พลเอก สุรยุทธ์ จุลานนท์ นายกรัฐมนตรี ระบุรัฐบาลได้ทำหน้าที่ของรัฐบาลอย่างดีที่สุดที่จะทำความเข้าใจกับมิตรประเทศ โดยขอให้ทุกคนได้ช่วยกันไปสู่การเลือกตั้ง และมีรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้งเพื่อที่จะได้กลับไปสู่ครรลองของประชาธิปไตย
วันนี้ เวลา 16.50 น. ที่ทำเนียบรัฐบาล พลเอก สุรยุทธ์ จุลานนท์ นายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงบทสัมภาษณ์ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ในหนังสือ “ทักษิณ Where are you ?” ตอนหนึ่งที่ระบุว่าประเทศกลุ่มสหภาพยุโรป (อียู) ไม่ยอมรับรัฐบาล พลเอก สุรยุทธ์ จุลานนท์ นายกรัฐมนตรี ว่า อยู่ที่มุมมองของแต่ละคนว่าจะมองในแง่ไหน ในส่วนของรัฐบาลนั้นได้ทำหน้าที่ของรัฐบาลอย่างดีที่สุด ที่จะทำความเข้าใจกับมิตรประเทศ และได้มีโอกาสพบกับเอกอัครราชทูตของประเทศออสเตรีย ซึ่งทำหน้าที่เป็นผู้แทนของสหภาพยุโรป ก็ได้เข้ามาพูดกับตนเองว่า ได้ติดตามการพัฒนาการทางการเมืองของประเทศไทย และเห็นว่ารัฐบาลได้พยายามอย่างที่สุดแล้วที่จะให้เป็นไปตามขั้นตอนและห้วงเวลา เป็นสิ่งที่เอกอัครราชทูตมีความพอใจเป็นอย่างยิ่ง ก็ขอให้ทุกคนได้ช่วยกันไปสู่การเลือกตั้ง และมีรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้งเพื่อจะได้กลับไปสู่ครรลองของประชาธิปไตย
ผู้สื่อข่าวถามว่า มีการอ้างว่ามีรัฐมนตรีบางคนเดินทางไปพบรัฐมนตรีในกลุ่มอียู แต่ถูกปฏิเสธ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า คิดว่าไม่ได้เป็นเรื่องที่เป็นสาระสำคัญ สาระสำคัญอยู่ที่เรามีเจตนารมณ์ที่จะขับเคลื่อนไปสู่ครรลองประชาธิปไตย และทำตามที่พูด นั่นคือสิ่งที่ทุก ๆ ประเทศทั่วโลกติดตามดูอยู่ อย่างไรก็ตาม ยังไม่ได้อ่านหนังสือเล่มดังกล่าว
ผู้สื่อข่าวถามว่า กลุ่มประเทศสหภาพยุโรปยอมรับรัฐบาลชุดนี้หรือไม่ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ยอมรับในระดับหนึ่ง ซึ่งการที่เอกอัครราชทูตของออสเตรียมาพบก็ได้เตรียมการที่จะมีการหารือร่วมกันต่อกรณีของความสัมพันธ์ระหว่างอาเซียนกับอียู ซึ่งคงจะเพิ่มระดับความสัมพันธ์มากขึ้นไปอีก
ผู้สื่อข่าวถามว่า หลังจากนี้ถ้า พ.ท.ต.ทักษิณ ฯ ให้สัมภาษณ์ในลักษณะทำนองนี้อีก จะให้ความใส่ใจมากน้อยแค่ไหน นายกรัฐมนตรี คิดว่าทุก ๆ ประเทศเข้าใจเราอยู่แล้ว สิ่งที่เราควรทำคือการเดินไปตามครรลองในสิ่งที่เราได้พูดไว้ และสิ่งที่เราพยายามจะกลับไปสู่ระบอบประชาธิปไตยนั่นเอง
ผู้สื่อข่าวถามถึงกรณีที่ พ.ต.ท.ทักษิณฯ ระบุว่า หากมีการรังแกครอบครัวจะท่องโคลงศรีปราชญ์ที่ว่า ดาบนี้คืนสนอง นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า เราไม่ได้ไปรังแก ทุกอย่างเป็นไปตามครรลองของตัวบทกฎหมาย ตามกระบวนการยุติธรรม ซึ่งรัฐบาลได้ยืนยันตั้งแต่ต้นว่าเรื่องนี้เป็นหน้าที่ของกระบวนการยุติธรรม
--กลุ่มยุทธศาสตร์และแผนการประชาสัมพันธ์ สำนักโฆษก--
วันนี้ เวลา 16.50 น. ที่ทำเนียบรัฐบาล พลเอก สุรยุทธ์ จุลานนท์ นายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงบทสัมภาษณ์ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ในหนังสือ “ทักษิณ Where are you ?” ตอนหนึ่งที่ระบุว่าประเทศกลุ่มสหภาพยุโรป (อียู) ไม่ยอมรับรัฐบาล พลเอก สุรยุทธ์ จุลานนท์ นายกรัฐมนตรี ว่า อยู่ที่มุมมองของแต่ละคนว่าจะมองในแง่ไหน ในส่วนของรัฐบาลนั้นได้ทำหน้าที่ของรัฐบาลอย่างดีที่สุด ที่จะทำความเข้าใจกับมิตรประเทศ และได้มีโอกาสพบกับเอกอัครราชทูตของประเทศออสเตรีย ซึ่งทำหน้าที่เป็นผู้แทนของสหภาพยุโรป ก็ได้เข้ามาพูดกับตนเองว่า ได้ติดตามการพัฒนาการทางการเมืองของประเทศไทย และเห็นว่ารัฐบาลได้พยายามอย่างที่สุดแล้วที่จะให้เป็นไปตามขั้นตอนและห้วงเวลา เป็นสิ่งที่เอกอัครราชทูตมีความพอใจเป็นอย่างยิ่ง ก็ขอให้ทุกคนได้ช่วยกันไปสู่การเลือกตั้ง และมีรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้งเพื่อจะได้กลับไปสู่ครรลองของประชาธิปไตย
ผู้สื่อข่าวถามว่า มีการอ้างว่ามีรัฐมนตรีบางคนเดินทางไปพบรัฐมนตรีในกลุ่มอียู แต่ถูกปฏิเสธ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า คิดว่าไม่ได้เป็นเรื่องที่เป็นสาระสำคัญ สาระสำคัญอยู่ที่เรามีเจตนารมณ์ที่จะขับเคลื่อนไปสู่ครรลองประชาธิปไตย และทำตามที่พูด นั่นคือสิ่งที่ทุก ๆ ประเทศทั่วโลกติดตามดูอยู่ อย่างไรก็ตาม ยังไม่ได้อ่านหนังสือเล่มดังกล่าว
ผู้สื่อข่าวถามว่า กลุ่มประเทศสหภาพยุโรปยอมรับรัฐบาลชุดนี้หรือไม่ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ยอมรับในระดับหนึ่ง ซึ่งการที่เอกอัครราชทูตของออสเตรียมาพบก็ได้เตรียมการที่จะมีการหารือร่วมกันต่อกรณีของความสัมพันธ์ระหว่างอาเซียนกับอียู ซึ่งคงจะเพิ่มระดับความสัมพันธ์มากขึ้นไปอีก
ผู้สื่อข่าวถามว่า หลังจากนี้ถ้า พ.ท.ต.ทักษิณ ฯ ให้สัมภาษณ์ในลักษณะทำนองนี้อีก จะให้ความใส่ใจมากน้อยแค่ไหน นายกรัฐมนตรี คิดว่าทุก ๆ ประเทศเข้าใจเราอยู่แล้ว สิ่งที่เราควรทำคือการเดินไปตามครรลองในสิ่งที่เราได้พูดไว้ และสิ่งที่เราพยายามจะกลับไปสู่ระบอบประชาธิปไตยนั่นเอง
ผู้สื่อข่าวถามถึงกรณีที่ พ.ต.ท.ทักษิณฯ ระบุว่า หากมีการรังแกครอบครัวจะท่องโคลงศรีปราชญ์ที่ว่า ดาบนี้คืนสนอง นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า เราไม่ได้ไปรังแก ทุกอย่างเป็นไปตามครรลองของตัวบทกฎหมาย ตามกระบวนการยุติธรรม ซึ่งรัฐบาลได้ยืนยันตั้งแต่ต้นว่าเรื่องนี้เป็นหน้าที่ของกระบวนการยุติธรรม
--กลุ่มยุทธศาสตร์และแผนการประชาสัมพันธ์ สำนักโฆษก--