แท็ก
สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง
สุรยุทธ์ จุลานนท์
ศิลปวัฒนธรรม
นายกรัฐมนตรี
อุตสาหกรรม
พุทธศาสนา
วันนี้ เวลา 08.30 น. ณ ห้องประชุมคุณหญิงวนิดา ธูปะเตมีย์ คณะครุศาสตร์อุตสาหกรรม สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง พลเอก สุรยุทธ์ จุลานนท์ นายกรัฐมนตรี เป็นประธานเปิดโครงการทำนุบำรุงศิลปวัฒนธรรม เรื่อง “พุทธศาสนากับการพัฒนาจิตเพื่อเพิ่มศักยภาพในการเรียนและการดำเนินชีวิตของนักศึกษา” และกล่าวบรรยายพิเศษหัวข้อ “คุณธรรม จริยธรรมในการดำเนินชีวิตของนักศึกษา” โดยมีนายสิทธิชัย โภไคยอุดม รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร ผู้บริหาร คณาจารย์ และนิสิตนักศึกษาปริญญาโท — เอก รวม 400 คนให้การต้อนรับ
องศาสตราจารย์กิตติ ตีรเศรษฐ อธิการบดีสถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง ได้กล่าวรายงานโดยสรุปว่า คณะครุศาสตร์อุตสาหกรรม สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง เป็นหน่วยงานที่จัดการเรียนการสอนเพื่อสร้างบุคลากรที่มีคุณภาพและศักยภาพออกสู่สังคมและตลาดแรงงาน ซึ่งนอกจากความสามารถทางด้านวิชาการแล้ว คณะครุศาสตร์อุตสาหกรรมยังได้เล็งเห็นความสำคัญของศาสนาและวัฒนธรรมอันจะนำไปสู่การพัฒนาความฉลาดทางอารมณ์ (EQ) ความฉลาดทางสังคม (SQ) และความฉลาดทางปัญญา(IQ) ของนักศึกษา โดยใช้การพัฒนาจิตในแนวทางมหาปัฏฐานสี่ ที่จะส่งผลให้ผู้ปฏิบัติสามารถแสดงศักยภาพของตนเองออกมาอย่างเต็มประสิทธิภาพ รวมทั้งสามารถอยู่ร่วมกันในสังคมและสามารถทำงานร่วมกับผู้อื่นได้เป็นอย่างดี มีความเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ซึ่งกันและกัน และเป็นการนำศาสนาและวัฒนธรรมมาประยุกต์ใช้กับนักศึกษาปัจจุบัน ที่ให้ความสำคัญกับศาสนาและวัฒนธรรมน้อยลง โดยมุ่งหวังให้นักศึกษาหันกลับมาสนใจและให้ความสำคัญกับศาสนาและวัฒนธรรมมากขึ้น คณะครุศาสตร์อุตสาหกรรมได้จัดโครงการอย่างต่อเนื่องทุกปีและการจัดโครงการทำนุบำรุงศิลปวัฒนธรรมในครั้งนี้ มีวัตถุประสงค์เพื่อพัฒนาคุณภาพและศักยภาพในการเรียนและการดำเนินชีวิตของนักศึกษาอย่างมีความสุข มุ่งเน้นให้นักศึกษามีคุณธรรม จริยธรรมในการดำเนินชีวิตและเพื่อพัฒนาความฉลาดทางอารมณ์ (EQ) ความฉลาดทางสังคม (SQ) และความฉลาดทางปัญญา (IQ) ของนักศึกษาคณะครุศาสตร์อุตสาหกรรม ให้เก่ง ดี มีสุข ตลอดทั้งเพื่อทำนุบำรุงศิลปวัฒนธรรมให้เจริญก้าวหน้ายิ่ง ๆ ขึ้นไป
โอกาสนี้ นายกรัฐมนตรีได้กล่าวเปิดโครงการทำนุบำรุงศิลปวัฒนธรรม เรื่อง “พุทธศาสนากับการพัฒนาจิตเพื่อเพิ่มศักยภาพในการเรียนและการดำเนินชีวิตของนักศึกษา” ว่ามีความยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้มาร่วมในพิธีเปิดโครงการทำนุบำรุงศิลปวัฒนธรรมของสถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบังในวันนี้ ศาสนาและวัฒนธรรมมีความสำคัญต่อการพัฒนาของคนทุกคน เพราะศาสนาและวัฒนธรรมคือคำสั่งสอนและแนวทางปฏิบัติที่ดีงาม ที่ได้รับการยอมรับและปฏิบัติสืบต่อกันมาเป็นระยะเวลาที่ยาวนานแล้ว ทำให้คนเราสามารถดำรงชีวิตอยู่และทำงานร่วมกับคนอื่นในสังคมได้อย่างมีความสุข โดยที่มีความเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ซึ่งกันและกัน มีความร่วมมือกัน การทำนุบำรุงศาสนาและศิลปวัฒนธรรมจึงเป็นการกระทำที่สมควรเป็นอย่างยิ่ง การที่สถาบันได้จัดทำโครงการนี้ขึ้น ไม่เพียงแต่จะช่วยสนับสนุนและเสริมสร้างคุณธรรม จริยธรรม ให้แก่นักศึกษาซึ่งเป็นอนาคตของชาติ และส่งเสริมให้นักศึกษาได้รับการพัฒนาไปสู่ความฉลาดทั้งทางอารมณ์ ทางสังคม และสติปัญญาเท่านั้น แต่ยังหมายถึงการให้ทุกคนมีส่วนร่วมในการทำนุบำรุงศาสนา และศิลปวัฒนธรรมของชาติ อันเป็นประโยชน์ต่อสังคมโดยรวมอีกด้วย หวังเป็นอย่างยิ่งว่าโครงการนี้จะทำให้ทุกคนมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น
จากนั้น นายกรัฐมนตรีกล่าวบรรยายพิเศษหัวข้อ “คุณธรรม จริยธรรมในการดำเนินชีวิตของนักศึกษา” สรุปสาระสำคัญว่า พระราชบัญญัติการศึกษาแห่งชาติ ได้พูดกันถึงเรื่องการทำให้ผู้ที่เข้ารับการศึกษามีคุณธรรม โดยได้วางแนวทางไว้ว่าคุณธรรมนำความรู้ คำว่า”คุณธรรม”ถ้ามองในภาพกว้าง ๆ จะเป็นเรื่องของสิ่งที่จับต้องไม่ได้ เป็นสิ่งที่เกิดจากจิตใจของเราเอง ในคำสอนทางศาสนาต่าง ๆ เน้นในเรื่องการเป็นดี เป็นคนที่มีจิตใจอ่อนโยน เป็นคนที่จะต้องให้ความช่วยเหลือผู้ที่ด้อยกว่า ซึ่งในวันนี้จะเน้นในเรื่องของศาสนาพุทธที่คนส่วนใหญ่นับถือ
นายกรัฐมนตรีกล่าวถึงประสบการณ์ชีวิตในช่วงหนึ่งว่า สิ่งที่เรามองไม่เห็นคือจิตใจ ถ้าได้เตรียมความพร้อมด้านจิตใจ จะสามารถเรียนในสิ่งที่ยากได้ ซึ่งการจะทำอะไรต้องเริ่มที่ความรู้สึก ความคิด และจิตใจของเราว่าจะทำอะไร มีความตั้งใจจะทำอะไรมากน้อยแค่ไหน เมื่อจะทำอะไรต้องมีเป้าหมายอยู่ข้างหน้า โดยนายกรัฐมนตรีได้ยกตัวอย่างสมัยที่เป็นนักเรียนนายร้อย จปร. ชั้นปีที่ 3 — 4 ที่ต้องเรียนวิชาแขนงวิศวกรรมไฟฟ้าที่ยาก ซึ่งได้เตรียมพร้อมทำความเข้าใจล่วงหน้า ให้ความสนใจกับวิชาที่เรียนเพื่อเรียนให้จบ ด้วยการอ่านหนังสือล่วงหน้าในช่วงปิดเทอม เมื่อเริ่มเรียนก็ทำให้ไปได้เร็ว อาจารย์สอนก็เข้าใจ เพราะใจมีความตั้งใจมีสมาธิที่จะเรียน ทำให้คะแนนสอบที่ออกมาก็ดี จึงได้กลายเป็นติวเตอร์วิชาไฟฟ้าให้กับเพื่อน ๆ ดังนั้น การที่จะเรียนอะไรถ้ามีความตั้งใจ มีความสนใจ มีสมาธิ มีความชอบ ความอยากที่จะเรียนวิชานั้น ๆ จะทำให้เรามีความเข้าใจและเรียนได้ดีขึ้น ทั้งนี้ บางคนอาจจะมีสมาธิสั้น แต่เรื่องการฝึกสามารถที่จะทำได้
นายกรัฐมนตรีกล่าวว่า หลังจากผ่านช่วงชีวิตนักศึกษาแล้ว มีสิ่งต่าง ๆ ที่ผ่านเข้ามาในชีวิต ซึ่งทำให้เห็นว่าเป็นเรื่องที่จะต้องหาทางแก้ไข ต่อสู้ เพราะชีวิตของแต่ละคนมีอุปสรรค มีปัญหาที่ไม่เหมือนกัน นายกรัฐมนตรีก็มีปัญหาเรื่องอนาคต เพราะคิดว่าอยากเป็นทหารอยากทำหน้าที่อย่างเต็มที่ เมื่อใกล้เรียนจบอาจารย์ได้เรียกพบบอกว่าอยากให้เป็นอาจารย์สอนในโรงเรียนนายร้อย จปร. ในวิชาวิศวกรรมไฟฟ้า แต่นายกรัฐมนตรีอยากเป็นทหารเพราะอยากทำหน้าที่อย่างเต็มที่ โดยได้เลือกเหล่าทหารราบ ซึ่งเรียกว่าทำหน้าที่เป็นอาชีพกรรมกรของทหารที่ทำงานทุกอย่าง แต่เมื่อไปปฏิบัติหน้าที่ได้รับคำสั่งว่าไม่ให้ออกไปทำงานในพื้นที่ชายแดน ซึ่งถือได้ว่าอนาคตไม่รุ่ง ไม่แจ่มใส จึงเกิดความทุกข์ว่าจะไปทางไหนดี แต่เมื่อได้อ่านหนังสือประวัติและคำสอนของพระพุทธเจ้าแล้วก็เกิดความประทับใจ พบว่าจิตใจของเราเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุด จึงมุ่งมั่นตั้งใจทำหน้าที่ในความรับผิดชอบให้ดีที่สุด เมื่อมีการวัดผลการฝึก การเรียนหลักสูตรจู่โจม ก็มักจะได้ที่ 1 ตลอด
“ เมื่อมาถึงตรงจุดนั้น จะเป็นแรงผลักดันให้เราทำในสิ่งที่อยู่ในครรลอง ทำในสิ่งที่ดีงาม ยิ่งคนเขามองว่าเป็นคนที่ทำงานได้ดี เป็นคนที่เรียนหนังสือได้ดี ก็ยิ่งเป็นกรอบของสังคมที่สร้างให้เราต้องอยู่ในกรอบอันนั้น ประกอบกับการศึกษาอย่างจริงจังในทางศาสนา ทำให้ผมเริ่มสนใจว่าพระพุทธเจ้าท่านสอนอะไร ท่านสอนให้เราหาวิธีพ้นทุกข์ จิตใจที่จะทำในสิ่งที่ดีงาม ทำในสิ่งที่เป็นคุณธรรม คือจุดที่จะทำให้ชีวิตของคนเราเดินไปตามครรลองที่ถูกต้อง ผมคงบอกไม่ได้ว่าใครควรจะทำอย่างไร คงอยู่ที่พวกเราทุกคนที่จะต้องคิด เรามีความคิดกันทุกคน แต่ว่าจะคิดอย่างไร” นายกรัฐมนตรีกล่าว
นายกรัฐมนตรีกล่าวด้วยว่า หลาย ๆ คนได้ถามว่าทำไมนายกฯ ไม่โมโหบ้าง ไม่รุนแรงบ้าง ต้องถึงลูกถึงคน ตาต่อตาฟันต่อฟัน ซึ่งเรื่องตาต่อตาฟันต่อฟันนี้ นายกรัฐมนตรีได้ผ่านมาเยอะแล้ว จึงบอกได้ว่าไม่ค่อยได้ผล ต่างก็เจ็บทั้งคู่ ไม่เจ็บก็ตาย ซึ่งถือว่าเป็นประสบการณ์ ทั้งนี้ สิ่งที่เป็นคำสอนของศาสนาต่าง ๆ คือการมีความอ่อนโยนช่วยเหลือซึ่งกันและกัน เป็นส่วนประกอบที่จะทำให้คนในสังคมไปด้วยกันได้ และอีกส่วนหนึ่งที่จะเป็นประโยชน์คือความตรงไปตรงมา ความซื่อสัตย์สุจริต อันเป็นสิ่งสำคัญที่ทุกคนควรจะมองตรงจุดนี้ ไม่ว่าจะอยู่ศาสนาใด ศาสนาก็สอนให้ทุกคนรู้จักให้อภัย หากเรามุ่งมั่นจะเดินหน้าต้องมีหลักในการดำเนินชีวิต ซึ่งจะทำให้ประสบความสำเร็จ
“ผมทำงานมาตลอดชีวิต คิดว่าความจริงใจเป็นประโยชน์เป็นอย่างยิ่ง ไม่ว่าเราจะทำงานกับเพื่อนหรือจะติดต่อทำงานกับคนอื่น ๆ ความจริงใจเป็นพื้นฐานที่ทำให้เราทำงานได้ก้าวหน้า และได้รับผลสำเร็จ เมื่อได้รับความร่วมมือ ได้ใช้ความซื่อตรง ใช้ความจริงใจในการทำงาน ผลที่ออกมาจะเป็นทีมงานที่ทำงานด้วยกันอย่างดี ” นายกรัฐมนตรีกล่าว
ในตอนท้าย นายกรัฐมนตรีกล่าวว่า ในชีวิตของคนเราควรมีจิตใจที่อยู่ในกรอบที่ดีงาม มีความตั้งใจและวางเป้าหมายของชีวิต ทำในสิ่งที่น่าจะเป็นผลดีแก่ตัวเอง หลีกเลี่ยงจากสิ่งที่น่าจะเป็นทุกข์ รวมทั้งจะต้องมีสมาธิ มีสติ ที่จะคิดถึงเหตุที่มา ให้คิดถึงผลที่จะตามมาว่าถ้าใช้วิธีการอย่างนี้แล้วผลที่ออกมาจะเป็นอย่างไร โดยให้คิดกลับไปกลับมาหลาย ๆ ครั้งก็จะเห็นได้ว่าน่าจะเดินไปทางไหน ทั้งนี้ ทางเดินของแต่ละคนคงจะไม่เป็นทางเดินที่โรยด้วยกลีบกุหลาบเหมือนกันทุกคน แต่ถ้าไม่ท้อถอย มีกำลังใจ มีความมุ่งมั่นที่จะเดินไปข้างหน้า ก็จะประสบความสำเร็จตามที่มุ่งหวังได้
--กลุ่มยุทธศาสตร์และแผนการประชาสัมพันธ์ สำนักโฆษก--
องศาสตราจารย์กิตติ ตีรเศรษฐ อธิการบดีสถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง ได้กล่าวรายงานโดยสรุปว่า คณะครุศาสตร์อุตสาหกรรม สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง เป็นหน่วยงานที่จัดการเรียนการสอนเพื่อสร้างบุคลากรที่มีคุณภาพและศักยภาพออกสู่สังคมและตลาดแรงงาน ซึ่งนอกจากความสามารถทางด้านวิชาการแล้ว คณะครุศาสตร์อุตสาหกรรมยังได้เล็งเห็นความสำคัญของศาสนาและวัฒนธรรมอันจะนำไปสู่การพัฒนาความฉลาดทางอารมณ์ (EQ) ความฉลาดทางสังคม (SQ) และความฉลาดทางปัญญา(IQ) ของนักศึกษา โดยใช้การพัฒนาจิตในแนวทางมหาปัฏฐานสี่ ที่จะส่งผลให้ผู้ปฏิบัติสามารถแสดงศักยภาพของตนเองออกมาอย่างเต็มประสิทธิภาพ รวมทั้งสามารถอยู่ร่วมกันในสังคมและสามารถทำงานร่วมกับผู้อื่นได้เป็นอย่างดี มีความเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ซึ่งกันและกัน และเป็นการนำศาสนาและวัฒนธรรมมาประยุกต์ใช้กับนักศึกษาปัจจุบัน ที่ให้ความสำคัญกับศาสนาและวัฒนธรรมน้อยลง โดยมุ่งหวังให้นักศึกษาหันกลับมาสนใจและให้ความสำคัญกับศาสนาและวัฒนธรรมมากขึ้น คณะครุศาสตร์อุตสาหกรรมได้จัดโครงการอย่างต่อเนื่องทุกปีและการจัดโครงการทำนุบำรุงศิลปวัฒนธรรมในครั้งนี้ มีวัตถุประสงค์เพื่อพัฒนาคุณภาพและศักยภาพในการเรียนและการดำเนินชีวิตของนักศึกษาอย่างมีความสุข มุ่งเน้นให้นักศึกษามีคุณธรรม จริยธรรมในการดำเนินชีวิตและเพื่อพัฒนาความฉลาดทางอารมณ์ (EQ) ความฉลาดทางสังคม (SQ) และความฉลาดทางปัญญา (IQ) ของนักศึกษาคณะครุศาสตร์อุตสาหกรรม ให้เก่ง ดี มีสุข ตลอดทั้งเพื่อทำนุบำรุงศิลปวัฒนธรรมให้เจริญก้าวหน้ายิ่ง ๆ ขึ้นไป
โอกาสนี้ นายกรัฐมนตรีได้กล่าวเปิดโครงการทำนุบำรุงศิลปวัฒนธรรม เรื่อง “พุทธศาสนากับการพัฒนาจิตเพื่อเพิ่มศักยภาพในการเรียนและการดำเนินชีวิตของนักศึกษา” ว่ามีความยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้มาร่วมในพิธีเปิดโครงการทำนุบำรุงศิลปวัฒนธรรมของสถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบังในวันนี้ ศาสนาและวัฒนธรรมมีความสำคัญต่อการพัฒนาของคนทุกคน เพราะศาสนาและวัฒนธรรมคือคำสั่งสอนและแนวทางปฏิบัติที่ดีงาม ที่ได้รับการยอมรับและปฏิบัติสืบต่อกันมาเป็นระยะเวลาที่ยาวนานแล้ว ทำให้คนเราสามารถดำรงชีวิตอยู่และทำงานร่วมกับคนอื่นในสังคมได้อย่างมีความสุข โดยที่มีความเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ซึ่งกันและกัน มีความร่วมมือกัน การทำนุบำรุงศาสนาและศิลปวัฒนธรรมจึงเป็นการกระทำที่สมควรเป็นอย่างยิ่ง การที่สถาบันได้จัดทำโครงการนี้ขึ้น ไม่เพียงแต่จะช่วยสนับสนุนและเสริมสร้างคุณธรรม จริยธรรม ให้แก่นักศึกษาซึ่งเป็นอนาคตของชาติ และส่งเสริมให้นักศึกษาได้รับการพัฒนาไปสู่ความฉลาดทั้งทางอารมณ์ ทางสังคม และสติปัญญาเท่านั้น แต่ยังหมายถึงการให้ทุกคนมีส่วนร่วมในการทำนุบำรุงศาสนา และศิลปวัฒนธรรมของชาติ อันเป็นประโยชน์ต่อสังคมโดยรวมอีกด้วย หวังเป็นอย่างยิ่งว่าโครงการนี้จะทำให้ทุกคนมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น
จากนั้น นายกรัฐมนตรีกล่าวบรรยายพิเศษหัวข้อ “คุณธรรม จริยธรรมในการดำเนินชีวิตของนักศึกษา” สรุปสาระสำคัญว่า พระราชบัญญัติการศึกษาแห่งชาติ ได้พูดกันถึงเรื่องการทำให้ผู้ที่เข้ารับการศึกษามีคุณธรรม โดยได้วางแนวทางไว้ว่าคุณธรรมนำความรู้ คำว่า”คุณธรรม”ถ้ามองในภาพกว้าง ๆ จะเป็นเรื่องของสิ่งที่จับต้องไม่ได้ เป็นสิ่งที่เกิดจากจิตใจของเราเอง ในคำสอนทางศาสนาต่าง ๆ เน้นในเรื่องการเป็นดี เป็นคนที่มีจิตใจอ่อนโยน เป็นคนที่จะต้องให้ความช่วยเหลือผู้ที่ด้อยกว่า ซึ่งในวันนี้จะเน้นในเรื่องของศาสนาพุทธที่คนส่วนใหญ่นับถือ
นายกรัฐมนตรีกล่าวถึงประสบการณ์ชีวิตในช่วงหนึ่งว่า สิ่งที่เรามองไม่เห็นคือจิตใจ ถ้าได้เตรียมความพร้อมด้านจิตใจ จะสามารถเรียนในสิ่งที่ยากได้ ซึ่งการจะทำอะไรต้องเริ่มที่ความรู้สึก ความคิด และจิตใจของเราว่าจะทำอะไร มีความตั้งใจจะทำอะไรมากน้อยแค่ไหน เมื่อจะทำอะไรต้องมีเป้าหมายอยู่ข้างหน้า โดยนายกรัฐมนตรีได้ยกตัวอย่างสมัยที่เป็นนักเรียนนายร้อย จปร. ชั้นปีที่ 3 — 4 ที่ต้องเรียนวิชาแขนงวิศวกรรมไฟฟ้าที่ยาก ซึ่งได้เตรียมพร้อมทำความเข้าใจล่วงหน้า ให้ความสนใจกับวิชาที่เรียนเพื่อเรียนให้จบ ด้วยการอ่านหนังสือล่วงหน้าในช่วงปิดเทอม เมื่อเริ่มเรียนก็ทำให้ไปได้เร็ว อาจารย์สอนก็เข้าใจ เพราะใจมีความตั้งใจมีสมาธิที่จะเรียน ทำให้คะแนนสอบที่ออกมาก็ดี จึงได้กลายเป็นติวเตอร์วิชาไฟฟ้าให้กับเพื่อน ๆ ดังนั้น การที่จะเรียนอะไรถ้ามีความตั้งใจ มีความสนใจ มีสมาธิ มีความชอบ ความอยากที่จะเรียนวิชานั้น ๆ จะทำให้เรามีความเข้าใจและเรียนได้ดีขึ้น ทั้งนี้ บางคนอาจจะมีสมาธิสั้น แต่เรื่องการฝึกสามารถที่จะทำได้
นายกรัฐมนตรีกล่าวว่า หลังจากผ่านช่วงชีวิตนักศึกษาแล้ว มีสิ่งต่าง ๆ ที่ผ่านเข้ามาในชีวิต ซึ่งทำให้เห็นว่าเป็นเรื่องที่จะต้องหาทางแก้ไข ต่อสู้ เพราะชีวิตของแต่ละคนมีอุปสรรค มีปัญหาที่ไม่เหมือนกัน นายกรัฐมนตรีก็มีปัญหาเรื่องอนาคต เพราะคิดว่าอยากเป็นทหารอยากทำหน้าที่อย่างเต็มที่ เมื่อใกล้เรียนจบอาจารย์ได้เรียกพบบอกว่าอยากให้เป็นอาจารย์สอนในโรงเรียนนายร้อย จปร. ในวิชาวิศวกรรมไฟฟ้า แต่นายกรัฐมนตรีอยากเป็นทหารเพราะอยากทำหน้าที่อย่างเต็มที่ โดยได้เลือกเหล่าทหารราบ ซึ่งเรียกว่าทำหน้าที่เป็นอาชีพกรรมกรของทหารที่ทำงานทุกอย่าง แต่เมื่อไปปฏิบัติหน้าที่ได้รับคำสั่งว่าไม่ให้ออกไปทำงานในพื้นที่ชายแดน ซึ่งถือได้ว่าอนาคตไม่รุ่ง ไม่แจ่มใส จึงเกิดความทุกข์ว่าจะไปทางไหนดี แต่เมื่อได้อ่านหนังสือประวัติและคำสอนของพระพุทธเจ้าแล้วก็เกิดความประทับใจ พบว่าจิตใจของเราเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุด จึงมุ่งมั่นตั้งใจทำหน้าที่ในความรับผิดชอบให้ดีที่สุด เมื่อมีการวัดผลการฝึก การเรียนหลักสูตรจู่โจม ก็มักจะได้ที่ 1 ตลอด
“ เมื่อมาถึงตรงจุดนั้น จะเป็นแรงผลักดันให้เราทำในสิ่งที่อยู่ในครรลอง ทำในสิ่งที่ดีงาม ยิ่งคนเขามองว่าเป็นคนที่ทำงานได้ดี เป็นคนที่เรียนหนังสือได้ดี ก็ยิ่งเป็นกรอบของสังคมที่สร้างให้เราต้องอยู่ในกรอบอันนั้น ประกอบกับการศึกษาอย่างจริงจังในทางศาสนา ทำให้ผมเริ่มสนใจว่าพระพุทธเจ้าท่านสอนอะไร ท่านสอนให้เราหาวิธีพ้นทุกข์ จิตใจที่จะทำในสิ่งที่ดีงาม ทำในสิ่งที่เป็นคุณธรรม คือจุดที่จะทำให้ชีวิตของคนเราเดินไปตามครรลองที่ถูกต้อง ผมคงบอกไม่ได้ว่าใครควรจะทำอย่างไร คงอยู่ที่พวกเราทุกคนที่จะต้องคิด เรามีความคิดกันทุกคน แต่ว่าจะคิดอย่างไร” นายกรัฐมนตรีกล่าว
นายกรัฐมนตรีกล่าวด้วยว่า หลาย ๆ คนได้ถามว่าทำไมนายกฯ ไม่โมโหบ้าง ไม่รุนแรงบ้าง ต้องถึงลูกถึงคน ตาต่อตาฟันต่อฟัน ซึ่งเรื่องตาต่อตาฟันต่อฟันนี้ นายกรัฐมนตรีได้ผ่านมาเยอะแล้ว จึงบอกได้ว่าไม่ค่อยได้ผล ต่างก็เจ็บทั้งคู่ ไม่เจ็บก็ตาย ซึ่งถือว่าเป็นประสบการณ์ ทั้งนี้ สิ่งที่เป็นคำสอนของศาสนาต่าง ๆ คือการมีความอ่อนโยนช่วยเหลือซึ่งกันและกัน เป็นส่วนประกอบที่จะทำให้คนในสังคมไปด้วยกันได้ และอีกส่วนหนึ่งที่จะเป็นประโยชน์คือความตรงไปตรงมา ความซื่อสัตย์สุจริต อันเป็นสิ่งสำคัญที่ทุกคนควรจะมองตรงจุดนี้ ไม่ว่าจะอยู่ศาสนาใด ศาสนาก็สอนให้ทุกคนรู้จักให้อภัย หากเรามุ่งมั่นจะเดินหน้าต้องมีหลักในการดำเนินชีวิต ซึ่งจะทำให้ประสบความสำเร็จ
“ผมทำงานมาตลอดชีวิต คิดว่าความจริงใจเป็นประโยชน์เป็นอย่างยิ่ง ไม่ว่าเราจะทำงานกับเพื่อนหรือจะติดต่อทำงานกับคนอื่น ๆ ความจริงใจเป็นพื้นฐานที่ทำให้เราทำงานได้ก้าวหน้า และได้รับผลสำเร็จ เมื่อได้รับความร่วมมือ ได้ใช้ความซื่อตรง ใช้ความจริงใจในการทำงาน ผลที่ออกมาจะเป็นทีมงานที่ทำงานด้วยกันอย่างดี ” นายกรัฐมนตรีกล่าว
ในตอนท้าย นายกรัฐมนตรีกล่าวว่า ในชีวิตของคนเราควรมีจิตใจที่อยู่ในกรอบที่ดีงาม มีความตั้งใจและวางเป้าหมายของชีวิต ทำในสิ่งที่น่าจะเป็นผลดีแก่ตัวเอง หลีกเลี่ยงจากสิ่งที่น่าจะเป็นทุกข์ รวมทั้งจะต้องมีสมาธิ มีสติ ที่จะคิดถึงเหตุที่มา ให้คิดถึงผลที่จะตามมาว่าถ้าใช้วิธีการอย่างนี้แล้วผลที่ออกมาจะเป็นอย่างไร โดยให้คิดกลับไปกลับมาหลาย ๆ ครั้งก็จะเห็นได้ว่าน่าจะเดินไปทางไหน ทั้งนี้ ทางเดินของแต่ละคนคงจะไม่เป็นทางเดินที่โรยด้วยกลีบกุหลาบเหมือนกันทุกคน แต่ถ้าไม่ท้อถอย มีกำลังใจ มีความมุ่งมั่นที่จะเดินไปข้างหน้า ก็จะประสบความสำเร็จตามที่มุ่งหวังได้
--กลุ่มยุทธศาสตร์และแผนการประชาสัมพันธ์ สำนักโฆษก--