วันนี้ เวลา 15.50 น. ณ ห้องสีม่วง ตึกไทยคู่ฟ้า ทำเนียบรัฐบาล พลเอก สุรยุทธ์ จุลานนท์ นายกรัฐมนตรี รับมอบเงินบริจาคเข้ากองทุนส่งเสริมและสนับสนุนการสร้างความสงบเรียบร้อยในจังหวัดชายแดนภาคใต้ จากหน่วยงานรัฐวิสาหกิจและองค์กรภาคเอกชน 13 หน่วยงาน รวมจำนวน 52 ล้านบาท
โอกาสนี้ นายกรัฐมนตรีได้รับมอบเงินบริจาคเข้ากองทุนฯ พร้อมกล่าวขอบคุณทุกองค์กรที่ได้ช่วยกันก่อตั้งกองทุนส่งเสริมและสนับสนุนการสร้างความสงบเรียบร้อยในจังหวัดชายแดนภาคใต้ ขึ้น ซึ่งความมุ่งหมายของกองทุนฯ เกิดขึ้นเนื่องจากการทำงานของภาครัฐในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ มีความจำเป็นต้องเยียวยาแก้ไขปัญหาเร่งด่วน แต่เนื่องจากบางครั้งการใช้จ่ายงบประมาณของภาครัฐมีระเบียบข้อบังคับต่างๆ ที่ทำให้ไม่สามารถดำเนินการได้อย่างคล่องตัว โดยภาครัฐจะดูแลกองทุนนี้ด้วยความโปร่งใสและเป็นธรรม จะนำเงินจากกองทุนฯ ไปช่วยเหลือเจ้าหน้าที่ของรัฐรวมทั้งประชาชนชาวไทยที่นับถือศาสนาพุทธและนับถือศาสนาอิสลาม ที่ในบางครั้งระเบียบราชการไม่สามารถให้ความช่วยเหลือได้จริง ๆ รวมทั้งนำไปช่วยเหลือเยียวยาผู้ป่วยและผู้เสียหายต่าง ๆ ที่อยู่ในวิสัยที่จะดำเนินการช่วยเหลือได้ ซึ่งความร่วมมือในครั้งนี้ของหน่วยงานต่าง ๆ จะเป็นพลังใจและพลังทรัพย์ ให้กับประชาชนในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ รวมทั้งจะเพิ่มความมั่นใจต่อการทำงานแก้ไขปัญหาชายแดนภาคใต้ด้วย
นายกรัฐมนตรีกล่าวด้วยว่า การช่วยเหลือพี่น้องในจังหวัดชายแดนภาคใต้จะไม่เป็นเพียงการให้ความช่วยเหลือเฉพาะในช่วงที่มีปัญหาภาคใต้ในขณะนี้เท่านั้น ซึ่งถึงแม้ว่านายกรัฐมนตรีจะพ้นจากหน้าที่ในอนาคตแล้ว เงินในกองทุนนี้ก็จะได้รับการบริหารจัดการโดยรัฐบาลต่อไป และนายกรัฐมนตรีจะทำหน้าที่ในฐานะคนไทยคนหนึ่ง ที่จะร่วมคลี่คลายปัญหาและนำความสงบเรียบร้อยมาสู่พื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ให้ได้
สำหรับรายนามผู้เข้าร่วมบริจาคมีดังนี้ 1. บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) 5 ล้านบาท 2. บริษัท การท่าอากาศยานแห่งประเทศไทย จำกัด (มหาชน) 5 ล้านบาท 3. บริษัททีโอที จำกัด (มหาชน) 5 ล้านบาท 4. บริษัท กสท โทรคมนาคม จำกัด (มหาชน) 5 ล้านบาท 5. บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) 10 ล้านบาท 6. สำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล 5 ล้านบาท 7. บริษัท ไทยเบฟเวอร์เรจส์ มาร์เก็ตติ้ง จำกัด 5 ล้านบาท 8. บริษัท ทรูคอร์เปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) 5 ล้านบาท 9. การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย 3 ล้านบาท 10. บริษัทหาดทิพย์ จำกัด (มหาชน) 1 ล้านบาท 11. การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย 1 ล้านบาท 12. บริษัท บุญรอดบริวเวอรี่ จำกัด 1 ล้านบาท 13. การประปานครหลวง 1 ล้านบาท รวมจำนวนเงินบริจาคทั้งหมด 52 ล้านบาท
--กลุ่มยุทธศาสตร์และแผนการประชาสัมพันธ์ สำนักโฆษก--
โอกาสนี้ นายกรัฐมนตรีได้รับมอบเงินบริจาคเข้ากองทุนฯ พร้อมกล่าวขอบคุณทุกองค์กรที่ได้ช่วยกันก่อตั้งกองทุนส่งเสริมและสนับสนุนการสร้างความสงบเรียบร้อยในจังหวัดชายแดนภาคใต้ ขึ้น ซึ่งความมุ่งหมายของกองทุนฯ เกิดขึ้นเนื่องจากการทำงานของภาครัฐในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ มีความจำเป็นต้องเยียวยาแก้ไขปัญหาเร่งด่วน แต่เนื่องจากบางครั้งการใช้จ่ายงบประมาณของภาครัฐมีระเบียบข้อบังคับต่างๆ ที่ทำให้ไม่สามารถดำเนินการได้อย่างคล่องตัว โดยภาครัฐจะดูแลกองทุนนี้ด้วยความโปร่งใสและเป็นธรรม จะนำเงินจากกองทุนฯ ไปช่วยเหลือเจ้าหน้าที่ของรัฐรวมทั้งประชาชนชาวไทยที่นับถือศาสนาพุทธและนับถือศาสนาอิสลาม ที่ในบางครั้งระเบียบราชการไม่สามารถให้ความช่วยเหลือได้จริง ๆ รวมทั้งนำไปช่วยเหลือเยียวยาผู้ป่วยและผู้เสียหายต่าง ๆ ที่อยู่ในวิสัยที่จะดำเนินการช่วยเหลือได้ ซึ่งความร่วมมือในครั้งนี้ของหน่วยงานต่าง ๆ จะเป็นพลังใจและพลังทรัพย์ ให้กับประชาชนในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ รวมทั้งจะเพิ่มความมั่นใจต่อการทำงานแก้ไขปัญหาชายแดนภาคใต้ด้วย
นายกรัฐมนตรีกล่าวด้วยว่า การช่วยเหลือพี่น้องในจังหวัดชายแดนภาคใต้จะไม่เป็นเพียงการให้ความช่วยเหลือเฉพาะในช่วงที่มีปัญหาภาคใต้ในขณะนี้เท่านั้น ซึ่งถึงแม้ว่านายกรัฐมนตรีจะพ้นจากหน้าที่ในอนาคตแล้ว เงินในกองทุนนี้ก็จะได้รับการบริหารจัดการโดยรัฐบาลต่อไป และนายกรัฐมนตรีจะทำหน้าที่ในฐานะคนไทยคนหนึ่ง ที่จะร่วมคลี่คลายปัญหาและนำความสงบเรียบร้อยมาสู่พื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ให้ได้
สำหรับรายนามผู้เข้าร่วมบริจาคมีดังนี้ 1. บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) 5 ล้านบาท 2. บริษัท การท่าอากาศยานแห่งประเทศไทย จำกัด (มหาชน) 5 ล้านบาท 3. บริษัททีโอที จำกัด (มหาชน) 5 ล้านบาท 4. บริษัท กสท โทรคมนาคม จำกัด (มหาชน) 5 ล้านบาท 5. บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) 10 ล้านบาท 6. สำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล 5 ล้านบาท 7. บริษัท ไทยเบฟเวอร์เรจส์ มาร์เก็ตติ้ง จำกัด 5 ล้านบาท 8. บริษัท ทรูคอร์เปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) 5 ล้านบาท 9. การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย 3 ล้านบาท 10. บริษัทหาดทิพย์ จำกัด (มหาชน) 1 ล้านบาท 11. การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย 1 ล้านบาท 12. บริษัท บุญรอดบริวเวอรี่ จำกัด 1 ล้านบาท 13. การประปานครหลวง 1 ล้านบาท รวมจำนวนเงินบริจาคทั้งหมด 52 ล้านบาท
--กลุ่มยุทธศาสตร์และแผนการประชาสัมพันธ์ สำนักโฆษก--