล่าวประกาศปฏิญญาพัฒนาการเมืองไทย 2550 ท่ามกลางสักขีพยาน ซึ่งประกอบไป ผู้นำภาครัฐ ผู้นำภาคเอกชน ทหาร ตำรวจ ข้าราชการ รัฐวิสาหกิจ คณะทูตานุทูต ตลอดจนสาธารณชนต่างๆ อย่างเป็นทางการ ในวันพรุ่งนี้ (3 สิงหาคม 2550) ตั้งแต่เวลา 10.00 น. เป็นต้นไป ณ อิมแพคเมืองทองธานี เพื่อให้ทุกฝ่ายเกิดความเข้าใจและตระหนักถึงเจตนารมณ์ทางการเมืองสูงสุดของพวกเราคนไทยทั้งมวล
นายกรัฐมนตรีกล่าวถึงการจัดงานมหกรรมประชาธิปไตย : ปฏิญญาพัฒนาการเมืองไทย 2550 ว่าเป็นตัวชี้วัดสำคัญที่แสดงให้เห็นว่าคนไทยได้เข้าถึง “การรู้รักสามัคคีและร่วมกันพัฒนาประชาธิปไตย” ตามแนวพระราชดำริของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวอย่างแท้จริง พร้อมกล่าวขอบคุณสำนักนายกรัฐมนตรี และกระทรวงมหาดไทยที่มีบทบาทสำคัญในการจัดงานดังกล่าวได้อย่างสมบูรณ์และสมเกียรติ
พร้อมกันนี้นายกรัฐมนตรีได้กล่าวเชิญชวนคนไทยทั้งประเทศร่วมกันติดตามข่าวสารและร่วมรับชมพิธีเปิดงานมหกรรมประชาธิปไตย : ปฏิญญาพัฒนาการเมืองไทย 2550 ในวันและเวลาดังกล่าว และร่วมกันแสดงรวมพลังประกาศปฏิญญาพัฒนาการเมืองไทย 2550 ในวันที่ 5 สิงหาคม 2550 เวลา 18.00 น. ณ ศาลากลางจังหวัดทุกจังหวัดโดยพร้อมเพรียงกัน พร้อมเชิญชวนคนไทยทุกคนที่มีสิทธิออกเสียงเลือกตั้งไปร่วมกันลงประชามติ รับหรือไม่รับร่างรัฐธรรมนูญปี 2550 ในวันอาทิตย์ที่ 19 สิงหาคม 2550 ตั้งแต่เวลา 08.00 — 16.00 น.
--กลุ่มยุทธศาสตร์และแผนการประชาสัมพันธ์ สำนักโฆษก--