วันนี้ เวลา 12.00 น. ที่อาคารสำนักงานใหญ่ บริษัท ปตท.จำกัด (มหาชน)พลเอก สุรยุทธ์ จุลานนท์ นายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงความพยายามที่จะทำให้เกิดการเลือกตั้งโดยเร็วเพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้กับประเทศว่า คงเป็นเรื่องที่ถือได้ว่าเราจำเป็นต้องดูแล และจัดการในเรื่องของการเลือกตั้ง อย่างไรก็ตามคิดว่าวันเวลาที่ได้กำหนดไว้นั้น ก็เป็นแนวทางที่ได้มีการหารือกัน ซึ่งถือว่าเป็นเวลาที่เหมาะสม แต่ถ้าจะให้ดียิ่งขึ้น หมายความว่าเลื่อนวันเลือกตั้งให้ใกล้เข้ามาอีก ส่วนจะมีความเป็นไปได้มากน้อยแค่ไหนก็อยู่ที่ทุก ๆ คนว่าจะสร้างบรรยากาศอย่างไร คงไม่ได้อยู่ที่รัฐบาล เพียงแต่ว่าถ้าพวกเราสร้างบรรยากาศที่มุ่งไปสู่ระบอบการปกครองตามวิถีทางประชาธิปไตยเราก็น่าจะช่วยกันก้าวเดินไปสู่จุดนั้น
ต่อข้อถามว่า พลเอก บุญรอด สมทัศน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมระบุว่าหากยังมีการเคลื่อนไหวโดยเฉพาะในช่วงการตัดสินคดียุบพรรคการเมืองอาจจะเกิดเหตุการณ์เช่นเดียวกับ 19 กันยายนขึ้นมาอีก นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า มองในแง่ดี คิดว่าประชาชนส่วนใหญ่คงเข้าใจดีว่าเราควรจะไปทางไหนกัน บ้านเมืองคงไม่ใช่ของคนกลุ่มใดกลุ่มหนึ่ง แต่เป็นของคนส่วนใหญ่ทั้ง 65 ล้านคน ถ้าหากเรามาร่วมกันที่จะเดินไปข้างหน้าจับมือกัน โอกาสที่จะประสบความสำเร็จจะมีมาก ซึ่งคิดว่าคนไทยส่วนใหญ่ไม่อยากให้บ้านเมืองของเราตกอยู่ในสภาวะที่มีความยุ่งยาก ทุกคนอยากเห็นบ้านเมืองที่มีความสงบ มีความก้าวหน้า ก็คิดว่าเราสามารถร่วมมือกันทำได้
ต่อข้อถามว่า เหตุการณ์ที่มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ซึ่งมีกลุ่มคนวันเสาร์ไม่เอาเผด็จการไปชุมนุมขับไล่อาจารย์บางคน จะยิ่งทำให้บรรยากาศรุนแรงมากขึ้นหรือไม่ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า เป็นเพียงความเห็นของคนส่วนน้อย ซึ่งในสังคมก็ต้องมีเช่นนี้ แต่คนส่วนใหญ่จะต้องออกมาแสดงออกถึงความพยายามที่จะเดินไปในทิศทางที่ถูกต้องมากกว่าที่จะให้เป็นไปตามความเห็นของคนส่วนน้อย ทั้งนี้เราพร้อมที่จะรับฟังความเห็นของคนส่วนน้อย รวมทั้งเคารพในความเห็นของคนเหล่านั้น แต่ถ้าคนส่วนใหญ่มีความเห็นตรงกันว่าทางที่ดีที่สุดควรจะเป็นอย่างไร เราก็ควรจะต้องทำตาม
ต่อข้อถามว่า รัฐบาลจำเป็นต้องขอร้องกับคนกลุ่มน้อยเหล่านี้เพื่อทำให้บรรยากาศเกิดความสมานฉันท์ขึ้นหรือไม่ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า คงไม่ขอร้อง เพราะคิดว่าทุกคนมีวิจารณญาณในความคิดของตัวเองต่างก็เป็นผู้ใหญ่กันแล้ว ซึ่งส่วนนี้ถือเป็นส่วนสำคัญที่พวกเราต้องช่วยกันคิดและช่วยกันแก้ไขปัญหาของบ้านเมือง
--กลุ่มยุทธศาสตร์และแผนการประชาสัมพันธ์ สำนักโฆษก--
ต่อข้อถามว่า พลเอก บุญรอด สมทัศน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมระบุว่าหากยังมีการเคลื่อนไหวโดยเฉพาะในช่วงการตัดสินคดียุบพรรคการเมืองอาจจะเกิดเหตุการณ์เช่นเดียวกับ 19 กันยายนขึ้นมาอีก นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า มองในแง่ดี คิดว่าประชาชนส่วนใหญ่คงเข้าใจดีว่าเราควรจะไปทางไหนกัน บ้านเมืองคงไม่ใช่ของคนกลุ่มใดกลุ่มหนึ่ง แต่เป็นของคนส่วนใหญ่ทั้ง 65 ล้านคน ถ้าหากเรามาร่วมกันที่จะเดินไปข้างหน้าจับมือกัน โอกาสที่จะประสบความสำเร็จจะมีมาก ซึ่งคิดว่าคนไทยส่วนใหญ่ไม่อยากให้บ้านเมืองของเราตกอยู่ในสภาวะที่มีความยุ่งยาก ทุกคนอยากเห็นบ้านเมืองที่มีความสงบ มีความก้าวหน้า ก็คิดว่าเราสามารถร่วมมือกันทำได้
ต่อข้อถามว่า เหตุการณ์ที่มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ซึ่งมีกลุ่มคนวันเสาร์ไม่เอาเผด็จการไปชุมนุมขับไล่อาจารย์บางคน จะยิ่งทำให้บรรยากาศรุนแรงมากขึ้นหรือไม่ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า เป็นเพียงความเห็นของคนส่วนน้อย ซึ่งในสังคมก็ต้องมีเช่นนี้ แต่คนส่วนใหญ่จะต้องออกมาแสดงออกถึงความพยายามที่จะเดินไปในทิศทางที่ถูกต้องมากกว่าที่จะให้เป็นไปตามความเห็นของคนส่วนน้อย ทั้งนี้เราพร้อมที่จะรับฟังความเห็นของคนส่วนน้อย รวมทั้งเคารพในความเห็นของคนเหล่านั้น แต่ถ้าคนส่วนใหญ่มีความเห็นตรงกันว่าทางที่ดีที่สุดควรจะเป็นอย่างไร เราก็ควรจะต้องทำตาม
ต่อข้อถามว่า รัฐบาลจำเป็นต้องขอร้องกับคนกลุ่มน้อยเหล่านี้เพื่อทำให้บรรยากาศเกิดความสมานฉันท์ขึ้นหรือไม่ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า คงไม่ขอร้อง เพราะคิดว่าทุกคนมีวิจารณญาณในความคิดของตัวเองต่างก็เป็นผู้ใหญ่กันแล้ว ซึ่งส่วนนี้ถือเป็นส่วนสำคัญที่พวกเราต้องช่วยกันคิดและช่วยกันแก้ไขปัญหาของบ้านเมือง
--กลุ่มยุทธศาสตร์และแผนการประชาสัมพันธ์ สำนักโฆษก--