แท็ก
กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์
สุรยุทธ์ จุลานนท์
กระทรวงมหาดไทย
ทำเนียบรัฐบาล
นายกรัฐมนตรี
ตึกไทยคู่ฟ้า
วันนี้ เวลา 15.00 น. ณ ห้องสีเขียว ตึกไทยคู่ฟ้า ทำเนียบรัฐบาล พลเอก สุรยุทธ์ จุลานนท์ นายกรัฐมนตรี เป็นประธานการประชุมแก้ไขปัญหากลุ่มผู้ร่วมพัฒนาชาติไทย โดยมี พลตำรวจโท ธีรวุฒิ บุตรศรีภูมิ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย นายพลเดช ปิ่นประทีป รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ พลเอก พงษ์เทพ เทศประทีป เลขาธิการนายกรัฐมนตรี ร้อยเอก ยงยุทธ มัยลาภ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี นายอำพน กิตติอำพน เลขาธิการคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ นายไสว แสงชาติ ประธานกลุ่มผู้ร่วมพัฒนาชาติไทยและผู้แทนกลุ่มผู้ร่วมพัฒนาชาติไทย รวม 14 คน เข้าร่วมประชุม
ภายหลังการประชุม โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรีได้แถลงผลการประชุมสรุปสาระสำคัญว่า สืบเนื่องมาจากที่ได้มีการให้ความช่วยเหลือกลุ่มผู้ร่วมพัฒนาชาติไทย ตามที่ได้มีคำสั่งที่ 66 / 2523 ซึ่งแนวร่วมในครั้งนั้นได้มอบตัวกับทางราชการ เป็นกลุ่มผู้ร่วมพัฒนาชาติไทย โดยนับตั้งแต่นั้นมาจนถึงปี 2545 ได้มีการรวบรวมข้อมูลของสมาชิกกลุ่มผู้ร่วมพัฒนาชาติไทยในพื้นที่ต่าง ๆ และได้มีการให้ความช่วยเหลือไปแล้วโดยมติคณะรัฐมนตรีในรัฐบาลที่ผ่าน ๆ มา ซึ่งรัฐบาลปัจจุบันได้เข้ามาสานต่อในการดำเนินการตามมติคณะรัฐมนตรีเดิม เพื่อให้ความช่วยเหลือแก่กลุ่มผู้ร่วมพัฒนาชาติไทย แต่ทั้งนี้ กลุ่มผู้ร่วมพัฒนาชาติไทยได้รวบรวมข้อมูลพบว่า มีกลุ่มผู้ร่วมพัฒนาอีกส่วนหนึ่งที่ไม่ได้รับความช่วยเหลือ จึงได้มาพบนายกรัฐมนตรีเพื่อขอหารือในการขอความช่วยเหลือแก่กลุ่มดังกล่าว โอกาสนี้นายกรัฐมนตรีได้ชี้แจงว่าการให้ ความช่วยเหลือนี้เป็นการดำเนินการตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อ 5 ปีที่ผ่านมา อันเป็นไปตามข้อตกลงและเป็นไปตามการรวบรวมข้อมูลที่มีการตรวจสอบมา ซึ่งเวลาก็ได้ผ่านมาค่อนข้างนานแล้ว การที่จะย้อนกลับไปทบทวนใหม่คงจะเป็นเรื่องที่ค่อนข้างลำบาก ฉะนั้นสิ่งที่จะต้องดำเนินการต่อจากนี้ไปคือการหาเดินหน้าให้การสนับสนุน ช่วยเหลือกลุ่มผู้ร่วมพัฒนาชาติไทย ซึ่งนายกรัฐมนตรีได้เสนอให้มีการจัดตั้งคณะกรรมการประสานงานขึ้น ระหว่างกลุ่มผู้ร่วมพัฒนาชาติไทย กระทรวงมหาดไทย กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ และกองทัพภาคที่ 2 โดยกองทัพภาคที่ 2 จะอำนวยความสะดวกในการประสานงานให้ ในการที่จะร่วมกันแก้ไขให้กลุ่มผู้ร่วมพัฒนาชาติไทย เน้นเสริมสร้างความเข้มแข็งให้แก่ชุมชนของกลุ่มฯ จะเป็นการร่วมคิดร่วมทำในลักษณะชุมชน ไม่ได้เน้นไปที่ตัวบุคคล รวมทั้งให้ประชาชนเข้ามามีส่วนร่วมในการแก้ไขปัญหาให้มากที่สุด โดยยึดหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง
โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรีกล่าวด้วยว่า พลตำรวจโท ธีรวุฒิ บุตรศรีภูมิ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย ได้กล่าวถึงโครงการอยู่ดีมีสุขที่ได้จัดลงไปในระดับหมู่บ้าน ซึ่งชุมชนสามารถทำโครงการด้วยตนเองได้ โดยขณะนี้มีงบประมาณในส่วนนี้ลงไปแล้ว 5,000 ล้านบาท และจะเตรียมเพิ่มอีก 2,000 ล้านบาท ขณะที่นายพลเดช ปิ่นประทีป รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ได้ชี้แจงว่าในส่วนของงบประมาณที่ใช้เพื่อชุมชนอาจจะเป็นงบประมาณในส่วนของงบประมาณโครงการอยู่ดีมีสุขซึ่งเป็นงบประมาณของจังหวัด ส่วนงบประมาณของกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ จะพิจารณาสนับสนุนในส่วนที่สามารถเข้ามาสนับสนุนในเชิงเครือข่าย
นอกจากนี้ทางกองทัพภาคที่ 2 ได้แจ้งต่อที่ประชุมว่า มีผู้ร่วมพัฒนาชาติไทยจำนวนทั้งหมด 2,412 คนในจังหวัดต่าง ๆ และได้มีการทดลองทำโครงการไปแล้วในจังหวัดต่าง ๆ เช่นที่จังหวัดขอนแก่น ซึ่งทางกระทรวงมหาดไทยและกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ได้เข้ามาจัดโครงการให้ความช่วยเหลือ เช่น การจัดซื้อโค การเลี้ยงไก่ เพื่อสร้างรายได้ รวมทั้งเตรียมสร้างกระบวนการสร้างชุมชนเข้มแข็ง ซึ่งทางกองทัพภาคที่ 2 จะประสานทุกกลุ่ม ทุกอำเภอ เพื่อเตรียมแผนดำเนินการให้ความช่วยเหลือต่อไป
“นายกรัฐมนตรีกล่าวว่าในช่วงนี้อยากจะให้กลุ่มผู้ร่วมพัฒนาชาติไทย และคณะกรรมการประสานงานที่จะจัดตั้งขึ้นมานี้ได้เตรียมตัวในช่วงเวลาที่เหลืออยู่ของปีงบประมาณ 2550 เพื่อที่ว่าเมื่องบประมาณปี 2551 เริ่มต้น จะได้ดำเนินการโครงการตามที่กลุ่มพัฒนาชาติไทยในกลุ่มพื้นที่ต่าง ๆ จะดำเนินการขึ้น” โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรีกล่าว
--กลุ่มยุทธศาสตร์และแผนการประชาสัมพันธ์ สำนักโฆษก--
ภายหลังการประชุม โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรีได้แถลงผลการประชุมสรุปสาระสำคัญว่า สืบเนื่องมาจากที่ได้มีการให้ความช่วยเหลือกลุ่มผู้ร่วมพัฒนาชาติไทย ตามที่ได้มีคำสั่งที่ 66 / 2523 ซึ่งแนวร่วมในครั้งนั้นได้มอบตัวกับทางราชการ เป็นกลุ่มผู้ร่วมพัฒนาชาติไทย โดยนับตั้งแต่นั้นมาจนถึงปี 2545 ได้มีการรวบรวมข้อมูลของสมาชิกกลุ่มผู้ร่วมพัฒนาชาติไทยในพื้นที่ต่าง ๆ และได้มีการให้ความช่วยเหลือไปแล้วโดยมติคณะรัฐมนตรีในรัฐบาลที่ผ่าน ๆ มา ซึ่งรัฐบาลปัจจุบันได้เข้ามาสานต่อในการดำเนินการตามมติคณะรัฐมนตรีเดิม เพื่อให้ความช่วยเหลือแก่กลุ่มผู้ร่วมพัฒนาชาติไทย แต่ทั้งนี้ กลุ่มผู้ร่วมพัฒนาชาติไทยได้รวบรวมข้อมูลพบว่า มีกลุ่มผู้ร่วมพัฒนาอีกส่วนหนึ่งที่ไม่ได้รับความช่วยเหลือ จึงได้มาพบนายกรัฐมนตรีเพื่อขอหารือในการขอความช่วยเหลือแก่กลุ่มดังกล่าว โอกาสนี้นายกรัฐมนตรีได้ชี้แจงว่าการให้ ความช่วยเหลือนี้เป็นการดำเนินการตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อ 5 ปีที่ผ่านมา อันเป็นไปตามข้อตกลงและเป็นไปตามการรวบรวมข้อมูลที่มีการตรวจสอบมา ซึ่งเวลาก็ได้ผ่านมาค่อนข้างนานแล้ว การที่จะย้อนกลับไปทบทวนใหม่คงจะเป็นเรื่องที่ค่อนข้างลำบาก ฉะนั้นสิ่งที่จะต้องดำเนินการต่อจากนี้ไปคือการหาเดินหน้าให้การสนับสนุน ช่วยเหลือกลุ่มผู้ร่วมพัฒนาชาติไทย ซึ่งนายกรัฐมนตรีได้เสนอให้มีการจัดตั้งคณะกรรมการประสานงานขึ้น ระหว่างกลุ่มผู้ร่วมพัฒนาชาติไทย กระทรวงมหาดไทย กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ และกองทัพภาคที่ 2 โดยกองทัพภาคที่ 2 จะอำนวยความสะดวกในการประสานงานให้ ในการที่จะร่วมกันแก้ไขให้กลุ่มผู้ร่วมพัฒนาชาติไทย เน้นเสริมสร้างความเข้มแข็งให้แก่ชุมชนของกลุ่มฯ จะเป็นการร่วมคิดร่วมทำในลักษณะชุมชน ไม่ได้เน้นไปที่ตัวบุคคล รวมทั้งให้ประชาชนเข้ามามีส่วนร่วมในการแก้ไขปัญหาให้มากที่สุด โดยยึดหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง
โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรีกล่าวด้วยว่า พลตำรวจโท ธีรวุฒิ บุตรศรีภูมิ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย ได้กล่าวถึงโครงการอยู่ดีมีสุขที่ได้จัดลงไปในระดับหมู่บ้าน ซึ่งชุมชนสามารถทำโครงการด้วยตนเองได้ โดยขณะนี้มีงบประมาณในส่วนนี้ลงไปแล้ว 5,000 ล้านบาท และจะเตรียมเพิ่มอีก 2,000 ล้านบาท ขณะที่นายพลเดช ปิ่นประทีป รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ได้ชี้แจงว่าในส่วนของงบประมาณที่ใช้เพื่อชุมชนอาจจะเป็นงบประมาณในส่วนของงบประมาณโครงการอยู่ดีมีสุขซึ่งเป็นงบประมาณของจังหวัด ส่วนงบประมาณของกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ จะพิจารณาสนับสนุนในส่วนที่สามารถเข้ามาสนับสนุนในเชิงเครือข่าย
นอกจากนี้ทางกองทัพภาคที่ 2 ได้แจ้งต่อที่ประชุมว่า มีผู้ร่วมพัฒนาชาติไทยจำนวนทั้งหมด 2,412 คนในจังหวัดต่าง ๆ และได้มีการทดลองทำโครงการไปแล้วในจังหวัดต่าง ๆ เช่นที่จังหวัดขอนแก่น ซึ่งทางกระทรวงมหาดไทยและกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ได้เข้ามาจัดโครงการให้ความช่วยเหลือ เช่น การจัดซื้อโค การเลี้ยงไก่ เพื่อสร้างรายได้ รวมทั้งเตรียมสร้างกระบวนการสร้างชุมชนเข้มแข็ง ซึ่งทางกองทัพภาคที่ 2 จะประสานทุกกลุ่ม ทุกอำเภอ เพื่อเตรียมแผนดำเนินการให้ความช่วยเหลือต่อไป
“นายกรัฐมนตรีกล่าวว่าในช่วงนี้อยากจะให้กลุ่มผู้ร่วมพัฒนาชาติไทย และคณะกรรมการประสานงานที่จะจัดตั้งขึ้นมานี้ได้เตรียมตัวในช่วงเวลาที่เหลืออยู่ของปีงบประมาณ 2550 เพื่อที่ว่าเมื่องบประมาณปี 2551 เริ่มต้น จะได้ดำเนินการโครงการตามที่กลุ่มพัฒนาชาติไทยในกลุ่มพื้นที่ต่าง ๆ จะดำเนินการขึ้น” โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรีกล่าว
--กลุ่มยุทธศาสตร์และแผนการประชาสัมพันธ์ สำนักโฆษก--