นายเตียว ชี เฮียน (H.E.Teo Chee Hean) รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมสิงคโปร์ เข้าเยี่ยมคารวะ พลเอก สุรยุทธ์ จุลานนท์ นายกรัฐมนตรี
วันนี้ เวลา 10.30 น. ณ ห้องสีงาช้าง ตึกไทยคู่ฟ้า ทำเนียบรัฐบาล นายเตียว ชี เฮียน (H.E.Teo Chee Hean) รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมสิงคโปร์ เข้าเยี่ยมคารวะ พลเอก สุรยุทธ์ จุลานนท์ นายกรัฐมนตรี สาระสำคัญของการสนทนา มีดังนี้
นายกรัฐมนตรีกล่าวต้อนรับ นายเตียว ชี เฮียน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมสิงคโปร์ในการเยือนไทยครั้งนี้ นายกรัฐมนตรีเห็นว่า ความสัมพันธ์ไทยและสิงคโปร์ยังคงมีความแน่นแฟ้นทั้งในระดับรัฐบาลและการทหาร โดยเฉพาะอย่างยิ่งความสัมพันธ์ที่ดีอันยาวนานระหว่างกองทัพของทั้งสองประเทศ เห็นได้จากเร็วๆนี้ได้มีการการลงนามในความตกลงเรื่องการฝึกกองทัพสิงคโปร์ในราชอาณาจักรไทย ฉบับที่ 8 พ.ศ. 2550-2553 การแลกเปลี่ยนการเยือนของเจ้าหน้าที่ระดับสูง และการฝึกร่วมผสมต่างๆ เป็นต้น ซึ่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมสิงคโปร์กล่าวขอบคุณนายกรัฐมนตรีได้ให้ความสนับสนุนดังกล่าว ตลอดมาในโอกาสนี้ นายกรัฐมนตรีได้สอบถามถึงความคืบหน้าในการแก้ไขพระราชบัญญัติด้านกองทัพของสิงคโปร์ด้วย ซึ่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมสิงคโปร์ได้กล่าวว่า กระทรวงกลาโหมสิงคโปร์ได้เสนอให้มีการแก้ไขพรบ.ด้านกองทัพสิงคโปร์ หรือ Singapore Armed Forces (SAF) Act ดังกล่าวในการประชุมของรัฐสภาสิงคโปร์ เพื่อให้อำนาจทางกฎหมายแก่กองทัพในการปฏิบัติการด้านความมั่นคงภายในประเทศ เนื่องจากบริบททางด้านความมั่นคงภายในประเทศได้เปลี่ยนไป โดยเฉพาะอย่างยิ่งนับจากเหตุการณ์การก่อวินาศกรรมเมื่อวันที่ 11 กันยายน 2545 ที่ทำให้ภัยด้านความมั่นคงภายในและภายนอกประเทศมีความคาบเกี่ยวกันมากขึ้น
ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรีมีความยินดีที่ในขณะนี้ประเทศสมาชิกอาเซียนต่างเห็นความสำคัญความร่วมมือด้านความมั่นคงระหว่างกันมากขึ้น โดยมีการจัดการประชุมร่วมกันของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการกลาโหมอาเซียนขึ้นเป็นครั้งแรก เพื่อกำหนดบทบาทด้านความมั่นคงในภูมิภาคก่อนการประชุมสุดยอดผู้นำเอเซียตะวันออกเฉียงใต้ ที่จะจัดขึ้นที่ประเทศสิงคโปร์ในปลายปีนี้
นอกจากนี้ นายกรัฐมนตรีได้แสดงท่าทีของไทย ต่อความสำคัญของปัญหาความมั่นคงในช่องแคบมะละกา และแสดงความประสงค์ของไทยที่จะเป็นส่วนหนึ่งในการลาดตระเวนร่วมเพื่อรักษาความมั่นคงในช่องแคบมะละกา
ระหว่างการสนทนา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมสิงคโปร์ได้แสดงความห่วงใยต่อสถานการณ์ในจังหวัดชายแดนภาคใต้ของไทย และหารือถึงการนำเอาการศึกษามาใช้เพื่อแก้ปัญหาดังกล่าว ทั้งนี้ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมสิงคโปร์กล่าวชื่นชมโครงการการแลกเปลี่ยนนักเรียนระดับมัธยมปลายระหว่างไทย-สิงคโปร์ ซึ่งประสบผลสำเร็จอย่างมากและเห็นว่าเป็นการสร้างเครือข่ายความสัมพันธ์ระหว่างสองประเทศในระดับเยาวชน
ในตอนท้าย นายกรัฐมนตรีได้ฝากความระลึกถึงและยินดีที่จะได้พบกับนายกรัฐมนตรีสิงคโปร์ในการประชุมผู้นำเศรษฐกิจเอเปคครั้งที่ 15 ที่ประเทศออสเตรเลียในเดือนหน้าที่จะถึงนี้ด้วย
--กลุ่มยุทธศาสตร์และแผนการประชาสัมพันธ์ สำนักโฆษก--
วันนี้ เวลา 10.30 น. ณ ห้องสีงาช้าง ตึกไทยคู่ฟ้า ทำเนียบรัฐบาล นายเตียว ชี เฮียน (H.E.Teo Chee Hean) รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมสิงคโปร์ เข้าเยี่ยมคารวะ พลเอก สุรยุทธ์ จุลานนท์ นายกรัฐมนตรี สาระสำคัญของการสนทนา มีดังนี้
นายกรัฐมนตรีกล่าวต้อนรับ นายเตียว ชี เฮียน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมสิงคโปร์ในการเยือนไทยครั้งนี้ นายกรัฐมนตรีเห็นว่า ความสัมพันธ์ไทยและสิงคโปร์ยังคงมีความแน่นแฟ้นทั้งในระดับรัฐบาลและการทหาร โดยเฉพาะอย่างยิ่งความสัมพันธ์ที่ดีอันยาวนานระหว่างกองทัพของทั้งสองประเทศ เห็นได้จากเร็วๆนี้ได้มีการการลงนามในความตกลงเรื่องการฝึกกองทัพสิงคโปร์ในราชอาณาจักรไทย ฉบับที่ 8 พ.ศ. 2550-2553 การแลกเปลี่ยนการเยือนของเจ้าหน้าที่ระดับสูง และการฝึกร่วมผสมต่างๆ เป็นต้น ซึ่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมสิงคโปร์กล่าวขอบคุณนายกรัฐมนตรีได้ให้ความสนับสนุนดังกล่าว ตลอดมาในโอกาสนี้ นายกรัฐมนตรีได้สอบถามถึงความคืบหน้าในการแก้ไขพระราชบัญญัติด้านกองทัพของสิงคโปร์ด้วย ซึ่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมสิงคโปร์ได้กล่าวว่า กระทรวงกลาโหมสิงคโปร์ได้เสนอให้มีการแก้ไขพรบ.ด้านกองทัพสิงคโปร์ หรือ Singapore Armed Forces (SAF) Act ดังกล่าวในการประชุมของรัฐสภาสิงคโปร์ เพื่อให้อำนาจทางกฎหมายแก่กองทัพในการปฏิบัติการด้านความมั่นคงภายในประเทศ เนื่องจากบริบททางด้านความมั่นคงภายในประเทศได้เปลี่ยนไป โดยเฉพาะอย่างยิ่งนับจากเหตุการณ์การก่อวินาศกรรมเมื่อวันที่ 11 กันยายน 2545 ที่ทำให้ภัยด้านความมั่นคงภายในและภายนอกประเทศมีความคาบเกี่ยวกันมากขึ้น
ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรีมีความยินดีที่ในขณะนี้ประเทศสมาชิกอาเซียนต่างเห็นความสำคัญความร่วมมือด้านความมั่นคงระหว่างกันมากขึ้น โดยมีการจัดการประชุมร่วมกันของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการกลาโหมอาเซียนขึ้นเป็นครั้งแรก เพื่อกำหนดบทบาทด้านความมั่นคงในภูมิภาคก่อนการประชุมสุดยอดผู้นำเอเซียตะวันออกเฉียงใต้ ที่จะจัดขึ้นที่ประเทศสิงคโปร์ในปลายปีนี้
นอกจากนี้ นายกรัฐมนตรีได้แสดงท่าทีของไทย ต่อความสำคัญของปัญหาความมั่นคงในช่องแคบมะละกา และแสดงความประสงค์ของไทยที่จะเป็นส่วนหนึ่งในการลาดตระเวนร่วมเพื่อรักษาความมั่นคงในช่องแคบมะละกา
ระหว่างการสนทนา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมสิงคโปร์ได้แสดงความห่วงใยต่อสถานการณ์ในจังหวัดชายแดนภาคใต้ของไทย และหารือถึงการนำเอาการศึกษามาใช้เพื่อแก้ปัญหาดังกล่าว ทั้งนี้ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมสิงคโปร์กล่าวชื่นชมโครงการการแลกเปลี่ยนนักเรียนระดับมัธยมปลายระหว่างไทย-สิงคโปร์ ซึ่งประสบผลสำเร็จอย่างมากและเห็นว่าเป็นการสร้างเครือข่ายความสัมพันธ์ระหว่างสองประเทศในระดับเยาวชน
ในตอนท้าย นายกรัฐมนตรีได้ฝากความระลึกถึงและยินดีที่จะได้พบกับนายกรัฐมนตรีสิงคโปร์ในการประชุมผู้นำเศรษฐกิจเอเปคครั้งที่ 15 ที่ประเทศออสเตรเลียในเดือนหน้าที่จะถึงนี้ด้วย
--กลุ่มยุทธศาสตร์และแผนการประชาสัมพันธ์ สำนักโฆษก--