แท็ก
สภาที่ปรึกษาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ
สุรยุทธ์ จุลานนท์
ทำเนียบรัฐบาล
ตึกสันติไมตรี
นายกรัฐมนตรี
วันนี้ เวลา 09.00 น. ณ ตึกสันติไมตรี ทำเนียบรัฐบาล พลเอก สุรยุทธ์ จุลานนท์ นายกรัฐมนตรี เป็นประธานในพิธีเปิดการสัมมนา เรื่อง “พระราชบัญญัติการมีส่วนร่วมของประชาชน : ต้องไม่รออีกต่อไป” ซึ่งสภานิติบัญญัติแห่งชาติ โดยคณะกรรมาธิการการมีส่วนร่วมของประชาชน ร่วมกับสภาที่ปรึกษาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี และสำนักงานพัฒนานโยบายสาธารณะ จัดขึ้น เพื่อให้ประชาชนได้มีเวทีในการแสดงความคิดเห็นและเป็นการขับเคลื่อนการมีส่วนร่วมของประชาชนต่อกระบวนการนิติบัญญัติ และให้เกิดกระบวนการการมีส่วนร่วมของประชาชนอย่างเป็นรูปธรรมและเป็นระบบโดยมีการตราเป็นพระราชบัญญัติการมีส่วนร่วมของประชาชน ซึ่งมีผู้เข้าร่วมสัมมนาจำนวน 200 คน ประกอบด้วย สมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติ หน่วยงานภาครัฐ องค์กรอิสระ พรรคการเมือง นักวิชาการ คณาจารย์ รัฐวิสาหกิจ องค์กรบริหารส่วนท้องถิ่น สื่อมวลชน และประชาชนทั่วไป
นายโคทม อารียา ประธานคณะกรรมาธิการการมีส่วนร่วมของประชาชน กล่าวรายงานวัตถุประสงค์การจัดสัมมนา เรื่อง “พระราชบัญญัติการมีส่วนร่วมของประชาชน : ต้องไม่รออีกต่อไป” ดังนี้ 1) เพื่อเผยแพร่และให้ความรู้ ข้อมูล เกี่ยวกับร่างพระราชบัญญัติการมีส่วนร่วมของประชาชน พ.ศ. .... รวมทั้งสร้างความตระหนักให้แก่ประชาชนให้ทราบถึงความสำคัญของการมีส่วนร่วมของประชาชน และให้ประชาชนได้มีส่วนร่วมในกระบวนการบัญญัติ 2) เพื่อรับฟังความคิดเห็นและข้อเสนอจากภาคประชาชนต่อประเด็นดังกล่าว เพื่อนำไปเป็นข้อมูลประกอบการพิจารณาในการจัดทำร่างพระราชบัญญัติการมีส่วนร่วมของประชาชน พ.ศ. .... 3) เพื่อรวบรวมความคิดเห็น และข้อมูลต่างๆ ที่ได้จากการสัมมนาฯ เสนอต่อสภานิติบัญญัติแห่งชาติ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อพิจารณาดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไป
โอกาสนี้ นายกรัฐมนตรีกล่าวแสดงความยินดีที่ได้มาร่วมในพิธีเปิดการสัมมนา เรื่อง “พระราชบัญญัติการมีส่วนร่วมของประชาชน : ต้องไม่รออีกต่อไป” ที่ฝ่ายบริหารและฝ่ายนิติบัญญัติ ส่วนราชการและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้ร่วมกัน จัดขึ้นในวันนี้ เพื่อให้ประชาชนได้มีส่วนร่วมในกระบวนการบัญญัติ และได้ตระหนักถึงความสำคัญของการมีส่วนร่วม รวมทั้งเพื่อรับฟังความคิดเห็นตลอดจนข้อเสนอแนะจากประชาชนไปพร้อม ๆ กัน
ที่ผ่านมา รัฐบาลและหน่วยงานภาครัฐได้พยายามส่งเสริมและเน้นการมีส่วนร่วมของประชาชน ซึ่งแสดงถึงความพยายามที่จะพัฒนาระบอบประชาธิปไตย ทั้งในการกำหนดนโยบาย การตัดสินใจทางการเมือง การวางแผนพัฒนาทางเศรษฐกิจ สังคมและการเมือง รวมทั้งการตรวจสอบการใช้อำนาจรัฐในทุกระดับ และได้มีการออกระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยการรับฟังความคิดเห็นของประชาชน พ.ศ. 2548 มาแล้ว
สำหรับรัฐบาลนี้ก็มีนโยบายปฏิรูปการเมือง การปกครองและการบริหาร โดยส่งเสริมบทบาทขององค์กรภาคเอกชนและภาคประชาชน ส่งเสริมให้ทุกภาคส่วนร่วมกันพัฒนาสังคมไทย ให้เป็นสังคมที่มีสันติสุขอย่างยั่งยืน และมีนโยบายปฏิรูประบบกระบวนการยุติธรรมโดยให้ประชาชนเข้ามามีส่วนร่วม เพราะรัฐบาลถือว่าการมีส่วนร่วมของประชาชน เป็นหลักการสำคัญของการปกครองในระบอบประชาธิปไตย และจะทำให้การดำเนินงานของหน่วยงานภาครัฐสามารถตอบสนองต่อความต้องการของประชาชนได้อย่างแท้จริง ซึ่งจะช่วยลดความขัดแย้งและผลกระทบในด้านต่างๆ ให้น้อยลง ทั้งนี้ หลักการของการมีส่วนร่วมของประชาชนประกอบด้วยขั้นตอนต่างๆ 5 ขั้นตอน คือ 1) การให้ข้อมูลข่าวสาร 2) การรับฟังความคิดเห็น 3) การสร้างเข้าใจทั้งประชาชนและภาครัฐ 4) ความร่วมมือกันในทุกภาคส่วน ทั้งภาครัฐและภาคประชาชน 5) การเสริมอำนาจให้แก่ประชาชน ตามกฎหมาย
นายกรัฐมนตรีกล่าวว่าการจัดสัมมนาในวันนี้ นอกจากจะเป็นการส่งเสริมให้ประชาชนได้เข้ามามีส่วนร่วมในกระบวนการนิติบัญญัติ ได้ร่วมแสดงทัศนะและความคิดเห็นในกระบวนการบัญญัติกฎหมายที่เกี่ยวข้องโดยตรงกับประชาชน คือ ร่างพระราชบัญญัติการมีส่วนร่วมของประชาชนนี้แล้ว ยังเป็นนิมิตหมายที่ดีของความร่วมมือระหว่างฝ่ายบริหารและฝ่ายนิติบัญญัติในกระบวนการนิติบัญญัติอีกทางหนึ่งด้วย ซึ่งนอกจากจะเป็นการส่งเสริมให้กระบวนการนิติบัญญัติมีความเข้มแข็งแล้ว ยังเป็นแนวทางสำหรับการตรากฎหมายและการกำหนดนโยบายการบริหารราชการแผ่นดินในอนาคตต่อไปอีกด้วย
--กลุ่มยุทธศาสตร์และแผนการประชาสัมพันธ์ สำนักโฆษก--
นายโคทม อารียา ประธานคณะกรรมาธิการการมีส่วนร่วมของประชาชน กล่าวรายงานวัตถุประสงค์การจัดสัมมนา เรื่อง “พระราชบัญญัติการมีส่วนร่วมของประชาชน : ต้องไม่รออีกต่อไป” ดังนี้ 1) เพื่อเผยแพร่และให้ความรู้ ข้อมูล เกี่ยวกับร่างพระราชบัญญัติการมีส่วนร่วมของประชาชน พ.ศ. .... รวมทั้งสร้างความตระหนักให้แก่ประชาชนให้ทราบถึงความสำคัญของการมีส่วนร่วมของประชาชน และให้ประชาชนได้มีส่วนร่วมในกระบวนการบัญญัติ 2) เพื่อรับฟังความคิดเห็นและข้อเสนอจากภาคประชาชนต่อประเด็นดังกล่าว เพื่อนำไปเป็นข้อมูลประกอบการพิจารณาในการจัดทำร่างพระราชบัญญัติการมีส่วนร่วมของประชาชน พ.ศ. .... 3) เพื่อรวบรวมความคิดเห็น และข้อมูลต่างๆ ที่ได้จากการสัมมนาฯ เสนอต่อสภานิติบัญญัติแห่งชาติ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อพิจารณาดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไป
โอกาสนี้ นายกรัฐมนตรีกล่าวแสดงความยินดีที่ได้มาร่วมในพิธีเปิดการสัมมนา เรื่อง “พระราชบัญญัติการมีส่วนร่วมของประชาชน : ต้องไม่รออีกต่อไป” ที่ฝ่ายบริหารและฝ่ายนิติบัญญัติ ส่วนราชการและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้ร่วมกัน จัดขึ้นในวันนี้ เพื่อให้ประชาชนได้มีส่วนร่วมในกระบวนการบัญญัติ และได้ตระหนักถึงความสำคัญของการมีส่วนร่วม รวมทั้งเพื่อรับฟังความคิดเห็นตลอดจนข้อเสนอแนะจากประชาชนไปพร้อม ๆ กัน
ที่ผ่านมา รัฐบาลและหน่วยงานภาครัฐได้พยายามส่งเสริมและเน้นการมีส่วนร่วมของประชาชน ซึ่งแสดงถึงความพยายามที่จะพัฒนาระบอบประชาธิปไตย ทั้งในการกำหนดนโยบาย การตัดสินใจทางการเมือง การวางแผนพัฒนาทางเศรษฐกิจ สังคมและการเมือง รวมทั้งการตรวจสอบการใช้อำนาจรัฐในทุกระดับ และได้มีการออกระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยการรับฟังความคิดเห็นของประชาชน พ.ศ. 2548 มาแล้ว
สำหรับรัฐบาลนี้ก็มีนโยบายปฏิรูปการเมือง การปกครองและการบริหาร โดยส่งเสริมบทบาทขององค์กรภาคเอกชนและภาคประชาชน ส่งเสริมให้ทุกภาคส่วนร่วมกันพัฒนาสังคมไทย ให้เป็นสังคมที่มีสันติสุขอย่างยั่งยืน และมีนโยบายปฏิรูประบบกระบวนการยุติธรรมโดยให้ประชาชนเข้ามามีส่วนร่วม เพราะรัฐบาลถือว่าการมีส่วนร่วมของประชาชน เป็นหลักการสำคัญของการปกครองในระบอบประชาธิปไตย และจะทำให้การดำเนินงานของหน่วยงานภาครัฐสามารถตอบสนองต่อความต้องการของประชาชนได้อย่างแท้จริง ซึ่งจะช่วยลดความขัดแย้งและผลกระทบในด้านต่างๆ ให้น้อยลง ทั้งนี้ หลักการของการมีส่วนร่วมของประชาชนประกอบด้วยขั้นตอนต่างๆ 5 ขั้นตอน คือ 1) การให้ข้อมูลข่าวสาร 2) การรับฟังความคิดเห็น 3) การสร้างเข้าใจทั้งประชาชนและภาครัฐ 4) ความร่วมมือกันในทุกภาคส่วน ทั้งภาครัฐและภาคประชาชน 5) การเสริมอำนาจให้แก่ประชาชน ตามกฎหมาย
นายกรัฐมนตรีกล่าวว่าการจัดสัมมนาในวันนี้ นอกจากจะเป็นการส่งเสริมให้ประชาชนได้เข้ามามีส่วนร่วมในกระบวนการนิติบัญญัติ ได้ร่วมแสดงทัศนะและความคิดเห็นในกระบวนการบัญญัติกฎหมายที่เกี่ยวข้องโดยตรงกับประชาชน คือ ร่างพระราชบัญญัติการมีส่วนร่วมของประชาชนนี้แล้ว ยังเป็นนิมิตหมายที่ดีของความร่วมมือระหว่างฝ่ายบริหารและฝ่ายนิติบัญญัติในกระบวนการนิติบัญญัติอีกทางหนึ่งด้วย ซึ่งนอกจากจะเป็นการส่งเสริมให้กระบวนการนิติบัญญัติมีความเข้มแข็งแล้ว ยังเป็นแนวทางสำหรับการตรากฎหมายและการกำหนดนโยบายการบริหารราชการแผ่นดินในอนาคตต่อไปอีกด้วย
--กลุ่มยุทธศาสตร์และแผนการประชาสัมพันธ์ สำนักโฆษก--