เมื่อวันที่ 13 พฤษภาคม 2545 เวลา 15.00 น. ตามเวลาท้องถิ่น ณ โรงแรมดอร์เชสเตอร์ (Dorchester) กรุงลอนดอน สหราชอาณาจักร พ.ต.ท. ทักษิณ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ได้แถลงผลการเข้าเฝ้า ฯ เดอะ ดุ๊ก ออฟ เอดินเบริ์ก (The Duke of Edinburgh) ณ พระราชวังบัคกิ้งแฮม และการหารือกับนายโทนี่ แบลร์ (Mr. Tony Blair) นายกรัฐมนตรีแห่งสหราชอาณาจักร ณ เลขที่ 10 Downing Street สรุปได้ดังนี้
นายกรัฐมนตรีได้กล่าวถึงการเข้าเฝ้า ฯ The Duke of Edinburgh ณ พระราชวัง บัคกิ้งแฮมว่า The Duke of Edinburgh ได้เล่าถึงประสบการณ์ที่ได้เสด็จมาเยือนประเทศไทยหลายครั้ง และได้เยี่ยมชมโครงการของสมเด็จพระนางเจ้า ฯ พระบรมราชินีนาถ ซึ่งมีโครงการที่น่าสนใจหลาย โครงการ เช่น โครงการปล่อยช้างเข้าป่า นายกรัฐมนตรียังได้กล่าวเสริมว่า นอกจากการปล่อยช้างเข้าป่าแล้ว ยังได้มีการติดตามการดำรงชีวิตของช้างในป่าอีกด้วย เพื่อให้มั่นใจว่าช้างสามารถดำรงชีวิตอยู่ได้อย่างปลอดภัย นอกจากนี้ ยังได้มีการแลกเปลี่ยนความคิดเห็นเกี่ยวกับการแก้ไขปัญหายาเสพติดและป่าไม้ด้วย
ในการหารือข้อราชการกับนายกรัฐมนตรีแห่งสหราชอาณาจักร ณ เลขที่ 10 Downing Street นายกรัฐมนตรีได้กล่าวว่า ได้มีการหารือเพื่อเสริมสร้างและกระชับความสัมพันธ์ระหว่างไทยและสหราชอาณาจักร โดยเฉพาะความร่วมมือด้านเศรษฐกิจและความมั่นคง ซึ่งนายกรัฐมนตรีได้เสนอให้สหราชอาณาจักรเข้ามามีบทบาทในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ให้มากขึ้น โดยพิจารณาให้ไทยเป็นศูนย์กลางทางการค้าและการลงทุน (Hub) เนื่องจากไทยและสหราชอาณาจักรมีความสัมพันธ์ที่แนบแน่น มานานและเพื่อประโยชน์ร่วมกันของทั้งสองประเทศ โดยความร่วมมือดังกล่าวนี้จะเน้นการเป็นหุ้นส่วนทางยุทธศาสตร์ระหว่างกัน นอกจากนี้ นายกรัฐมนตรียังกล่าวว่า ประเทศไทยจะได้จัดให้มีการประชุมความร่วมมือในภูมิภาคเอเชีย (Asia Cooperation Dialogue ) เพื่อเสริมสร้างความร่วมมือของประเทศต่างๆ ร่วมกัน รวมถึงการจัดตั้งเขตการค้าเสรี (Free Trade Area) ระหว่างไทยกับประเทศอื่นๆ เช่น จีน และอินเดีย ซึ่งจะช่วยสนับสนุนการลงทุนของสหราชอาณาจักรในประเทศไทย
นอกจากนี้ ทั้งสองฝ่ายยังได้มีการหารือในเรื่องความร่วมมือต่อต้านการก่อการร้ายและการฟื้นฟูในอัฟกานิสถาน ซึ่งไทยยินดีที่จะให้ความร่วมมือด้านโครงการปลูกพืชทดแทนในอัฟกานิสถาน ซึ่งฝ่ายสหราชอาณาจักรได้ให้ความสนใจเป็นอย่างมาก และในโอกาสนี้ นายกรัฐมนตรียังได้กล่าวให้ความมั่นใจต่อนายกรัฐมนตรีแห่งสหราชอาณาจักรเกี่ยวกับความมั่นคงทางการเมืองและเศรษฐกิจของไทยว่าจะสร้างผลตอบแทนที่ดีต่อการลงทุนของสหราชอาณาจักร และในการนี้ ได้มีการออกแถลงการณ์ร่วมระหว่างไทยและสหราชอาณาจักร ( Joint Statement) โดยเน้นถึงความสำคัญของความร่วมมือด้านความมั่นคงและการแลกเปลี่ยนด้านการศึกษา ความสัมพันธ์ทางด้านเศรษฐกิจ โดยจะดำเนินการในลักษณะการค้าต่างตอบแทน
ในตอนท้าย นายกรัฐมนตรียังได้กล่าวถึงการพบปะกับลอร์ด แมร์ ออฟ ลอนดอน (Lord Mayor of London) ในระหว่างงานเลี้ยงอาหารกลางวัน ณ แมนชั่น เฮ้าส์ (Mansion House) โดยลอร์ด แมร์ ได้แสดงความสนใจในการจัดตั้งกองทุน Matching Fund ของไทย ซึ่งอุตสาหกรรมที่ได้รับความสนใจเข้ามาลงทุนได้แก่ อุตสาหกรรมยานยนต์ การแปรรูปอาหาร เป็นต้น
ฝ่ายสื่อมวลชนสัมพันธ์ สำนักโฆษก โทรภายใน 8055 โทร 0 2629 9292, 0 2629 9491 โทรสาร 0 2281 4450--จบ--
-สส-
นายกรัฐมนตรีได้กล่าวถึงการเข้าเฝ้า ฯ The Duke of Edinburgh ณ พระราชวัง บัคกิ้งแฮมว่า The Duke of Edinburgh ได้เล่าถึงประสบการณ์ที่ได้เสด็จมาเยือนประเทศไทยหลายครั้ง และได้เยี่ยมชมโครงการของสมเด็จพระนางเจ้า ฯ พระบรมราชินีนาถ ซึ่งมีโครงการที่น่าสนใจหลาย โครงการ เช่น โครงการปล่อยช้างเข้าป่า นายกรัฐมนตรียังได้กล่าวเสริมว่า นอกจากการปล่อยช้างเข้าป่าแล้ว ยังได้มีการติดตามการดำรงชีวิตของช้างในป่าอีกด้วย เพื่อให้มั่นใจว่าช้างสามารถดำรงชีวิตอยู่ได้อย่างปลอดภัย นอกจากนี้ ยังได้มีการแลกเปลี่ยนความคิดเห็นเกี่ยวกับการแก้ไขปัญหายาเสพติดและป่าไม้ด้วย
ในการหารือข้อราชการกับนายกรัฐมนตรีแห่งสหราชอาณาจักร ณ เลขที่ 10 Downing Street นายกรัฐมนตรีได้กล่าวว่า ได้มีการหารือเพื่อเสริมสร้างและกระชับความสัมพันธ์ระหว่างไทยและสหราชอาณาจักร โดยเฉพาะความร่วมมือด้านเศรษฐกิจและความมั่นคง ซึ่งนายกรัฐมนตรีได้เสนอให้สหราชอาณาจักรเข้ามามีบทบาทในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ให้มากขึ้น โดยพิจารณาให้ไทยเป็นศูนย์กลางทางการค้าและการลงทุน (Hub) เนื่องจากไทยและสหราชอาณาจักรมีความสัมพันธ์ที่แนบแน่น มานานและเพื่อประโยชน์ร่วมกันของทั้งสองประเทศ โดยความร่วมมือดังกล่าวนี้จะเน้นการเป็นหุ้นส่วนทางยุทธศาสตร์ระหว่างกัน นอกจากนี้ นายกรัฐมนตรียังกล่าวว่า ประเทศไทยจะได้จัดให้มีการประชุมความร่วมมือในภูมิภาคเอเชีย (Asia Cooperation Dialogue ) เพื่อเสริมสร้างความร่วมมือของประเทศต่างๆ ร่วมกัน รวมถึงการจัดตั้งเขตการค้าเสรี (Free Trade Area) ระหว่างไทยกับประเทศอื่นๆ เช่น จีน และอินเดีย ซึ่งจะช่วยสนับสนุนการลงทุนของสหราชอาณาจักรในประเทศไทย
นอกจากนี้ ทั้งสองฝ่ายยังได้มีการหารือในเรื่องความร่วมมือต่อต้านการก่อการร้ายและการฟื้นฟูในอัฟกานิสถาน ซึ่งไทยยินดีที่จะให้ความร่วมมือด้านโครงการปลูกพืชทดแทนในอัฟกานิสถาน ซึ่งฝ่ายสหราชอาณาจักรได้ให้ความสนใจเป็นอย่างมาก และในโอกาสนี้ นายกรัฐมนตรียังได้กล่าวให้ความมั่นใจต่อนายกรัฐมนตรีแห่งสหราชอาณาจักรเกี่ยวกับความมั่นคงทางการเมืองและเศรษฐกิจของไทยว่าจะสร้างผลตอบแทนที่ดีต่อการลงทุนของสหราชอาณาจักร และในการนี้ ได้มีการออกแถลงการณ์ร่วมระหว่างไทยและสหราชอาณาจักร ( Joint Statement) โดยเน้นถึงความสำคัญของความร่วมมือด้านความมั่นคงและการแลกเปลี่ยนด้านการศึกษา ความสัมพันธ์ทางด้านเศรษฐกิจ โดยจะดำเนินการในลักษณะการค้าต่างตอบแทน
ในตอนท้าย นายกรัฐมนตรียังได้กล่าวถึงการพบปะกับลอร์ด แมร์ ออฟ ลอนดอน (Lord Mayor of London) ในระหว่างงานเลี้ยงอาหารกลางวัน ณ แมนชั่น เฮ้าส์ (Mansion House) โดยลอร์ด แมร์ ได้แสดงความสนใจในการจัดตั้งกองทุน Matching Fund ของไทย ซึ่งอุตสาหกรรมที่ได้รับความสนใจเข้ามาลงทุนได้แก่ อุตสาหกรรมยานยนต์ การแปรรูปอาหาร เป็นต้น
ฝ่ายสื่อมวลชนสัมพันธ์ สำนักโฆษก โทรภายใน 8055 โทร 0 2629 9292, 0 2629 9491 โทรสาร 0 2281 4450--จบ--
-สส-