วันนี้ เวลา 18.00 น. ณ ห้องสีฟ้า ตึกสันติไมตรี ทำเนียบรัฐบาล พ.ต.ท. ทักษิณ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ได้หารือข้อราชการเต็มคณะกับนางกลอเรีย มาคาปากัล อาร์โรโย (Mrs. Gloria Macapagal- Arroyo) ประธานาธิบดีแห่งสาธารณรัฐฟิลิปปินส์ (President of the Republic of the Philippines) ในโอกาสเดินทางเยือนไทยอย่างเป็นทางการระหว่างวันที่ 7-8 พฤษภาคม 2545 โดยมีบุคคลระดับสูงในภาครัฐบาล ร่วมหารือด้วย อาทิ นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง นายสุรเกียรติ์ เสถียรไทย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ นายอดิศัย โพธารามิก รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ นางสุดารัตน์ เกยุราพันธ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข นายประจวบ ไชยสาสน์ ผู้แทนการค้าไทย นายยงยุทธ ติยะไพรัช โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ภายหลังการกล่าวต้อนรับทั้งสองฝ่ายได้มีการหารือ สรุปสาระสำคัญได้ดังนี้
นายกรัฐมนตรีและประธานาธิบดีแห่งสาธารณรัฐฟิลิปปินส์ กล่าวชื่นชมความสัมพันธ์ไทย-ฟิลิปปินส์ ที่มีความร่วมมือกันอย่างแน่นแฟ้นในฐานะหุ้นส่วนที่เท่าเทียมกันและทั้งสองประเทศ ผลักดันให้ความร่วมมือทางเศรษฐกิจในทุกระดับทั้งในกรอบทวิภาคีและพหุภาคีโดยเฉพาะความ ร่วมมือระหว่างภาคเอกชน สภาธุรกิจไทย-ฟิลิปปินส์ และสภาธุรกิจฟิลิปปินส์-ไทย ประสบความสำเร็จการลงนามต่ออายุบันทึกความเข้าใจระหว่าง (MOU on the Development of Cooperation between Philippine and Thai Companies) ซึ่งจะมีส่วนอย่างสำคัญในการส่งเสริมความร่วมมือด้านเศรษฐกิจระหว่างสองประเทศ
ประธานาธิบดีแห่งสาธารณรัฐฟิลิปปินส์ ได้กล่าวแสดงความชื่นชมไทย ในการขยายความร่วมมือด้านการท่องเที่ยวร่วมกันในลักษณะ Single Packaging Destination ตามโครงการ Amazing Thailand และ Wonder of Wealth (WOW) Philippines ซึ่งไทยได้รับการยอมรับจากนานาชาติว่า เป็นแหล่งท่องเที่ยวที่สวยงาม และประสบความสำเร็จอย่างสูงในการรณรงค์และส่งเสริมด้านการท่องเที่ยว และเพื่อเป็นการส่งเสริมความร่วมมือการท่องเที่ยวให้เพิ่มมากขึ้น นายกรัฐมนตรี ได้กล่าว่า Code Sharing เป็นวิธีหนึ่งการที่จะช่วยเพิ่มจำนวนที่นั่งระหว่างสายการบินทั้งสองฝ่าย รวมทั้งขอให้ฟิลิปปินส์ พิจารณาปรับปรุงความตกลงทางการบินให้เปิดเสรีระหว่างกันมากยิ่งขึ้น ซึ่งประธานาธิบดีฟิลิปปินส์ ได้เห็นพ้องและจะมอบหมายให้เจ้าหน้าที่พิจารณาในรายละเอียดต่อไป
สำหรับความร่วมมือด้านการค้า นายกรัฐมนตรี ได้กล่าวว่า ไทยและฟิลิปปินส์ต่างสามารถผนวกความเข้มแข็ง จุดเด่นทางเศรษฐกิจ เพื่อขยายการค้าและการลงทุนระหว่างกันได้ โดยเฉพาะการส่งเสริมการค้าระหว่างกันภายใต้รูปแบบการค้าระบบหักบัญชี (Account Trade) ในโอกาสนี้ ประธานาธิบดีฟิลิปปินส์ ได้กล่าวสนับสนุนแนวความคิดและรูปแบบการดำเนินงานดังกล่าว โดยกล่าวว่า ปัจจุบันฟิลิปปินส์ได้มีการนำเข้าข้าวจากประเทศไทย ขณะเดียวกันฟิลิปปินส์ก็ส่งออกปุ๋ยให้ไทย ทั้งนี้ ไทยและฟิลิปปินส์ อาจพิจารณาการค้าสินค้าทั้งสองชนิดผ่านระบบการการค้าแบบหักบัญชี โดยฟิลิปปินส์จะได้เร่งให้ธนาคารตัวแทนประสานงานกับธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าของไทยต่อไป
ในโอกาสนี้ ประธานาธิบดีแห่งสาธารณรัฐฟิลิปปินส์ ยังได้แสดงความยินดีที่ทราบว่า ความร่วมมือในการปราบปรามอาชญากรรม ระหว่างไทยและสาธารณรัฐฟิลิปปินส์ ได้ขยายขอบเขตมากยิ่งขึ้น โดยทั้งสองประเทศ จะได้มีการแลกเปลี่ยนสัตยาบันสารของสนธิสัญญาว่าด้วยการโอนตัวผู้ต้องคำพิพากษาและความร่วมมือในการบังคับให้เป็นไปตามคำพิพากษาในคดีอาญาระหว่างไทยกับฟิลิปปินส์ (The Exchange of Instruments of Ratification of the Treaty on the Transfer of Sentenced Persons and on Co-operation in the Enforcement of the Penal Sentences) รวมถึงความร่วมมือด้านการเมืองและความมั่นคง ความร่วมมือในการต่อต้านการก่อการร้าย โดยจะร่วมมือกันทั้งภายใต้กรอบทวิภาคีและอาเซียน ไทยพร้อมที่จะภาคยานุวัตรความตกลงแลกเปลี่ยนข่าวสาร และการจัดตั้งแนวทางในการติดต่อสื่อสาร (Agreement on Exchange of Information and Establishment of Communication Procedures) ซึ่งเพิ่งได้มีการลงนามในวันนี้ระหว่างฟิลิปปินส์ มาเลเซียและอินโดนีเซีย
ประธานาธิบดี ยังได้กล่าวขอบคุณรัฐบาลไทยที่ให้การดูแลแรงงานฟิลิปปินส์ ที่เข้ามาทำงานในไทยเป็นอย่างดี นอกจากนี้ ทั้งสองประเทศ ยังเห็นพ้องกันในการสนับสนุนความร่วมมือในการพัฒนาและวิจัยการเกษตร เทคโนโลยีและการสื่อสารร่วมกัน และในโอกาสนี้ นายกรัฐมนตรี ยังยืนยันท่าทีของไทยในการให้ความสนับสนุนผู้แทนของฟิลิปปินส์ ในการสมัครรับเลือกตั้งในคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ
ฝ่ายสื่อมวลชนสัมพันธ์ สำนักโฆษก โทรภายใน 8055 โทร 0 2629 9292, 0 2629 9491 โทรสาร 0 2281 4450--จบ--
-สส-
นายกรัฐมนตรีและประธานาธิบดีแห่งสาธารณรัฐฟิลิปปินส์ กล่าวชื่นชมความสัมพันธ์ไทย-ฟิลิปปินส์ ที่มีความร่วมมือกันอย่างแน่นแฟ้นในฐานะหุ้นส่วนที่เท่าเทียมกันและทั้งสองประเทศ ผลักดันให้ความร่วมมือทางเศรษฐกิจในทุกระดับทั้งในกรอบทวิภาคีและพหุภาคีโดยเฉพาะความ ร่วมมือระหว่างภาคเอกชน สภาธุรกิจไทย-ฟิลิปปินส์ และสภาธุรกิจฟิลิปปินส์-ไทย ประสบความสำเร็จการลงนามต่ออายุบันทึกความเข้าใจระหว่าง (MOU on the Development of Cooperation between Philippine and Thai Companies) ซึ่งจะมีส่วนอย่างสำคัญในการส่งเสริมความร่วมมือด้านเศรษฐกิจระหว่างสองประเทศ
ประธานาธิบดีแห่งสาธารณรัฐฟิลิปปินส์ ได้กล่าวแสดงความชื่นชมไทย ในการขยายความร่วมมือด้านการท่องเที่ยวร่วมกันในลักษณะ Single Packaging Destination ตามโครงการ Amazing Thailand และ Wonder of Wealth (WOW) Philippines ซึ่งไทยได้รับการยอมรับจากนานาชาติว่า เป็นแหล่งท่องเที่ยวที่สวยงาม และประสบความสำเร็จอย่างสูงในการรณรงค์และส่งเสริมด้านการท่องเที่ยว และเพื่อเป็นการส่งเสริมความร่วมมือการท่องเที่ยวให้เพิ่มมากขึ้น นายกรัฐมนตรี ได้กล่าว่า Code Sharing เป็นวิธีหนึ่งการที่จะช่วยเพิ่มจำนวนที่นั่งระหว่างสายการบินทั้งสองฝ่าย รวมทั้งขอให้ฟิลิปปินส์ พิจารณาปรับปรุงความตกลงทางการบินให้เปิดเสรีระหว่างกันมากยิ่งขึ้น ซึ่งประธานาธิบดีฟิลิปปินส์ ได้เห็นพ้องและจะมอบหมายให้เจ้าหน้าที่พิจารณาในรายละเอียดต่อไป
สำหรับความร่วมมือด้านการค้า นายกรัฐมนตรี ได้กล่าวว่า ไทยและฟิลิปปินส์ต่างสามารถผนวกความเข้มแข็ง จุดเด่นทางเศรษฐกิจ เพื่อขยายการค้าและการลงทุนระหว่างกันได้ โดยเฉพาะการส่งเสริมการค้าระหว่างกันภายใต้รูปแบบการค้าระบบหักบัญชี (Account Trade) ในโอกาสนี้ ประธานาธิบดีฟิลิปปินส์ ได้กล่าวสนับสนุนแนวความคิดและรูปแบบการดำเนินงานดังกล่าว โดยกล่าวว่า ปัจจุบันฟิลิปปินส์ได้มีการนำเข้าข้าวจากประเทศไทย ขณะเดียวกันฟิลิปปินส์ก็ส่งออกปุ๋ยให้ไทย ทั้งนี้ ไทยและฟิลิปปินส์ อาจพิจารณาการค้าสินค้าทั้งสองชนิดผ่านระบบการการค้าแบบหักบัญชี โดยฟิลิปปินส์จะได้เร่งให้ธนาคารตัวแทนประสานงานกับธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าของไทยต่อไป
ในโอกาสนี้ ประธานาธิบดีแห่งสาธารณรัฐฟิลิปปินส์ ยังได้แสดงความยินดีที่ทราบว่า ความร่วมมือในการปราบปรามอาชญากรรม ระหว่างไทยและสาธารณรัฐฟิลิปปินส์ ได้ขยายขอบเขตมากยิ่งขึ้น โดยทั้งสองประเทศ จะได้มีการแลกเปลี่ยนสัตยาบันสารของสนธิสัญญาว่าด้วยการโอนตัวผู้ต้องคำพิพากษาและความร่วมมือในการบังคับให้เป็นไปตามคำพิพากษาในคดีอาญาระหว่างไทยกับฟิลิปปินส์ (The Exchange of Instruments of Ratification of the Treaty on the Transfer of Sentenced Persons and on Co-operation in the Enforcement of the Penal Sentences) รวมถึงความร่วมมือด้านการเมืองและความมั่นคง ความร่วมมือในการต่อต้านการก่อการร้าย โดยจะร่วมมือกันทั้งภายใต้กรอบทวิภาคีและอาเซียน ไทยพร้อมที่จะภาคยานุวัตรความตกลงแลกเปลี่ยนข่าวสาร และการจัดตั้งแนวทางในการติดต่อสื่อสาร (Agreement on Exchange of Information and Establishment of Communication Procedures) ซึ่งเพิ่งได้มีการลงนามในวันนี้ระหว่างฟิลิปปินส์ มาเลเซียและอินโดนีเซีย
ประธานาธิบดี ยังได้กล่าวขอบคุณรัฐบาลไทยที่ให้การดูแลแรงงานฟิลิปปินส์ ที่เข้ามาทำงานในไทยเป็นอย่างดี นอกจากนี้ ทั้งสองประเทศ ยังเห็นพ้องกันในการสนับสนุนความร่วมมือในการพัฒนาและวิจัยการเกษตร เทคโนโลยีและการสื่อสารร่วมกัน และในโอกาสนี้ นายกรัฐมนตรี ยังยืนยันท่าทีของไทยในการให้ความสนับสนุนผู้แทนของฟิลิปปินส์ ในการสมัครรับเลือกตั้งในคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ
ฝ่ายสื่อมวลชนสัมพันธ์ สำนักโฆษก โทรภายใน 8055 โทร 0 2629 9292, 0 2629 9491 โทรสาร 0 2281 4450--จบ--
-สส-