ทำเนียบรัฐบาล--2 ก.ย.--บิสนิวส์
วันนี้ (1 ก.ย.) เวลา 14.00 น. ณ.ห้องสีงาช้าง ตึกไทยคู่ฟ้า ทำเนียบรัฐบาล นายซีซาร์ โบติสตา (Mr.Cesar Bautista) รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการค้าและอุตสาหกรรมฟิลิปปินส์ พร้อมด้วยคณะรัฐสภาและนักธุรกิจฟิลิปปินส์ ได้เข้าเยี่ยมคารซะ พลเอกชวลิต ยงใจยุทธ นายกรัฐมนตรี เนื่องในโอกาสเดินทางมาเยือนประเทศไทยและได้ร่วมสนทนาแลกเปลี่ยนข้อคิดเห็นร่วมกันเกี่ยวกับความร่วมมือทางเศรษฐกิจและการค้าการลงทุน ตลอดจนความร่วมมือในกรอบของอาเซียน เอเปค และอาเซ็ม เป็นต้น สรุปสาระสำคัญได้ดังนี้
ทั้งสองฝ่ายต่างแสดงความชื่นชมในความร่วมมืออันดีระหว่างไทยและฟิลิปปินส์โดยเฉพาะในด้านการค้าและการลงทุนซึ่งกำลังดำเนินไปด้วยดีในขณะนี้ ทั้งนี้ ในโอกาสการเดินทางมาเยือนประเทศไทยของคณะรัฐมนตรีกระทรวงการค้าและอุตสาหกรรมฟิลิปปินส์และคณะในครั้งนี้ มีกำหนดการพบปะหารือกับบุคคลในภาคธุรกิจของไทย เพื่อติดตามสถานการณ์ด้านการเงินและแสวงหาลู่ทางในการร่วมมือกันในด้านเศรษฐกิจและการเงิน
ในโอกาสนี้ นายกรัฐมนตรีได้ขอให้ฝ่ายฟิลิปปินส์ร่วมมือในการส่งเสริมการค้าและการส่งออกระหว่างไทยและฟิลิปปินส์ให้ขยายตัวมากขึ้น จากมูลค่า 1.8 พันล้านเหรียญฯ ในปีนี้เป็น 2.4 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ ในปี ค.ศ.2000 (2543) นอกจากนี้ในปัจจุบันประเทศทั้งสองได้พยายามร่วมมือกันในการจัดตั้งคณะกรรมการร่วมทางเศรษฐกิจ เพื่อเป็นกลไกในการส่งเสริมการค้าและการลงทุนระหว่างกันโดยก่อนหน้านี้ทั้งสองฝ่ายได้มีการประชุมและหารือกันมาแล้ว และในปัจจุบันในระหว่างการพิจารณาร่างความตกลงเพื่อจัดตั้งคณะกรรมการดังกล่าว
สำหรับในด้านความร่วมมือระหว่างประเทศไทยและฟิลิปปินส์โดยทั่วไปนั้น ในปัจจุบันประเทศไทยได้ตกลงให้เงินอุดหนุนแก่สถาบันวิจัยข้าวระหว่างประเทศ ณ กรุงมะนิลา เป็นวงเงิน 1 ล้านเปโซ นอกจากนี้ ฟิลิปปินส์ยังได้เชิญประเทศไทยเข้าร่วมงานแสดงสินค้า The Philippines Centennial Exposition ระหว่างเดือนธันวาคม 2540 - สิงหาคม 2541 โดยมีจุดมุ่งหมายสำคัญ เพื่อเป็นการเฉลิมฉลองครบรอบ 100 ปีของการได้รับเอกราชของฟิลิปปินส์
ในกรอบความร่วมมือระดับพหุภาคีนั้น รัฐมนตรีกระทรวงการค้าและอุตสาหกรรมฟิลิปปินส์ได้ให้ความเห็นว่า ประเทศสมาชิกอาเซียนมีความสามารถในการพัฒนากิจการในสาขาธุรกิจขนาดกลาง ซึ่งจะช่วยในการส่งเสริมศักยภาพทางเศรษฐกิจของประเทศสมาชิก อย่างไรก็ตาม ความร่วมมือระหว่างประเทศสมาชิกในการส่งเสริมธุรกิจดังกล่าวยังมีขอบเขตจำกัด ดังนั้นจึงควรหาลู่ทางในการส่งเสริมความร่วมมือกันมากขึ้น สำหรับในด้านวิกฤตการณ์ทางการเงิน ซึ่งประเทศสมาชิกอาเซียนกำลังเผชิญในขณะนี้ นั้น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการค้าและอุตสาหกรรมฟิลิปปินส์เห็นว่า วิกฤตการณ์ดังกล่าวสืบเนื่องจากค่าเงินเหรียญสหรัฐฯ แข็งตัวมากขึ้น อย่างไรก็ตาม ประเทศสมาชิกอาเซียนคงจะสามารถผ่านพ้นวิกฤตการณ์ดังกล่าวไปได้ในที่สุด
ต่อมาในเวลา 14.30 น. ณ.ห้องสีงาช้างตึกไทยคู่ฟ้า ทำเนียบรัฐบาล นายหาน จู้ปิน (Mr.Han Zhubin) รัฐมนตรีกระทรวงรถไฟจีนและคณะได้เข้าเยี่ยมคารวะ พลเอกชวลิต ยงใจยุทธ นายกรัฐมนตรี ในโอกาสเดินทางมาเยือนประเทศไทยและเพื่อร่วมหารือกับรัฐมนตรีกระทรวงคมนาคมเกี่ยวกับความร่วมมือด้านรถไฟ ไทย-จีน โดยในการพบปะดังกล่าวได้มีการหารือร่วมกัน สรุปสาระสำคัญได้ดังนี้
รัฐมนตรีกระทรวงรถไฟจีนแจ้งว่า การเดินทางมาเยือนประเทศไทยครั้งนี้ มีเป้าหมายเพื่อมาสานต่อความร่วมมือด้านการพัฒนากิจการรถไฟระหว่างประเทศทั้งสองให้มีความก้าวหน้ามากขึ้น ภายหลังจากที่ได้มีการหารือกันเมื่อคราวที่นายกรัฐมนตรีและคณะเดินทางไปเยือนจีนเมื่อเดือนเมษายน 2540 ที่ผ่านมา ทั้งนี้ ฝ่ายจีนประสงค์ให้ประเทศไทยให้ความสนับสนุนการจัดสร้างโครงการรถไฟเส้นทางสิงคโปร์-คุนหมิง ซึ่งนายกรัฐมนตรี ได้แจ้งว่า ยินดีให้ความสนับสนุนโครงการดังกล่าว เพราะจะเป็นประโยชน์ในการเชื่อมโยงเครือข่ายเส้นทางรถไฟในภูมิภาคนี้ ทั้งนี้ ทั้งสองฝ่ายได้มอบหมายให้เจ้าหน้าที่ของตนร่วมหารือในรายละเอียดต่อไป อนึ่ง ในปัจจุบันฝ่ยมาเลเซียกำลังเข้ามาทำการศึกษาเพื่อสำรวจความเป็นไปได้ของเส้นทางรถไฟที่จะเชื่อมโยงระหว่างประเทศต่าง ๆ ด้วยวงเงินลงทุนประมาณ 20 ล้านบาท ซึ่งขณะนี้กำลังพิจารณาความเป็นไปได้ใน 3 เส้นทาง ได้แก่ เส้นทางผ่านกัมพูชา-เวียดนาม, เส้นทางผ่านไทย-พม่า และเส้นทางผ่านไทย-ลาว
ในโอกาสนี้ นายกรัฐมนตรียังได้กล่าวฝากความขอบคุณไปยังรัฐบาลจีนที่ได้ให้ความช่วยเหลือทางการเงินแก่ประเทศไทยในรูป Stand-by Credit ในวงเงิน 1 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ ในช่วงที่ประเทศไทยกำลังประสบกับวิกฤตการณ์ทางเศรษฐกิจในขณะนี้--จบ--
วันนี้ (1 ก.ย.) เวลา 14.00 น. ณ.ห้องสีงาช้าง ตึกไทยคู่ฟ้า ทำเนียบรัฐบาล นายซีซาร์ โบติสตา (Mr.Cesar Bautista) รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการค้าและอุตสาหกรรมฟิลิปปินส์ พร้อมด้วยคณะรัฐสภาและนักธุรกิจฟิลิปปินส์ ได้เข้าเยี่ยมคารซะ พลเอกชวลิต ยงใจยุทธ นายกรัฐมนตรี เนื่องในโอกาสเดินทางมาเยือนประเทศไทยและได้ร่วมสนทนาแลกเปลี่ยนข้อคิดเห็นร่วมกันเกี่ยวกับความร่วมมือทางเศรษฐกิจและการค้าการลงทุน ตลอดจนความร่วมมือในกรอบของอาเซียน เอเปค และอาเซ็ม เป็นต้น สรุปสาระสำคัญได้ดังนี้
ทั้งสองฝ่ายต่างแสดงความชื่นชมในความร่วมมืออันดีระหว่างไทยและฟิลิปปินส์โดยเฉพาะในด้านการค้าและการลงทุนซึ่งกำลังดำเนินไปด้วยดีในขณะนี้ ทั้งนี้ ในโอกาสการเดินทางมาเยือนประเทศไทยของคณะรัฐมนตรีกระทรวงการค้าและอุตสาหกรรมฟิลิปปินส์และคณะในครั้งนี้ มีกำหนดการพบปะหารือกับบุคคลในภาคธุรกิจของไทย เพื่อติดตามสถานการณ์ด้านการเงินและแสวงหาลู่ทางในการร่วมมือกันในด้านเศรษฐกิจและการเงิน
ในโอกาสนี้ นายกรัฐมนตรีได้ขอให้ฝ่ายฟิลิปปินส์ร่วมมือในการส่งเสริมการค้าและการส่งออกระหว่างไทยและฟิลิปปินส์ให้ขยายตัวมากขึ้น จากมูลค่า 1.8 พันล้านเหรียญฯ ในปีนี้เป็น 2.4 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ ในปี ค.ศ.2000 (2543) นอกจากนี้ในปัจจุบันประเทศทั้งสองได้พยายามร่วมมือกันในการจัดตั้งคณะกรรมการร่วมทางเศรษฐกิจ เพื่อเป็นกลไกในการส่งเสริมการค้าและการลงทุนระหว่างกันโดยก่อนหน้านี้ทั้งสองฝ่ายได้มีการประชุมและหารือกันมาแล้ว และในปัจจุบันในระหว่างการพิจารณาร่างความตกลงเพื่อจัดตั้งคณะกรรมการดังกล่าว
สำหรับในด้านความร่วมมือระหว่างประเทศไทยและฟิลิปปินส์โดยทั่วไปนั้น ในปัจจุบันประเทศไทยได้ตกลงให้เงินอุดหนุนแก่สถาบันวิจัยข้าวระหว่างประเทศ ณ กรุงมะนิลา เป็นวงเงิน 1 ล้านเปโซ นอกจากนี้ ฟิลิปปินส์ยังได้เชิญประเทศไทยเข้าร่วมงานแสดงสินค้า The Philippines Centennial Exposition ระหว่างเดือนธันวาคม 2540 - สิงหาคม 2541 โดยมีจุดมุ่งหมายสำคัญ เพื่อเป็นการเฉลิมฉลองครบรอบ 100 ปีของการได้รับเอกราชของฟิลิปปินส์
ในกรอบความร่วมมือระดับพหุภาคีนั้น รัฐมนตรีกระทรวงการค้าและอุตสาหกรรมฟิลิปปินส์ได้ให้ความเห็นว่า ประเทศสมาชิกอาเซียนมีความสามารถในการพัฒนากิจการในสาขาธุรกิจขนาดกลาง ซึ่งจะช่วยในการส่งเสริมศักยภาพทางเศรษฐกิจของประเทศสมาชิก อย่างไรก็ตาม ความร่วมมือระหว่างประเทศสมาชิกในการส่งเสริมธุรกิจดังกล่าวยังมีขอบเขตจำกัด ดังนั้นจึงควรหาลู่ทางในการส่งเสริมความร่วมมือกันมากขึ้น สำหรับในด้านวิกฤตการณ์ทางการเงิน ซึ่งประเทศสมาชิกอาเซียนกำลังเผชิญในขณะนี้ นั้น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการค้าและอุตสาหกรรมฟิลิปปินส์เห็นว่า วิกฤตการณ์ดังกล่าวสืบเนื่องจากค่าเงินเหรียญสหรัฐฯ แข็งตัวมากขึ้น อย่างไรก็ตาม ประเทศสมาชิกอาเซียนคงจะสามารถผ่านพ้นวิกฤตการณ์ดังกล่าวไปได้ในที่สุด
ต่อมาในเวลา 14.30 น. ณ.ห้องสีงาช้างตึกไทยคู่ฟ้า ทำเนียบรัฐบาล นายหาน จู้ปิน (Mr.Han Zhubin) รัฐมนตรีกระทรวงรถไฟจีนและคณะได้เข้าเยี่ยมคารวะ พลเอกชวลิต ยงใจยุทธ นายกรัฐมนตรี ในโอกาสเดินทางมาเยือนประเทศไทยและเพื่อร่วมหารือกับรัฐมนตรีกระทรวงคมนาคมเกี่ยวกับความร่วมมือด้านรถไฟ ไทย-จีน โดยในการพบปะดังกล่าวได้มีการหารือร่วมกัน สรุปสาระสำคัญได้ดังนี้
รัฐมนตรีกระทรวงรถไฟจีนแจ้งว่า การเดินทางมาเยือนประเทศไทยครั้งนี้ มีเป้าหมายเพื่อมาสานต่อความร่วมมือด้านการพัฒนากิจการรถไฟระหว่างประเทศทั้งสองให้มีความก้าวหน้ามากขึ้น ภายหลังจากที่ได้มีการหารือกันเมื่อคราวที่นายกรัฐมนตรีและคณะเดินทางไปเยือนจีนเมื่อเดือนเมษายน 2540 ที่ผ่านมา ทั้งนี้ ฝ่ายจีนประสงค์ให้ประเทศไทยให้ความสนับสนุนการจัดสร้างโครงการรถไฟเส้นทางสิงคโปร์-คุนหมิง ซึ่งนายกรัฐมนตรี ได้แจ้งว่า ยินดีให้ความสนับสนุนโครงการดังกล่าว เพราะจะเป็นประโยชน์ในการเชื่อมโยงเครือข่ายเส้นทางรถไฟในภูมิภาคนี้ ทั้งนี้ ทั้งสองฝ่ายได้มอบหมายให้เจ้าหน้าที่ของตนร่วมหารือในรายละเอียดต่อไป อนึ่ง ในปัจจุบันฝ่ยมาเลเซียกำลังเข้ามาทำการศึกษาเพื่อสำรวจความเป็นไปได้ของเส้นทางรถไฟที่จะเชื่อมโยงระหว่างประเทศต่าง ๆ ด้วยวงเงินลงทุนประมาณ 20 ล้านบาท ซึ่งขณะนี้กำลังพิจารณาความเป็นไปได้ใน 3 เส้นทาง ได้แก่ เส้นทางผ่านกัมพูชา-เวียดนาม, เส้นทางผ่านไทย-พม่า และเส้นทางผ่านไทย-ลาว
ในโอกาสนี้ นายกรัฐมนตรียังได้กล่าวฝากความขอบคุณไปยังรัฐบาลจีนที่ได้ให้ความช่วยเหลือทางการเงินแก่ประเทศไทยในรูป Stand-by Credit ในวงเงิน 1 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ ในช่วงที่ประเทศไทยกำลังประสบกับวิกฤตการณ์ทางเศรษฐกิจในขณะนี้--จบ--