ทำเนียบรัฐบาล--20 ก.พ.--บิสนิวส์
วันที่ 16 กุมภาพันธ์ 2541 เวลา 14.00 น. ณ ห้องประชุม 1 ชั้น 2 สำนักงานคณะกรรมการข้าราชการพลเรือน (ก.พ.) นายพิชัย รัตตกุล รองนายกรัฐมนตรี เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการปฏิรูประบบราชการ (ปรร.) ครั้งที่ 2/2541 ร่วมด้วยนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี รองประธาน ปรร. เพื่อการดำเนินการตามแผนปฏิรูประบบราชการมีประสิทธิภาพสูงสุด สรุปสาระสำคัญดังนี้
ที่ประชุมมีมติเรื่องมาตรการลดขนาดกำลังคนของหน่วยงานของรัฐ ตามแผนแม่บทการปฏิรูประบบราชการ (พ.ศ. 2540 - พ.ศ. 2544) เพื่อลดอัตรากำลังคน และหรือ เพิ่มความสามารถของกำลังคนของหน่วยงานของรัฐ โดยให้ยุบตำแหน่งที่ว่างลงเพราะการเกษียณอายุไม่ต่ำกว่า ร้อยละ 80 และให้คงไว้ไม่เกินร้อยละ 20 ส่วนตำแหน่งงานที่ว่าง (มีเงิน) ซึ่งไม่ได้เกิดจากการเกษียณอายุ ให้หามาตรการเสนอแรงจูงใจ เพื่อสนับสนุนให้เกิดการลดอัตรากำลังคน พร้อมทั้งมอบหมายให้ ก.พ. สำนักงบประมาณ และกระทรวงการคลัง ร่วมกันพิจารณากลไกเกลี่ยกระจายอัตราให้สอดคล้องกับภารกิจที่จะเปลี่ยนแปลงไป เพื่อให้การดำเนินการของรัฐมีประสิทธิภาพสูงสุด
สำหรับการดำเนินการตามแผนแม่บทการปฏิรูประบบราชการในส่วนของการจัดกลุ่มภารกิจของรัฐ นั้น อยู่ระหว่างการดำเนินการจัดกลุ่มตามแนวทางหรือภารกิจที่ควรจะเป็นหน้าที่ของหน่วยงาน 6 หน่วยงาน ได้แก่ ส่วนราชการ รัฐวิสาหกิจ องค์กรมหาชนอิสระ เอกชน องค์กรท้องถิ่น และองค์กรประชาชน เฉพาะอย่างยิ่งองค์กรมหาชนอิสระ ที่ประชุมรับทราบเรื่องร่างพระราชบัญญัติองค์กรมหาชนอิสระ พ.ศ. .... ซึ่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฏีกาได้พิจารณาปรับปรุงชื่อถ้อยคำในร่างพระราชบัญญัติดังกล่าว และแจ้งผลการพิจารณาต่อสำนักเลขาธิการรัฐมนตรีทราบแล้ว โดยจะเสนอคณะรัฐมนตรีให้พิจารณาต่อไป ทั้งนี้ พระราชบัญญัติดังกล่าว มีเป้าหมายหลักที่จะตั้งหน่วยงานเพื่อบริการสาธารณะที่เป็นอิสระภายใต้ระบบการบริหารใหม่ ซึ่งแตกต่างจากระบบราชการและรัฐวิสาหกิจ โดยจะมีภารกิจเฉพาะและมีการจ้างผู้บริหารมืออาชีพให้ดำเนินงานอย่างมีประสิทธิภาพ ภายใต้งบประมาณที่เหมาะสม
นอกจากนี้ที่ประชุมเห็นชอบเรื่องการแต่งตั้งคณะอนุกรรมการปรับปรุงกลไกและวิธีการบริหารงบประมาณแผ่นดิน โดยให้ ม.ร.ว. จตุมงคล โศณกุล เป็นประธาน มีหน้าที่ศึกษา วิเคราะห์ และจัดทำข้อเสนอแนะในการปรับปรุงกลไกและวิธีการบริหารงบประมาณแผ่นดินเพื่อให้สามารถตอบสนองต่อเป้าหมายในการพัฒนาประเทศได้อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด--จบ--
วันที่ 16 กุมภาพันธ์ 2541 เวลา 14.00 น. ณ ห้องประชุม 1 ชั้น 2 สำนักงานคณะกรรมการข้าราชการพลเรือน (ก.พ.) นายพิชัย รัตตกุล รองนายกรัฐมนตรี เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการปฏิรูประบบราชการ (ปรร.) ครั้งที่ 2/2541 ร่วมด้วยนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี รองประธาน ปรร. เพื่อการดำเนินการตามแผนปฏิรูประบบราชการมีประสิทธิภาพสูงสุด สรุปสาระสำคัญดังนี้
ที่ประชุมมีมติเรื่องมาตรการลดขนาดกำลังคนของหน่วยงานของรัฐ ตามแผนแม่บทการปฏิรูประบบราชการ (พ.ศ. 2540 - พ.ศ. 2544) เพื่อลดอัตรากำลังคน และหรือ เพิ่มความสามารถของกำลังคนของหน่วยงานของรัฐ โดยให้ยุบตำแหน่งที่ว่างลงเพราะการเกษียณอายุไม่ต่ำกว่า ร้อยละ 80 และให้คงไว้ไม่เกินร้อยละ 20 ส่วนตำแหน่งงานที่ว่าง (มีเงิน) ซึ่งไม่ได้เกิดจากการเกษียณอายุ ให้หามาตรการเสนอแรงจูงใจ เพื่อสนับสนุนให้เกิดการลดอัตรากำลังคน พร้อมทั้งมอบหมายให้ ก.พ. สำนักงบประมาณ และกระทรวงการคลัง ร่วมกันพิจารณากลไกเกลี่ยกระจายอัตราให้สอดคล้องกับภารกิจที่จะเปลี่ยนแปลงไป เพื่อให้การดำเนินการของรัฐมีประสิทธิภาพสูงสุด
สำหรับการดำเนินการตามแผนแม่บทการปฏิรูประบบราชการในส่วนของการจัดกลุ่มภารกิจของรัฐ นั้น อยู่ระหว่างการดำเนินการจัดกลุ่มตามแนวทางหรือภารกิจที่ควรจะเป็นหน้าที่ของหน่วยงาน 6 หน่วยงาน ได้แก่ ส่วนราชการ รัฐวิสาหกิจ องค์กรมหาชนอิสระ เอกชน องค์กรท้องถิ่น และองค์กรประชาชน เฉพาะอย่างยิ่งองค์กรมหาชนอิสระ ที่ประชุมรับทราบเรื่องร่างพระราชบัญญัติองค์กรมหาชนอิสระ พ.ศ. .... ซึ่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฏีกาได้พิจารณาปรับปรุงชื่อถ้อยคำในร่างพระราชบัญญัติดังกล่าว และแจ้งผลการพิจารณาต่อสำนักเลขาธิการรัฐมนตรีทราบแล้ว โดยจะเสนอคณะรัฐมนตรีให้พิจารณาต่อไป ทั้งนี้ พระราชบัญญัติดังกล่าว มีเป้าหมายหลักที่จะตั้งหน่วยงานเพื่อบริการสาธารณะที่เป็นอิสระภายใต้ระบบการบริหารใหม่ ซึ่งแตกต่างจากระบบราชการและรัฐวิสาหกิจ โดยจะมีภารกิจเฉพาะและมีการจ้างผู้บริหารมืออาชีพให้ดำเนินงานอย่างมีประสิทธิภาพ ภายใต้งบประมาณที่เหมาะสม
นอกจากนี้ที่ประชุมเห็นชอบเรื่องการแต่งตั้งคณะอนุกรรมการปรับปรุงกลไกและวิธีการบริหารงบประมาณแผ่นดิน โดยให้ ม.ร.ว. จตุมงคล โศณกุล เป็นประธาน มีหน้าที่ศึกษา วิเคราะห์ และจัดทำข้อเสนอแนะในการปรับปรุงกลไกและวิธีการบริหารงบประมาณแผ่นดินเพื่อให้สามารถตอบสนองต่อเป้าหมายในการพัฒนาประเทศได้อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด--จบ--