พลเอก สุรยุทธ์ จุลานนท์ นายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่นายแพทย์ตุลย์ สิทธิสมวงศ์ อาจารย์จากคณะแพทย์ศาสตร์จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ได้ยื่นหนังสือเรียกร้องให้นายกรัฐมนตรีลาออกจากตำแหน่งว่า พร้อมรับฟังความคิดเห็นจากทุกภาคส่วนและจะรับไว้พิจารณา ส่วนการตัดสินใจนั้นเป็นเรื่องของตนเอง
ผู้สื่อข่าวถามว่า รู้สึกอย่างไรที่สมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) บางคนซึ่งถือว่าเกิดมาพร้อมๆ กับรัฐบาลกลับเรียกร้องให้นายกรัฐมนตรีลาออก นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ทุกคนมีความคิดเป็นของตนเอง และตนเองก็เคารพในความคิดของคนอื่น และพร้อมที่จะรับฟัง แต่การที่จะพิจารณาดำเนินการในส่วนใดนั้นก็ต้องดูปัจจัยอื่น ๆ ให้รอบคอบก่อนที่จะตัดสินใจ
ผู้สื่อข่าวถามว่า ดูเหมือนขณะนี้มีความพยายามสร้างสถานการณ์ทำให้เกิดความรุนแรงจนควบคุมสถานการณ์ไม่ได้ สุดท้ายนายกรัฐมนตรีต้องลาออก นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า เป็นเรื่องที่ได้พูดไว้แล้วว่าถ้าหากเป็นปัญหาในด้านความมั่นคงจนถึงขั้นที่เกิดความไม่สงบเรียบร้อย ก็คิดว่ารัฐบาลต้องแก้ปัญหาด้วยการเมือง เพราะรัฐบาลไม่สามารถที่จะทำหน้าที่บริหารประเทศต่อไปได้
ต่อข้อถามว่า จนถึงวันนี้ความสัมพันธ์ระหว่างนายกรัฐมนตรีกับพลเอก สนธิ บุญยรัตกลิน ประธานคณะมนตรีความมั่นคงแห่งชาติ (คมช.) เป็นอย่างไรบ้าง เพราะมีข่าวความหวาดระแวงซึ่งกันและกัน นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า คงไม่สามารถให้ความมั่นใจอะไรได้มากไปกว่าสิ่งที่ปรากฏอยู่ คือ ประธาน คมช. มาพบปะกับตนเองและ ครม.ในทุกสัปดาห์ มีอะไรก็ปรึกษาหารือกัน หรือมีสิ่งใดที่จะขอร้อง ขอความร่วมมือกับประธาน คมช. ก็โทรศัพท์ไปหา หรือมีสิ่งใดที่จำเป็นต้องอธิบายในเรื่องการบริหารงานของฝ่ายบริหาร ก็ได้ชี้แจงไป เพราะงานทั้งสองส่วนนี้ต้องไปด้วยกัน เราคงไม่สามารถแยกออกจากกันได้ อย่างที่ทุกคนได้ทราบกันดีอยู่แล้วว่าเฉพาะอำนาจทางฝ่ายบริหาร และอำนาจของประธาน คมช. ก็มีความเกี่ยวโยงกันอยู่แล้ว
ผู้สื่อข่าวถามว่า จะสามารถช่วยกันประคับประคองไปจนถึงการเลือกตั้งได้หรือไม่ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ก็พยายาม แต่ไม่แน่ใจว่าจะมีความสามารถอันนั้นหรือไม่ แต่ตนเองมีความตั้งใจและมีความพยายามที่จะประคับประคองการแก้ไขปัญหาบ้านเมืองของเราให้ไปสู่เป้าหมายที่ทุกคนอยากเห็น และทุกคนหวังส่วนมั่นใจหรือไม่ว่าจะจับมือกับ คมช. ไปจนกว่าจะมีรัฐบาลใหม่ได้หรือไม่ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า มั่นใจ
--กลุ่มยุทธศาสตร์และแผนการประชาสัมพันธ์ สำนักโฆษก--
ผู้สื่อข่าวถามว่า รู้สึกอย่างไรที่สมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) บางคนซึ่งถือว่าเกิดมาพร้อมๆ กับรัฐบาลกลับเรียกร้องให้นายกรัฐมนตรีลาออก นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ทุกคนมีความคิดเป็นของตนเอง และตนเองก็เคารพในความคิดของคนอื่น และพร้อมที่จะรับฟัง แต่การที่จะพิจารณาดำเนินการในส่วนใดนั้นก็ต้องดูปัจจัยอื่น ๆ ให้รอบคอบก่อนที่จะตัดสินใจ
ผู้สื่อข่าวถามว่า ดูเหมือนขณะนี้มีความพยายามสร้างสถานการณ์ทำให้เกิดความรุนแรงจนควบคุมสถานการณ์ไม่ได้ สุดท้ายนายกรัฐมนตรีต้องลาออก นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า เป็นเรื่องที่ได้พูดไว้แล้วว่าถ้าหากเป็นปัญหาในด้านความมั่นคงจนถึงขั้นที่เกิดความไม่สงบเรียบร้อย ก็คิดว่ารัฐบาลต้องแก้ปัญหาด้วยการเมือง เพราะรัฐบาลไม่สามารถที่จะทำหน้าที่บริหารประเทศต่อไปได้
ต่อข้อถามว่า จนถึงวันนี้ความสัมพันธ์ระหว่างนายกรัฐมนตรีกับพลเอก สนธิ บุญยรัตกลิน ประธานคณะมนตรีความมั่นคงแห่งชาติ (คมช.) เป็นอย่างไรบ้าง เพราะมีข่าวความหวาดระแวงซึ่งกันและกัน นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า คงไม่สามารถให้ความมั่นใจอะไรได้มากไปกว่าสิ่งที่ปรากฏอยู่ คือ ประธาน คมช. มาพบปะกับตนเองและ ครม.ในทุกสัปดาห์ มีอะไรก็ปรึกษาหารือกัน หรือมีสิ่งใดที่จะขอร้อง ขอความร่วมมือกับประธาน คมช. ก็โทรศัพท์ไปหา หรือมีสิ่งใดที่จำเป็นต้องอธิบายในเรื่องการบริหารงานของฝ่ายบริหาร ก็ได้ชี้แจงไป เพราะงานทั้งสองส่วนนี้ต้องไปด้วยกัน เราคงไม่สามารถแยกออกจากกันได้ อย่างที่ทุกคนได้ทราบกันดีอยู่แล้วว่าเฉพาะอำนาจทางฝ่ายบริหาร และอำนาจของประธาน คมช. ก็มีความเกี่ยวโยงกันอยู่แล้ว
ผู้สื่อข่าวถามว่า จะสามารถช่วยกันประคับประคองไปจนถึงการเลือกตั้งได้หรือไม่ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ก็พยายาม แต่ไม่แน่ใจว่าจะมีความสามารถอันนั้นหรือไม่ แต่ตนเองมีความตั้งใจและมีความพยายามที่จะประคับประคองการแก้ไขปัญหาบ้านเมืองของเราให้ไปสู่เป้าหมายที่ทุกคนอยากเห็น และทุกคนหวังส่วนมั่นใจหรือไม่ว่าจะจับมือกับ คมช. ไปจนกว่าจะมีรัฐบาลใหม่ได้หรือไม่ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า มั่นใจ
--กลุ่มยุทธศาสตร์และแผนการประชาสัมพันธ์ สำนักโฆษก--