ทำเนียบรัฐบาล--14 ก.ย.--บิสนิวส์
วันนี้ (6 ส.ค. 41) เมื่อเวลา 9.30 น. ณ. ห้องสีงาช้าง ตึกไทยคู่ฟ้า ทำเนียบรัฐบาล นางซาราลา มานูรี เฟอร์นันโด (Dr. Sarala Manourie Fernando) เอกอัครราชทูตสาธารณรัฐสังคมนิยมประชาธิปไตยศรีลังกาฯ เข้าเยี่ยมคารวะนายชวน หลีกภัย นายกรัฐมนตรี ในโอกาสที่จะพ้นจากหน้าที่ในประเทศไทย สรุปสาระสำคัญการสนทนาได้ดังนี้
นายกรัฐมนตรี กล่าวแสดงความชื่นชมการปฏิบัติหน้าที่ของเอกอัครราชทูตฯ ในการส่งเสริมความสัมพันธ์ของทั้งสองประเทศ รวมถึงความร่วมมือทางด้านต่างๆ ซึ่งสำเร็จด้วยดีและเป็นไปอย่างต่อเนื่องตลอดระยะเวลาที่ได้ปฏิบัติหน้าที่อยู่ในประเทศไทย พร้อมกับกล่าวว่า ประเทศไทยและศรีลังกามีรากฐานวัฒนธรรมที่คล้ายคลึงกันประกอบกับทั้งสองเป็นประเทศพุทธศาสนา ดังนั้นการพัฒนาความสัมพันธ์จึงเป็นไปอย่างใกล้ชิด รัฐบาลไทยจะยังคงระลึกถึงเอกอัครราชทูตฯในฐานะมิตรที่ดีของไทยเสมอ และหวังว่าเอกอัครราชทูตฯยังคงมีบทบาทในการส่งเสริมความสัมพันธ์ระหว่างไทย-ศรีลังกาต่อไปในอนาคต
ในโอกาสนี้ เอกอัครราชทูตฯ แสดงความขอบคุณรัฐบาลไทยและเจ้าหน้าที่ของรัฐที่ให้ความร่วมมือในการทำงานอย่างดีตลอดระยะเวลาการปฏิบัติหน้าที่ในประเทศไทย ทั้งนี้ ที่ผ่านมาความร่วมมือระหว่างไทยและศรีลังกาทั้งในระดับแบบทวิภาคี และพหุภาคีเป็นไปได้ด้วยดี โดยเฉพาะอย่างยิ่ง โครงการ BIMST-EC ซึ่งเป็นการร่วมมือทางเศรษฐกิจของกลุ่มประเทศเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และเอเชียใต้
ในตอนท้าย นายกรัฐมนตรี กล่าวอวยพรให้เอกอัครราชทูตฯประสบกับความสำเร็จในการปฏิบัติหน้าที่ในอนาคตพร้อมกันนี้ ได้ฝากความระลึกถึงประธานาธิบดี และนายกรัฐมนตรีของศรีลังกามา ณ ที่นี้ด้วย
ต่อมาใน เวลา 10.00 น. ณ. ห้องสีงาช้าง ตึกไทยคู่ฟ้า ทำเนียบรัฐบาล นายรี ซัม โร (Mr. Ri Sam Ro) เอกอัครราชทูตเกาหลีเหนือประจำประเทศไทย เข้าเยี่ยมคารวะ นายชวน หลีกภัย นายกรัฐมนตรี ในโอกาสที่จะพ้นจากหน้าที่ในประเทศไทย สรุปสาระสำคัญของการสนทนาได้ดังนี้
นายกรัฐมนตรี กล่าวชื่นชมบทบาทของเอกอัครราชทูตฯ ตลอดระยะเวลาที่ดำรงตำแหน่งในประเทศไทยที่มีส่วนสำคัญในการส่งเสริมความสัมพันธ์ระหว่างไทยและเกาหลีเหนือ ในส่วนของรัฐบาลไทยมีความพอใจที่ความสัมพันธ์ของทั้งสองประเทศในช่วงที่ผ่านมาดำเนินไปอย่างราบรื่น และหวังว่าจะพัฒนาความสัมพันธ์ต่อไปในอนาคต ในโอกาสนี้ นายกรัฐมนตรีได้แสดงความเป็นห่วงต่อภัยธรรมชาติในเกาหลีเหนือ ซึ่งส่งผลกระทบต่อประชาชนรวมถึงผลผลิตทางการเกษตร โดยหวังว่า เกาหลีเหนือจะสามารถแก้ไขสถานการณ์เหล่านี้ได้ โดยเร็ว ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรียังได้กล่าวว่า ในส่วนของรัฐบาลไทยมีความยินดีและพร้อมที่จะให้ความร่วมมือกับเกาหลีเหนือในการบรรเทาปัญหาดังกล่าว ถึงแม้ว่าในขณะนี้ ประเทศในภูมิภาคนี้จะประสบกับวิกฤตการณ์ทางเศรษฐกิจ อย่างไรก็ดี เราควรที่จะดูแลซึ่งกันและกันในฐานะที่เป็นมิตรประเทศที่อยู่ในภูมิภาคเดียวกัน ซึ่งกระทรวงการต่างประเทศจะทำการประสานงานในเรื่องนี้ต่อไป
ในโอกาสนี้ เอกอัครราชทูตฯ ได้แสดงความขอบคุณนายกรัฐมนตรีและรัฐบาลไทยที่ได้ความร่วมมือมาอย่างดีตลอดระยะเวลาที่ได้ปฏิบัติหน้าที่ในประเทศไทย โดยในช่วงที่ผ่านมาความสัมพันธ์ของประเทศทั้งสองดำเนินมาอย่างราบรื่น และหวังว่าจะดำเนินไปได้ด้วยดีในอนาคต พร้อมกันนี้ เอกอัครราชทูตฯกล่าวชื่นชมนายกรัฐมนตรีในการทำงานอย่างหนักเพื่อแก้ไขปัญหาของประเทศ และแสดงความเชื่อมั่นว่าประเทศไทยจะสามารถผ่านวิกฤตการณ์ทางเศรษฐกิจได้ในที่สุด
นายกรัฐมนตรี กล่าวอวยพรให้เอกอัครราชทูตเดินทางโดยสวัสดิภาพ และประสบความสำเร็จในการปฏิบัติหน้าที่ในกระทรวงการต่างประเทศ พร้อมกับได้ฝากความปราถนาดีถึง นายคิม จอง อิล ผู้นำสูงสุดของประเทศเกาหลีเหนือ--จบ--
วันนี้ (6 ส.ค. 41) เมื่อเวลา 9.30 น. ณ. ห้องสีงาช้าง ตึกไทยคู่ฟ้า ทำเนียบรัฐบาล นางซาราลา มานูรี เฟอร์นันโด (Dr. Sarala Manourie Fernando) เอกอัครราชทูตสาธารณรัฐสังคมนิยมประชาธิปไตยศรีลังกาฯ เข้าเยี่ยมคารวะนายชวน หลีกภัย นายกรัฐมนตรี ในโอกาสที่จะพ้นจากหน้าที่ในประเทศไทย สรุปสาระสำคัญการสนทนาได้ดังนี้
นายกรัฐมนตรี กล่าวแสดงความชื่นชมการปฏิบัติหน้าที่ของเอกอัครราชทูตฯ ในการส่งเสริมความสัมพันธ์ของทั้งสองประเทศ รวมถึงความร่วมมือทางด้านต่างๆ ซึ่งสำเร็จด้วยดีและเป็นไปอย่างต่อเนื่องตลอดระยะเวลาที่ได้ปฏิบัติหน้าที่อยู่ในประเทศไทย พร้อมกับกล่าวว่า ประเทศไทยและศรีลังกามีรากฐานวัฒนธรรมที่คล้ายคลึงกันประกอบกับทั้งสองเป็นประเทศพุทธศาสนา ดังนั้นการพัฒนาความสัมพันธ์จึงเป็นไปอย่างใกล้ชิด รัฐบาลไทยจะยังคงระลึกถึงเอกอัครราชทูตฯในฐานะมิตรที่ดีของไทยเสมอ และหวังว่าเอกอัครราชทูตฯยังคงมีบทบาทในการส่งเสริมความสัมพันธ์ระหว่างไทย-ศรีลังกาต่อไปในอนาคต
ในโอกาสนี้ เอกอัครราชทูตฯ แสดงความขอบคุณรัฐบาลไทยและเจ้าหน้าที่ของรัฐที่ให้ความร่วมมือในการทำงานอย่างดีตลอดระยะเวลาการปฏิบัติหน้าที่ในประเทศไทย ทั้งนี้ ที่ผ่านมาความร่วมมือระหว่างไทยและศรีลังกาทั้งในระดับแบบทวิภาคี และพหุภาคีเป็นไปได้ด้วยดี โดยเฉพาะอย่างยิ่ง โครงการ BIMST-EC ซึ่งเป็นการร่วมมือทางเศรษฐกิจของกลุ่มประเทศเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และเอเชียใต้
ในตอนท้าย นายกรัฐมนตรี กล่าวอวยพรให้เอกอัครราชทูตฯประสบกับความสำเร็จในการปฏิบัติหน้าที่ในอนาคตพร้อมกันนี้ ได้ฝากความระลึกถึงประธานาธิบดี และนายกรัฐมนตรีของศรีลังกามา ณ ที่นี้ด้วย
ต่อมาใน เวลา 10.00 น. ณ. ห้องสีงาช้าง ตึกไทยคู่ฟ้า ทำเนียบรัฐบาล นายรี ซัม โร (Mr. Ri Sam Ro) เอกอัครราชทูตเกาหลีเหนือประจำประเทศไทย เข้าเยี่ยมคารวะ นายชวน หลีกภัย นายกรัฐมนตรี ในโอกาสที่จะพ้นจากหน้าที่ในประเทศไทย สรุปสาระสำคัญของการสนทนาได้ดังนี้
นายกรัฐมนตรี กล่าวชื่นชมบทบาทของเอกอัครราชทูตฯ ตลอดระยะเวลาที่ดำรงตำแหน่งในประเทศไทยที่มีส่วนสำคัญในการส่งเสริมความสัมพันธ์ระหว่างไทยและเกาหลีเหนือ ในส่วนของรัฐบาลไทยมีความพอใจที่ความสัมพันธ์ของทั้งสองประเทศในช่วงที่ผ่านมาดำเนินไปอย่างราบรื่น และหวังว่าจะพัฒนาความสัมพันธ์ต่อไปในอนาคต ในโอกาสนี้ นายกรัฐมนตรีได้แสดงความเป็นห่วงต่อภัยธรรมชาติในเกาหลีเหนือ ซึ่งส่งผลกระทบต่อประชาชนรวมถึงผลผลิตทางการเกษตร โดยหวังว่า เกาหลีเหนือจะสามารถแก้ไขสถานการณ์เหล่านี้ได้ โดยเร็ว ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรียังได้กล่าวว่า ในส่วนของรัฐบาลไทยมีความยินดีและพร้อมที่จะให้ความร่วมมือกับเกาหลีเหนือในการบรรเทาปัญหาดังกล่าว ถึงแม้ว่าในขณะนี้ ประเทศในภูมิภาคนี้จะประสบกับวิกฤตการณ์ทางเศรษฐกิจ อย่างไรก็ดี เราควรที่จะดูแลซึ่งกันและกันในฐานะที่เป็นมิตรประเทศที่อยู่ในภูมิภาคเดียวกัน ซึ่งกระทรวงการต่างประเทศจะทำการประสานงานในเรื่องนี้ต่อไป
ในโอกาสนี้ เอกอัครราชทูตฯ ได้แสดงความขอบคุณนายกรัฐมนตรีและรัฐบาลไทยที่ได้ความร่วมมือมาอย่างดีตลอดระยะเวลาที่ได้ปฏิบัติหน้าที่ในประเทศไทย โดยในช่วงที่ผ่านมาความสัมพันธ์ของประเทศทั้งสองดำเนินมาอย่างราบรื่น และหวังว่าจะดำเนินไปได้ด้วยดีในอนาคต พร้อมกันนี้ เอกอัครราชทูตฯกล่าวชื่นชมนายกรัฐมนตรีในการทำงานอย่างหนักเพื่อแก้ไขปัญหาของประเทศ และแสดงความเชื่อมั่นว่าประเทศไทยจะสามารถผ่านวิกฤตการณ์ทางเศรษฐกิจได้ในที่สุด
นายกรัฐมนตรี กล่าวอวยพรให้เอกอัครราชทูตเดินทางโดยสวัสดิภาพ และประสบความสำเร็จในการปฏิบัติหน้าที่ในกระทรวงการต่างประเทศ พร้อมกับได้ฝากความปราถนาดีถึง นายคิม จอง อิล ผู้นำสูงสุดของประเทศเกาหลีเหนือ--จบ--