วันนี้ เวลา 10.00 น. ณ ตึกสันติไมตรี ทำเนียบรัฐบาล พลเอก สุรยุทธ์ จุลานนท์ นายกรัฐมนตรี เป็นประธานในพิธีมอบโล่ประกาศเกียรติคุณและเงินรางวัลแก่บุคคลและองค์กรที่มีผลงานยอดเยี่ยมและดีเด่นในการป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติด เนื่องในโอกาส “วันต่อต้านยาเสพติด” ประจำปี 2550 ซึ่ง สำนักงาน ป.ป.ส. ร่วมกับมูลนิธิป้องกันและปราบปรามยาเสพติด จัดขึ้น เพื่อยกย่อง เชิดชูเกียรติ และประกาศคุณงามความดีของบุคคลและองค์กร ที่ได้ร่วมมือปฏิบัติงานป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติด เพื่อประโยชน์สุขของสังคมและประเทศชาติ โดยมีผู้ได้รับรางวัลรวมจำนวน 143 ราย
นายกิตติ ลิ้มชัยกิจ เลขาธิการ ป.ป.ส. กล่าวรายงานว่า องค์การสหประชาชาติและประเทศไทยได้กำหนดให้วันที่ 26 มิถุนายน ของทุกปี เป็นวันต่อต้านยาเสพติด ซึ่งสำนักงาน ป.ป.ส. ร่วมกับมูลนิธิป้องกันและปราบปรามยาเสพติด ได้ดำเนินการประกาศเกียรติคุณบุคคลและองค์กรที่มีผลงานดีเด่นในการป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติดอย่างต่อเนื่อง มาตั้งแต่ปี พ.ศ. 2537 โดยในปี พ.ศ. 2550 มีบุคคลและองค์กรที่ได้รับโล่เกียรติคุณ ดังนี้ ระดับยอดเยี่ยม แบ่งเป็น ประเภทองค์กร 2 ราย และประเภทบุคคล 3 ราย ซึ่งมูลนิธิป้องกันและปราบปรามยาเสพติดได้มอบเงินรางวัลให้รางวัลละ 100,000 บาท ระดับดีเด่น แบ่งเป็น ประเภทองค์กร 71 ราย และประเภทบุคคล 38 ราย รวมจำนวน 114 ราย
นอกจากนี้ สำนักงาน ป.ป.ส. ได้กำหนดเป้าหมายการดำเนินงานในปี 2550 โดยเน้นที่กลุ่มเป้าหมายเยาวชนเป็นพิเศษ จึงได้คัดเลือกกลุ่มเยาวชนแกนนำที่มีผลงานดีเด่นในงานยาเสพติดเข้ารับโล่ประกาศเกียรติคุณ จำนวน 20 ราย และคัดเลือกเยาวชนและศิลปินที่สามารถเป็นตัวอย่างที่ดีในการนำเสนอแนวพระราชดำริจากพระราชดำรัส และพระบรมราโชวาทของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว มาประยุกต์ใช้กับการดำเนินชีวิต รวม 9 เรื่อง ในหัวข้อ “9 คำพ่อสอน” เพื่อให้ตนเอง ครอบครัว ชุมชน และประเทศชาติ พ้นจากภัยยาเสพติด เข้ารับใบประกาศเกียรติคุณรวมจำนวน 9 ราย
โอกาสนี้ นายกรัฐมนตรีกล่าวแสดงความยินดีที่ได้มีโอกาสมามอบโล่ประกาศเกียรติคุณแก่บุคคลและองค์กรที่มีผลงานยอดเยี่ยมและดีเด่นในการป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติดในวันนี้ เพราะรัฐบาลถือว่าการป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติดยังคงเป็นนโยบายที่สำคัญของรัฐบาล เพราะพิษภัยของยาเสพติดยังเป็นปัญหาสำคัญระดับโลกมาโดยตลอด เป็นภัยร้ายแรงของมวลมนุษยชาติที่ประเทศต่างๆ จำเป็นต้องช่วยกันลดการใช้ยาเสพติด และถ้าหากว่าเป็นไปได้ก็ขจัดให้หมดสิ้นไป
สำหรับประเทศไทย แม้ว่าจะได้ดำเนินการแก้ไขปัญหายาเสพติดมาอย่างต่อเนื่อง จนขณะนี้ระดับของปัญหาไม่ได้ส่งผลกระทบอย่างรุนแรงต่อการดำเนินชีวิตของคนไทยอีกต่อไป แต่ปัญหายังไม่หมดไปและอาจจะฟื้นกลับคืนมาได้อีกในรูปแบบต่างๆ ที่มีความหลากหลายและมีความสลับซับซ้อนมากยิ่งขึ้น ดังนั้น ทุกคน ทุกฝ่ายจึงต้องตระหนักถึงปัญหานี้อยู่ตลอดเวลา และต้องร่วมกันต่อสู้กับปัญหาอย่างต่อเนื่องและจริงจังต่อไป
นอกจากนี้ นายกรัฐมนตรีกล่าวแสดงยินดีเป็นอย่างยิ่งที่การดำเนินการแก้ไขปัญหายาเสพติดในประเทศไทย ได้รับความร่วมมือจากหน่วยงานต่างๆ อาทิ ภาครัฐ ภาคเอกชน ภาคประชาชน และมิตรประเทศ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ประชาชน ซึ่งถือเป็นพลังแผ่นดินอันทรงคุณค่าที่ทำให้การแก้ไขปัญหายาเสพติดของประเทศไทยสามารถบรรลุเป้าหมายได้อย่างมีประสิทธิภาพ อันจะทำให้การแก้ไขปัญหาบังเกิดความยั่งยืนสืบต่อไป
ทั้งนี้ รัฐบาลตระหนักถึงความสำคัญของบุคลากรที่ได้ทำงานด้วยความเสียสละ อุทิศตน เวลา และการทำงานด้วยความทุ่มเทให้แก่ส่วนรวมมาโดยตลอด ดังนั้นรางวัลที่ได้รับในวันนี้จึงเป็นการยกย่อง เชิดชูเกียรติคุณ และหวังเป็นอย่างยิ่งว่าจะเป็นขวัญกำลังใจให้ทุกท่านได้มุ่งมั่นปฏิบัติหน้าที่เพื่อประเทศชาติและประชาชนอย่างมีประสิทธิภาพต่อไป นอกจากนี้ รัฐบาลขอเชิญชวนให้พี่น้องคนไทยร่วมกันทุ่มเทแรงกายแรงใจในการต่อสู้และแก้ไขปัญหายาเสพติดให้ได้รับผลสำเร็จอย่างยั่งยืนและยาวนานสืบต่อไปเพื่อถวายเป็นพระราชสักการะและแสดงความจงรักภักดีในโอกาสปีมหามงคลที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงเจริญพระชนมพรรษา 80 พรรษา
--กลุ่มยุทธศาสตร์และแผนการประชาสัมพันธ์ สำนักโฆษก--
นายกิตติ ลิ้มชัยกิจ เลขาธิการ ป.ป.ส. กล่าวรายงานว่า องค์การสหประชาชาติและประเทศไทยได้กำหนดให้วันที่ 26 มิถุนายน ของทุกปี เป็นวันต่อต้านยาเสพติด ซึ่งสำนักงาน ป.ป.ส. ร่วมกับมูลนิธิป้องกันและปราบปรามยาเสพติด ได้ดำเนินการประกาศเกียรติคุณบุคคลและองค์กรที่มีผลงานดีเด่นในการป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติดอย่างต่อเนื่อง มาตั้งแต่ปี พ.ศ. 2537 โดยในปี พ.ศ. 2550 มีบุคคลและองค์กรที่ได้รับโล่เกียรติคุณ ดังนี้ ระดับยอดเยี่ยม แบ่งเป็น ประเภทองค์กร 2 ราย และประเภทบุคคล 3 ราย ซึ่งมูลนิธิป้องกันและปราบปรามยาเสพติดได้มอบเงินรางวัลให้รางวัลละ 100,000 บาท ระดับดีเด่น แบ่งเป็น ประเภทองค์กร 71 ราย และประเภทบุคคล 38 ราย รวมจำนวน 114 ราย
นอกจากนี้ สำนักงาน ป.ป.ส. ได้กำหนดเป้าหมายการดำเนินงานในปี 2550 โดยเน้นที่กลุ่มเป้าหมายเยาวชนเป็นพิเศษ จึงได้คัดเลือกกลุ่มเยาวชนแกนนำที่มีผลงานดีเด่นในงานยาเสพติดเข้ารับโล่ประกาศเกียรติคุณ จำนวน 20 ราย และคัดเลือกเยาวชนและศิลปินที่สามารถเป็นตัวอย่างที่ดีในการนำเสนอแนวพระราชดำริจากพระราชดำรัส และพระบรมราโชวาทของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว มาประยุกต์ใช้กับการดำเนินชีวิต รวม 9 เรื่อง ในหัวข้อ “9 คำพ่อสอน” เพื่อให้ตนเอง ครอบครัว ชุมชน และประเทศชาติ พ้นจากภัยยาเสพติด เข้ารับใบประกาศเกียรติคุณรวมจำนวน 9 ราย
โอกาสนี้ นายกรัฐมนตรีกล่าวแสดงความยินดีที่ได้มีโอกาสมามอบโล่ประกาศเกียรติคุณแก่บุคคลและองค์กรที่มีผลงานยอดเยี่ยมและดีเด่นในการป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติดในวันนี้ เพราะรัฐบาลถือว่าการป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติดยังคงเป็นนโยบายที่สำคัญของรัฐบาล เพราะพิษภัยของยาเสพติดยังเป็นปัญหาสำคัญระดับโลกมาโดยตลอด เป็นภัยร้ายแรงของมวลมนุษยชาติที่ประเทศต่างๆ จำเป็นต้องช่วยกันลดการใช้ยาเสพติด และถ้าหากว่าเป็นไปได้ก็ขจัดให้หมดสิ้นไป
สำหรับประเทศไทย แม้ว่าจะได้ดำเนินการแก้ไขปัญหายาเสพติดมาอย่างต่อเนื่อง จนขณะนี้ระดับของปัญหาไม่ได้ส่งผลกระทบอย่างรุนแรงต่อการดำเนินชีวิตของคนไทยอีกต่อไป แต่ปัญหายังไม่หมดไปและอาจจะฟื้นกลับคืนมาได้อีกในรูปแบบต่างๆ ที่มีความหลากหลายและมีความสลับซับซ้อนมากยิ่งขึ้น ดังนั้น ทุกคน ทุกฝ่ายจึงต้องตระหนักถึงปัญหานี้อยู่ตลอดเวลา และต้องร่วมกันต่อสู้กับปัญหาอย่างต่อเนื่องและจริงจังต่อไป
นอกจากนี้ นายกรัฐมนตรีกล่าวแสดงยินดีเป็นอย่างยิ่งที่การดำเนินการแก้ไขปัญหายาเสพติดในประเทศไทย ได้รับความร่วมมือจากหน่วยงานต่างๆ อาทิ ภาครัฐ ภาคเอกชน ภาคประชาชน และมิตรประเทศ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ประชาชน ซึ่งถือเป็นพลังแผ่นดินอันทรงคุณค่าที่ทำให้การแก้ไขปัญหายาเสพติดของประเทศไทยสามารถบรรลุเป้าหมายได้อย่างมีประสิทธิภาพ อันจะทำให้การแก้ไขปัญหาบังเกิดความยั่งยืนสืบต่อไป
ทั้งนี้ รัฐบาลตระหนักถึงความสำคัญของบุคลากรที่ได้ทำงานด้วยความเสียสละ อุทิศตน เวลา และการทำงานด้วยความทุ่มเทให้แก่ส่วนรวมมาโดยตลอด ดังนั้นรางวัลที่ได้รับในวันนี้จึงเป็นการยกย่อง เชิดชูเกียรติคุณ และหวังเป็นอย่างยิ่งว่าจะเป็นขวัญกำลังใจให้ทุกท่านได้มุ่งมั่นปฏิบัติหน้าที่เพื่อประเทศชาติและประชาชนอย่างมีประสิทธิภาพต่อไป นอกจากนี้ รัฐบาลขอเชิญชวนให้พี่น้องคนไทยร่วมกันทุ่มเทแรงกายแรงใจในการต่อสู้และแก้ไขปัญหายาเสพติดให้ได้รับผลสำเร็จอย่างยั่งยืนและยาวนานสืบต่อไปเพื่อถวายเป็นพระราชสักการะและแสดงความจงรักภักดีในโอกาสปีมหามงคลที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงเจริญพระชนมพรรษา 80 พรรษา
--กลุ่มยุทธศาสตร์และแผนการประชาสัมพันธ์ สำนักโฆษก--