แท็ก
คณะมนตรีความมั่นคงแห่งชาติ
สุรยุทธ์ จุลานนท์
สนธิ บุญยรัตกลิน
ทำเนียบรัฐบาล
นายกรัฐมนตรี
ภาคใต้
วันนี้ เวลา 13.30 น. ที่ทำเนียบรัฐบาล พลเอก สุรยุทธ์ จุลานนท์ นายกรัฐมนตรีให้สัมภาษณ์ถึงเหตุการณ์ความไม่สงบในภาคใต้เมื่อคืนนี้ ที่เจ้าหน้าที่รัฐถูกโจมตีค่อนข้างมากและมีปัญหาในหลาย ๆ จุด ว่า ได้หารือกับพลเอก สนธิ บุญยรัตกลิน ผู้บัญชาการทหารบกและประธานคณะมนตรีความมั่นคงแห่งชาติ (คมช.) แล้ว ซึ่ง ประธานคมช.ได้รับที่จะลงไปดูในรายละเอียดว่า จะมีการแก้ไขได้อย่างไร
ผู้สื่อข่าวถามว่า ปัญหาที่เกิดขึ้นในขณะนี้มีเหตุจากอะไร ทำไมกลุ่มผู้ก่อความไม่สงบยังมีพลัง มีความสามารถในการก่อเหตุได้ทำให้ฝ่ายรัฐสูญเสียค่อนข้างมาก นายกรัฐมนตรีกล่าวว่า ในพื้นที่ที่เขามีอิทธิพล เขาก็ยังสามารถที่จะดำเนินการได้ จะเห็นได้ว่ากรณีที่มีการจับผู้ต้องสงสัยได้กรณีวางระเบิดที่หาดใหญ่ ซึ่งเป็นความคืบหน้าเรื่องหนึ่ง คิดว่าในการทำงานต้องอาศัยความอดทน และต้องค่อย ๆ ทำเพราะเราจะต้องยืนอยู่บนพื้นฐานของกฎหมาย ยืนอยู่บนพื้นฐานของหลักนิติธรรม จะไม่ทำอะไรที่ทำให้เกิดปัญหา แล้วจะเป็นเรื่องที่เกิดความไม่เป็นธรรมขึ้นมาอีก
ต่อข้อถามว่า ได้มีการประเมินหรือไม่ว่ากลุ่มนักศึกษาที่อ้างตัวว่าเป็นเครือข่ายนักศึกษาที่ปัตตานี ออกมาระดมมวลชนให้เคลื่อนไหว มีอะไรที่หนุนหลังอยู่หรือไม่ นายกรัฐมนตรีกล่าวว่า ทางประธานคมช. ได้ติดตามอยู่ ในส่วนนี้ได้ประสานกับผู้นำทางศาสนา ซึ่งผู้นำทางศาสนาได้บอกให้ทราบว่ามีการประสานกันแล้ว ว่าจะดำเนินการเจรจากันต่อไปอย่างไร
ผู้สื่อข่าวถามว่า จะลดความสูญเสียตรงนี้ได้หรือไม่อย่างไร นายกรัฐมนตรีกล่าวว่า นั่นคือความมุ่งหมายที่รัฐบาล และฝ่ายความมั่นคงได้ตั้งไว้ว่าจะพยายามลดความรุนแรงในพื้นที่ทางภาคใต้ลง มีเวลาที่จะต้องทำงานต่อไปข้างหน้าอยู่อีกนิดหน่อย
ต่อข้อถามว่า ปัญหาเรื่องประชาชนที่เข้ามาเป็นแนวร่วมกับรัฐ ดูเหมือนว่าเรายังดึงเขามาเป็นมวลชนฝ่ายเราไม่ได้ทั้งหมด นายกรัฐมนตรีกล่าวว่า คงจะทำยังไม่ได้ทั้งหมด แต่ในพื้นที่ส่วนใหญ่แล้วมีความคืบหน้าไปได้ด้วยดี จากห้วงระยะเวลาตั้งแต่เดือนเมษายนเป็นต้นมา ได้รับความร่วมมือมากขึ้น มีบางพื้นที่ที่ผู้ก่อความไม่สงบมีอิทธิพล ยังสามารถก่อเหตุร้ายทำให้เจ้าหน้าที่สูญเสียชีวิตได้อีก
ผู้สื่อข่าวถามว่า เรายังสามารถควบคุมพื้นที่ไม่ให้ขยายมากไปกว่านี้ได้หรือไม่ นายก รัฐมนตรีกล่าวว่า คิดว่าเราคุมได้ ต่อกรณีของหาดใหญ่เป็นการกระทำในลักษณะที่เป็นพื้นที่ ซึ่งเขาไม่สามารถจะเข้าไปทำให้เกิดปัญหาในจุดที่มีความสำคัญได้แล้ว ได้มีการระมัดระวังดูแลกันในส่วนเหล่านี้อยู่ ไม่อยากที่จะลงไปในรายละเอียดมากนัก แต่อย่างที่เห็นคือเขาพยายามที่จะทำให้เกิดปัญหา แต่ว่าเราหาทางที่จะป้องกันแล้วไม่ให้เกิดปัญหา
ต่อข้อถามว่า ได้มีการประเมินหรือไม่ว่าก่อนหน้าที่ผู้ก่อเหตุ จะไม่ก่อเหตุกับพวกเดียวกันเอง แต่ตอนนี้มีการตีวงเข้ามาทำร้ายมุสลิมด้วยกันเอง นายกรัฐมนตรีกล่าวว่า คิดว่าสื่อมวลชนคงสามารถจะวิเคราะห์ได้ว่า ใครที่มาร่วมมือกับฝ่ายรัฐบาลก็จะเป็นปัญหา
“ นั่นก็เป็นจุด ๆ หนึ่งที่เราได้บอกพี่น้องประชาชนว่า เราคงปล่อยให้การก่อความไม่สงบเกิดขึ้นอย่างนี้ไม่ได้ ทุกคนจะต้องร่วมมือกัน ทุกคนจะต้องช่วยกันที่จะทำให้การก่อความไม่สงบ ซึ่งไม่ได้คำนึงถึงเรื่องศาสนา ไม่ได้คำนึงถึงเรื่องเชื้อชาติอะไร และทำให้เกิดความวุ่นวาย เกิดความสูญเสียขึ้นมาในบ้านเมืองของเรา ” นายกรัฐมนตรีกล่าว
--กลุ่มยุทธศาสตร์และแผนการประชาสัมพันธ์ สำนักโฆษก--
ผู้สื่อข่าวถามว่า ปัญหาที่เกิดขึ้นในขณะนี้มีเหตุจากอะไร ทำไมกลุ่มผู้ก่อความไม่สงบยังมีพลัง มีความสามารถในการก่อเหตุได้ทำให้ฝ่ายรัฐสูญเสียค่อนข้างมาก นายกรัฐมนตรีกล่าวว่า ในพื้นที่ที่เขามีอิทธิพล เขาก็ยังสามารถที่จะดำเนินการได้ จะเห็นได้ว่ากรณีที่มีการจับผู้ต้องสงสัยได้กรณีวางระเบิดที่หาดใหญ่ ซึ่งเป็นความคืบหน้าเรื่องหนึ่ง คิดว่าในการทำงานต้องอาศัยความอดทน และต้องค่อย ๆ ทำเพราะเราจะต้องยืนอยู่บนพื้นฐานของกฎหมาย ยืนอยู่บนพื้นฐานของหลักนิติธรรม จะไม่ทำอะไรที่ทำให้เกิดปัญหา แล้วจะเป็นเรื่องที่เกิดความไม่เป็นธรรมขึ้นมาอีก
ต่อข้อถามว่า ได้มีการประเมินหรือไม่ว่ากลุ่มนักศึกษาที่อ้างตัวว่าเป็นเครือข่ายนักศึกษาที่ปัตตานี ออกมาระดมมวลชนให้เคลื่อนไหว มีอะไรที่หนุนหลังอยู่หรือไม่ นายกรัฐมนตรีกล่าวว่า ทางประธานคมช. ได้ติดตามอยู่ ในส่วนนี้ได้ประสานกับผู้นำทางศาสนา ซึ่งผู้นำทางศาสนาได้บอกให้ทราบว่ามีการประสานกันแล้ว ว่าจะดำเนินการเจรจากันต่อไปอย่างไร
ผู้สื่อข่าวถามว่า จะลดความสูญเสียตรงนี้ได้หรือไม่อย่างไร นายกรัฐมนตรีกล่าวว่า นั่นคือความมุ่งหมายที่รัฐบาล และฝ่ายความมั่นคงได้ตั้งไว้ว่าจะพยายามลดความรุนแรงในพื้นที่ทางภาคใต้ลง มีเวลาที่จะต้องทำงานต่อไปข้างหน้าอยู่อีกนิดหน่อย
ต่อข้อถามว่า ปัญหาเรื่องประชาชนที่เข้ามาเป็นแนวร่วมกับรัฐ ดูเหมือนว่าเรายังดึงเขามาเป็นมวลชนฝ่ายเราไม่ได้ทั้งหมด นายกรัฐมนตรีกล่าวว่า คงจะทำยังไม่ได้ทั้งหมด แต่ในพื้นที่ส่วนใหญ่แล้วมีความคืบหน้าไปได้ด้วยดี จากห้วงระยะเวลาตั้งแต่เดือนเมษายนเป็นต้นมา ได้รับความร่วมมือมากขึ้น มีบางพื้นที่ที่ผู้ก่อความไม่สงบมีอิทธิพล ยังสามารถก่อเหตุร้ายทำให้เจ้าหน้าที่สูญเสียชีวิตได้อีก
ผู้สื่อข่าวถามว่า เรายังสามารถควบคุมพื้นที่ไม่ให้ขยายมากไปกว่านี้ได้หรือไม่ นายก รัฐมนตรีกล่าวว่า คิดว่าเราคุมได้ ต่อกรณีของหาดใหญ่เป็นการกระทำในลักษณะที่เป็นพื้นที่ ซึ่งเขาไม่สามารถจะเข้าไปทำให้เกิดปัญหาในจุดที่มีความสำคัญได้แล้ว ได้มีการระมัดระวังดูแลกันในส่วนเหล่านี้อยู่ ไม่อยากที่จะลงไปในรายละเอียดมากนัก แต่อย่างที่เห็นคือเขาพยายามที่จะทำให้เกิดปัญหา แต่ว่าเราหาทางที่จะป้องกันแล้วไม่ให้เกิดปัญหา
ต่อข้อถามว่า ได้มีการประเมินหรือไม่ว่าก่อนหน้าที่ผู้ก่อเหตุ จะไม่ก่อเหตุกับพวกเดียวกันเอง แต่ตอนนี้มีการตีวงเข้ามาทำร้ายมุสลิมด้วยกันเอง นายกรัฐมนตรีกล่าวว่า คิดว่าสื่อมวลชนคงสามารถจะวิเคราะห์ได้ว่า ใครที่มาร่วมมือกับฝ่ายรัฐบาลก็จะเป็นปัญหา
“ นั่นก็เป็นจุด ๆ หนึ่งที่เราได้บอกพี่น้องประชาชนว่า เราคงปล่อยให้การก่อความไม่สงบเกิดขึ้นอย่างนี้ไม่ได้ ทุกคนจะต้องร่วมมือกัน ทุกคนจะต้องช่วยกันที่จะทำให้การก่อความไม่สงบ ซึ่งไม่ได้คำนึงถึงเรื่องศาสนา ไม่ได้คำนึงถึงเรื่องเชื้อชาติอะไร และทำให้เกิดความวุ่นวาย เกิดความสูญเสียขึ้นมาในบ้านเมืองของเรา ” นายกรัฐมนตรีกล่าว
--กลุ่มยุทธศาสตร์และแผนการประชาสัมพันธ์ สำนักโฆษก--