วันนี้ เวลา 17.00 น. ที่ทำเนียบรัฐบาล พลเอก สุรยุทธ์ จุลานนท์ นายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ออกมาระบุว่าจะเดินทางกลับประเทศไทยก่อนศาลจะมีคำสั่งตัดสินคดี ว่า เป็นเรื่องที่ พ.ต.ท.ทักษิณฯ สามารถทำได้อยู่แล้ว เพราะเมื่อคณะกรรมการตรวจสอบการกระทำที่ก่อให้เกิดความเสียหายแก่รัฐ (คตส.) ได้ประกาศไว้แล้วว่า สามารถที่จะมาชี้แจงเรื่องทรัพย์สินของตัวเองได้ภายในเวลา 60 วันก็ถือเป็นสิทธิของ พ.ต.ท.ทักษิณฯ ที่จะมาชี้แจงว่าทรัพย์สินที่ได้มาเป็นไปอย่างไร ถ้าอยู่ในห้วงระยะเวลา 60 วัน ก็ถือว่าให้ทำตามที่ คตส.ได้แจ้งไปแล้ว
ผู้สื่อข่าวถามว่า แนวโน้มของการชุมนุมหลังจากที่ คตส.มีคำสั่งอายัดทรัพย์ พ.ต.ท.ทักษิณฯ และภรรยา แล้ว นายกรัฐมนตรีเป็นห่วงสถานการณ์การชุมนุมหรือไม่ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า คงไม่ได้เป็นเรื่องที่เป็นห่วงมากนัก คิดว่าในการชุมนุมถ้าหากชุมนุมแล้วไม่ทำให้เกิดความเดือดร้อน หรือความวุ่นวายขึ้น คงไม่มีปัญหาอะไร
ผู้สื่อข่าวถามว่า รัฐบาลจะให้ความมั่นใจเรื่องความปลอดภัยหาก พ.ต.ท.ทักษิณฯ จะกลับมาประเทศไทยอย่างไร นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า เป็นเรื่องของเจ้าหน้าที่ตำรวจ รัฐบาลคงไม่ต้องรับรองเรื่องความปลอดภัย เพราะกฎหมายบ้านเมืองของเราเป็นกฎหมายที่ให้สิทธิเท่าเทียมกันกับประชาชนทุกคน ไม่ได้มีข้อยกเว้นเป็นพิเศษสำหรับผู้หนึ่งผู้ใด
ผู้สื่อข่าวถามว่า ได้มีการพูดคุยกับ พลเอก สนธิ บุญยรัตกลิน ประธานคณะมนตรีความมั่นคงแห่งชาติ (คมช.) ในการจะกลับมาของ พ.ต.ท.ทักษิณฯ หรือไม่ เพราะอาจเชื่อมโยงกับการชุมนุม นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ยังไม่ได้มีการพูดคุยกัน แต่หาก พ.ต.ท.ทักษิณฯ จะเดินทางกลับมาชี้แจงเรื่องทรัพย์สินก็สามารถอธิบายในเหตุผลได้ ทั้งนี้ คงไม่ต้องขออนุญาต คมช. และรัฐบาล เพราะในฐานะที่เป็นคนไทยถือว่ามีสิทธิอยู่แล้วที่จะเดินทางเข้า-ออกประเทศไทยได้ เพียงแต่ว่าหากจะเดินทางเข้ามาก็ควรจะชี้แจงให้ คตส.ทราบว่าจะเข้ามาเมื่อไร อย่างไร เพื่อที่จะได้ประสานงานกัน
ส่วนที่ว่าก่อนหน้านี้นายกรัฐมนตรีเคยระบุว่าเวลานี้ยังไม่ถึงเวลาที่เหมาะสมในการเดินทางกลับประเทศของพ.ต.ท.ท.ทักษิณฯ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ก็เป็นการพูดคุยกันกับ พ.ต.ท.ทักษิณฯ ทางโทรศัพท์ แต่เมื่อมีความจำเป็นที่จะต้องมาชี้แจงเรื่องทรัพย์สินของตัวเองให้กับ คตส.ก็เป็นเรื่องของ พ.ต.ท.ทักษิณฯ ที่จะใช้สิทธิตรงนั้นได้
ต่อข้อถามว่า เมื่อ พ.ต.ท.ทักษิณฯ เดินทางไปยังสถานที่ต่าง ๆ หลังกลับเข้าประเทศแล้ว จะต้องมีการดูแลเป็นพิเศษหรือไม่ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า อย่างที่ได้เคยพูดไปแล้วว่าเราในฐานะคนไทยเรายืนอยู่บนความเท่าเทียมกันตามกฎหมาย ส่วนเรื่องความปลอดภัยก็เป็นเรื่องที่เจ้าหน้าที่ตำรวจต้องดูแล
ต่อข้อถามว่า รัฐบาลยืนยันได้หรือไม่ว่าจะให้ความเป็นธรรมกับ พ.ต.ท.ทักษิณฯ โดยไม่มีการตั้งธงไว้ก่อนว่าจะเอาผิด นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า รัฐบาลไม่เคยคิดเลยที่จะเอาผิด เป็นเรื่องของกระบวนการยุติธรรม รัฐบาลไม่ได้เข้าไปเกี่ยวข้องกับเรื่องที่จะชี้ว่าใครผิดหรือไม่ผิด รัฐบาลมีหน้าที่ที่จะดูแลให้บ้านเมืองเกิดความสงบและนำไปสู่ขั้นตอนการดำเนินการที่จะไปสู่การเลือกตั้งในปลายปีนี้
ผู้สื่อข่าวถามว่า การที่ พ.ต.ท.ทักษิณฯ กลับมาอาจจะทำให้การชุมนุมหรือกลุ่มคนที่รักทักษิณออกมาเคลื่อนไหวรุนแรงมากขึ้น นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า เราสามารถทำความเข้าใจกันได้ แม้กระทั่งกับผู้ชุมนุมว่าไม่ได้เป็นผลดีกับชาติบ้านเมืองเลย
ผู้สื่อข่าวถามว่า ขณะนี้รัฐบาลได้ออกมาชี้แจงตลอดแต่ยังมีการชุมนุมกันทุกวัน นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ก็เป็นสิทธิ ถ้าหากการชุมนุมไม่ทำให้เกิดความรุนแรงขึ้น ก็ไม่ผิดกฎหมาย เป็นสิทธิของคนไทยตามรัฐธรรมนูญ ส่วนจะสามารถควบคุมการชุมนุมให้สถานการณ์อยู่ในกรอบได้หรือไม่นั้น นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ต้องทำความเข้าใจกันว่าชุมนุมได้แต่อย่าทำให้เกิดความรุนแรง และอยากให้สื่อมวลชนช่วยกันด้วยว่าเป็นสิทธิของทุกคนที่จะชุมนุมได้ แต่ขอว่าอย่าให้เกิดความรุนแรง
--กลุ่มยุทธศาสตร์และแผนการประชาสัมพันธ์ สำนักโฆษก--
ผู้สื่อข่าวถามว่า แนวโน้มของการชุมนุมหลังจากที่ คตส.มีคำสั่งอายัดทรัพย์ พ.ต.ท.ทักษิณฯ และภรรยา แล้ว นายกรัฐมนตรีเป็นห่วงสถานการณ์การชุมนุมหรือไม่ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า คงไม่ได้เป็นเรื่องที่เป็นห่วงมากนัก คิดว่าในการชุมนุมถ้าหากชุมนุมแล้วไม่ทำให้เกิดความเดือดร้อน หรือความวุ่นวายขึ้น คงไม่มีปัญหาอะไร
ผู้สื่อข่าวถามว่า รัฐบาลจะให้ความมั่นใจเรื่องความปลอดภัยหาก พ.ต.ท.ทักษิณฯ จะกลับมาประเทศไทยอย่างไร นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า เป็นเรื่องของเจ้าหน้าที่ตำรวจ รัฐบาลคงไม่ต้องรับรองเรื่องความปลอดภัย เพราะกฎหมายบ้านเมืองของเราเป็นกฎหมายที่ให้สิทธิเท่าเทียมกันกับประชาชนทุกคน ไม่ได้มีข้อยกเว้นเป็นพิเศษสำหรับผู้หนึ่งผู้ใด
ผู้สื่อข่าวถามว่า ได้มีการพูดคุยกับ พลเอก สนธิ บุญยรัตกลิน ประธานคณะมนตรีความมั่นคงแห่งชาติ (คมช.) ในการจะกลับมาของ พ.ต.ท.ทักษิณฯ หรือไม่ เพราะอาจเชื่อมโยงกับการชุมนุม นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ยังไม่ได้มีการพูดคุยกัน แต่หาก พ.ต.ท.ทักษิณฯ จะเดินทางกลับมาชี้แจงเรื่องทรัพย์สินก็สามารถอธิบายในเหตุผลได้ ทั้งนี้ คงไม่ต้องขออนุญาต คมช. และรัฐบาล เพราะในฐานะที่เป็นคนไทยถือว่ามีสิทธิอยู่แล้วที่จะเดินทางเข้า-ออกประเทศไทยได้ เพียงแต่ว่าหากจะเดินทางเข้ามาก็ควรจะชี้แจงให้ คตส.ทราบว่าจะเข้ามาเมื่อไร อย่างไร เพื่อที่จะได้ประสานงานกัน
ส่วนที่ว่าก่อนหน้านี้นายกรัฐมนตรีเคยระบุว่าเวลานี้ยังไม่ถึงเวลาที่เหมาะสมในการเดินทางกลับประเทศของพ.ต.ท.ท.ทักษิณฯ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ก็เป็นการพูดคุยกันกับ พ.ต.ท.ทักษิณฯ ทางโทรศัพท์ แต่เมื่อมีความจำเป็นที่จะต้องมาชี้แจงเรื่องทรัพย์สินของตัวเองให้กับ คตส.ก็เป็นเรื่องของ พ.ต.ท.ทักษิณฯ ที่จะใช้สิทธิตรงนั้นได้
ต่อข้อถามว่า เมื่อ พ.ต.ท.ทักษิณฯ เดินทางไปยังสถานที่ต่าง ๆ หลังกลับเข้าประเทศแล้ว จะต้องมีการดูแลเป็นพิเศษหรือไม่ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า อย่างที่ได้เคยพูดไปแล้วว่าเราในฐานะคนไทยเรายืนอยู่บนความเท่าเทียมกันตามกฎหมาย ส่วนเรื่องความปลอดภัยก็เป็นเรื่องที่เจ้าหน้าที่ตำรวจต้องดูแล
ต่อข้อถามว่า รัฐบาลยืนยันได้หรือไม่ว่าจะให้ความเป็นธรรมกับ พ.ต.ท.ทักษิณฯ โดยไม่มีการตั้งธงไว้ก่อนว่าจะเอาผิด นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า รัฐบาลไม่เคยคิดเลยที่จะเอาผิด เป็นเรื่องของกระบวนการยุติธรรม รัฐบาลไม่ได้เข้าไปเกี่ยวข้องกับเรื่องที่จะชี้ว่าใครผิดหรือไม่ผิด รัฐบาลมีหน้าที่ที่จะดูแลให้บ้านเมืองเกิดความสงบและนำไปสู่ขั้นตอนการดำเนินการที่จะไปสู่การเลือกตั้งในปลายปีนี้
ผู้สื่อข่าวถามว่า การที่ พ.ต.ท.ทักษิณฯ กลับมาอาจจะทำให้การชุมนุมหรือกลุ่มคนที่รักทักษิณออกมาเคลื่อนไหวรุนแรงมากขึ้น นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า เราสามารถทำความเข้าใจกันได้ แม้กระทั่งกับผู้ชุมนุมว่าไม่ได้เป็นผลดีกับชาติบ้านเมืองเลย
ผู้สื่อข่าวถามว่า ขณะนี้รัฐบาลได้ออกมาชี้แจงตลอดแต่ยังมีการชุมนุมกันทุกวัน นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ก็เป็นสิทธิ ถ้าหากการชุมนุมไม่ทำให้เกิดความรุนแรงขึ้น ก็ไม่ผิดกฎหมาย เป็นสิทธิของคนไทยตามรัฐธรรมนูญ ส่วนจะสามารถควบคุมการชุมนุมให้สถานการณ์อยู่ในกรอบได้หรือไม่นั้น นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ต้องทำความเข้าใจกันว่าชุมนุมได้แต่อย่าทำให้เกิดความรุนแรง และอยากให้สื่อมวลชนช่วยกันด้วยว่าเป็นสิทธิของทุกคนที่จะชุมนุมได้ แต่ขอว่าอย่าให้เกิดความรุนแรง
--กลุ่มยุทธศาสตร์และแผนการประชาสัมพันธ์ สำนักโฆษก--