ทำเนียบรัฐาบาล--18 พ.ค.--บิสนิวส์
วันนี้ เวลา 14.00 น. ณ ตึกสันติไมตรี ทำเนียบรัฐบาล นายชวน หลีกภัย นายกรัฐมนตรีได้เป็นประธานในพิธีมอบประกาศนียบัตรและเข็มเครื่องหมายวิทยาฐานะนักบริหารระดับสูงแก่ผู้ผ่านการฝึกอบรมหลักสูตรนักบริหารระดับสูงหลักสูตรที่ 1 (นบส.1) รุ่นที่ 23 รุ่นที่ 24 และรุ่นที่ 25 ของวิทยาลัยนักบริหาร สถาบันพัฒนาข้าราชการพลเรือน สำนักงาน ก.พ.จำนวน 126 คน ในโอกาสเดียวกันนี้ได้มีการมอบเข็มเครื่องหมายวิทยฐานะนักบริหารระดับสูงกิตติมศักดิ์ ให้แก่คณะกรรมการวิทยาลัยนักบริหารผู้อุปการคุณวิทยาลัยนักบริหาร รวมทั้งมอบรางวัลให้แก่กลุ่มบุคคลและบุคคลที่รายงานการศึกษาเชิงวิจัยด้านการบริหารดีเด่นด้วย
ภายหลังพิธีนายกรัฐมนตรีได้กล่าวให้โอวาทโดยสรุปว่า ข้าราชการที่เป็นนักบริหารระดับสูงเป็นผู้ที่มีความรู้ ความสามารถสูง มีประสบการณ์ มีทักษะ และควรมีวิสัยทัศน์ที่กว้างไกล และเป็นผู้ที่มีหน้าที่รับผิดชอบสูงทั้งในด้านการกำหนดนโยบาย ดูแลกำกับนโยบายและการทำงานของส่วนราชการ รวมทั้งต้องแก้ไขปัญหาและตัดสินใจในเรื่องที่มีผลต่อความสำเร็จขององค์กร จึงอาจกล่าวได้ว่านักบริหารระดับสูงเป็นผู้ที่มีบทบาทสำคัญและเป็นผู้นำการเปลี่ยนแปลงขององค์กร แต่โดยที่ปัญหาทางเศรษฐกิจ สังคมในปัจจุบันส่งผลกระทบอย่างรุนแรงต่อวิถีชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชน จึงขอฝากให้ความร่วมมือกับรัฐบาลในการแก้ไขปัญหา 3 ประการ คือ
ประการแรก ขอให้ตระหนักถึงปัญหาที่แท้จริงที่ประเทศชาติกำลังเผชิญอยู่ ระมัดระวังไม่ให้มีการเพิ่มค่าใช้จ่ายด้านบุคคล ถ้าเป็นไปได้ขอให้หาทางลดลง
ประการที่สอง ขอให้ปรับเปลี่ยนกระบวนทัศน์ในการบริหารราชการจากการพยายามทำงานทุกอย่างให้มากที่สุดในขอบข่ายที่กว้างขวางที่สุด เปลี่ยนเป็นพยายามตัดทอน ยกเลิก หรือลดบทบาทภารกิจของงานราชการที่มีความซ้ำซ้อน ไม่คุ้มค่าหรือไม่ควรทำ ให้เหลือน้อยที่สุดเท่าที่ทางราชการจำเป็นจะต้องทำ
ประการที่สาม ขอให้ทุกคนพยายามลดตุ้นทุนค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานด้วยการทบทวนขั้นตอนและกระบวนการทำงานให้เหลือสั้นที่สุดเท่าที่จำเป็น ลดการใช้วัสดุ อุปกรณ์ และสิ่งพิมพ์ต่าง ๆ รวมทั้งค่าใช้จ่ายด้านสาธารณูปโภคต่าง ๆ โดยเฉพาะการประหยัดค่าใช้จ่ายด้านพลังงาน
นายกรัฐมนตรีกล่าวเพิ่มเติมว่านักบริหารระดับสูงจะต้องเป็นผู้นำการสร้างความเข้าใจและจิตสำนึกที่ถูกต้องในการปฎิบัติราชการ รวมทั้งดูแลรักษาขวัญและกำลังใจของผู้ใต้บังคับบัญชา และบริหารการทำงานภายใต้ข้อจำกัดต่าง ๆ ให้เกิดประสิทธิภาพมากที่สุดเท่าที่จะทำได้ นายกรัฐมนตรีกล่าวในที่สุด--จบ--
วันนี้ เวลา 14.00 น. ณ ตึกสันติไมตรี ทำเนียบรัฐบาล นายชวน หลีกภัย นายกรัฐมนตรีได้เป็นประธานในพิธีมอบประกาศนียบัตรและเข็มเครื่องหมายวิทยาฐานะนักบริหารระดับสูงแก่ผู้ผ่านการฝึกอบรมหลักสูตรนักบริหารระดับสูงหลักสูตรที่ 1 (นบส.1) รุ่นที่ 23 รุ่นที่ 24 และรุ่นที่ 25 ของวิทยาลัยนักบริหาร สถาบันพัฒนาข้าราชการพลเรือน สำนักงาน ก.พ.จำนวน 126 คน ในโอกาสเดียวกันนี้ได้มีการมอบเข็มเครื่องหมายวิทยฐานะนักบริหารระดับสูงกิตติมศักดิ์ ให้แก่คณะกรรมการวิทยาลัยนักบริหารผู้อุปการคุณวิทยาลัยนักบริหาร รวมทั้งมอบรางวัลให้แก่กลุ่มบุคคลและบุคคลที่รายงานการศึกษาเชิงวิจัยด้านการบริหารดีเด่นด้วย
ภายหลังพิธีนายกรัฐมนตรีได้กล่าวให้โอวาทโดยสรุปว่า ข้าราชการที่เป็นนักบริหารระดับสูงเป็นผู้ที่มีความรู้ ความสามารถสูง มีประสบการณ์ มีทักษะ และควรมีวิสัยทัศน์ที่กว้างไกล และเป็นผู้ที่มีหน้าที่รับผิดชอบสูงทั้งในด้านการกำหนดนโยบาย ดูแลกำกับนโยบายและการทำงานของส่วนราชการ รวมทั้งต้องแก้ไขปัญหาและตัดสินใจในเรื่องที่มีผลต่อความสำเร็จขององค์กร จึงอาจกล่าวได้ว่านักบริหารระดับสูงเป็นผู้ที่มีบทบาทสำคัญและเป็นผู้นำการเปลี่ยนแปลงขององค์กร แต่โดยที่ปัญหาทางเศรษฐกิจ สังคมในปัจจุบันส่งผลกระทบอย่างรุนแรงต่อวิถีชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชน จึงขอฝากให้ความร่วมมือกับรัฐบาลในการแก้ไขปัญหา 3 ประการ คือ
ประการแรก ขอให้ตระหนักถึงปัญหาที่แท้จริงที่ประเทศชาติกำลังเผชิญอยู่ ระมัดระวังไม่ให้มีการเพิ่มค่าใช้จ่ายด้านบุคคล ถ้าเป็นไปได้ขอให้หาทางลดลง
ประการที่สอง ขอให้ปรับเปลี่ยนกระบวนทัศน์ในการบริหารราชการจากการพยายามทำงานทุกอย่างให้มากที่สุดในขอบข่ายที่กว้างขวางที่สุด เปลี่ยนเป็นพยายามตัดทอน ยกเลิก หรือลดบทบาทภารกิจของงานราชการที่มีความซ้ำซ้อน ไม่คุ้มค่าหรือไม่ควรทำ ให้เหลือน้อยที่สุดเท่าที่ทางราชการจำเป็นจะต้องทำ
ประการที่สาม ขอให้ทุกคนพยายามลดตุ้นทุนค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานด้วยการทบทวนขั้นตอนและกระบวนการทำงานให้เหลือสั้นที่สุดเท่าที่จำเป็น ลดการใช้วัสดุ อุปกรณ์ และสิ่งพิมพ์ต่าง ๆ รวมทั้งค่าใช้จ่ายด้านสาธารณูปโภคต่าง ๆ โดยเฉพาะการประหยัดค่าใช้จ่ายด้านพลังงาน
นายกรัฐมนตรีกล่าวเพิ่มเติมว่านักบริหารระดับสูงจะต้องเป็นผู้นำการสร้างความเข้าใจและจิตสำนึกที่ถูกต้องในการปฎิบัติราชการ รวมทั้งดูแลรักษาขวัญและกำลังใจของผู้ใต้บังคับบัญชา และบริหารการทำงานภายใต้ข้อจำกัดต่าง ๆ ให้เกิดประสิทธิภาพมากที่สุดเท่าที่จะทำได้ นายกรัฐมนตรีกล่าวในที่สุด--จบ--