หัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติกล่าวแสดงความยินดีที่ได้พบกับเอกอัครราชทูตอินเดียในวันนี้ พร้อมกล่าวชื่นชมประสบการณ์การทำงานของเอกอัครราชทูตอินเดียที่จะช่วยทำให้ไทยและอินเดียสานต่อความสัมพันธ์อันดีระหว่างกันต่อไป ในโอกาสนี้ หัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติและเอกอัครราชทูตอินเดียต่างแสดงความยินดีที่ไทยและอินเดียมีความสัมพันธ์อันดีระหว่างกันมานานกว่า 60 ปี โดยทั้งสองประเทศมีวัฒนธรรม ประเพณี ศาสนาที่คล้ายคลึงกัน นอกจากนี้ ไทยและอินเดียยังมีความร่วมมือระหว่างกันที่ครอบคลุมทุกสาขา ทั้งระดับทวิภาคี ภูมิภาคและระดับพหุภาคี อาทิ ความร่วมมือในกรอบอาเซียน เป็นต้น ความสัมพันธ์ระหว่างประชาชนของทั้งสองประเทศก็เป็นไปอย่างราบรื่น นักท่องเที่ยวชาวอินเดียก็ยังเดินทางมาท่องเที่ยวไทยอย่างต่อเนื่องถึงปีละประมาณ 1 ล้านคน ทั้งสองฝ่ายต่างหวังว่าไทยและอินเดียจะสานต่อความสัมพันธ์อย่างต่อเนื่อง และผลักดันประเด็นต่างๆ ที่ไทยและอินเดียสนใจร่วมกันต่อไป
หัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติได้กล่าวขอบคุณรัฐบาลอินเดียที่เข้าใจสถานการณ์ปัจจุบันของไทย พร้อมชี้แจงถึงสถานการณ์การเมืองไทยช่วงที่ผ่านมา ซึ่งประสบปัญหาความวุ่นวายทางการเมือง มีการใช้อาวุธและความรุนแรงต่อประชาชนผู้บริสุทธิ์ การขับเคลื่อนบริหารราชการของประเทศและการจัดการงบประมาณก็ติดขัดเพราะความขัดแย้งทางการเมือง กองทัพจำเป็นต้องเข้ามาคลี่คลายสถานการณ์ให้สงบลง คณะรักษาความสงบแห่งชาติได้กำหนดแผนปฏิบัติการไว้ 3 ระยะ คือ ระยะแรก ยุติสถานการณ์ที่มีความรุนแรงและสร้างความปรองดอง ระยะที่ 2 จะจัดตั้งรัฐบาลและสภาปฏิรูปเพื่อทำการปฏิรูปประเทศ โดยจะให้ทุกภาคส่วนที่มีส่วนได้ส่วนเสียเข้ามามีส่วนร่วมในกระบวนการปฏิรูปครั้งนี้ด้วย จากนั้นในระยะที่สาม จะดำเนินการเลือกตั้งทั่วไปซึ่งเป็นที่ยอมรับของทุกฝ่าย ทั้งนี้ คณะรักษาความสงบแห่งชาติมีเป้าหมายระยะยาวที่จะทำให้ประเทศไทยมีระบอบประชาธิปไตยที่เข้มแข็งและยั่งยืน เพื่อปูทางไปให้รัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้งซึ่งจะมารับช่วงต่อในปลายปี 2558 ดูแลต่อไป
ในส่วนของความร่วมมือทางด้านความมั่นคง หัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติกล่าวขอบคุณอินเดียที่ได้เรียนเชิญผู้บัญชาการทหารสูงสุดของไทยไปเยือนกองทัพอินเดียอย่างเป็นทางการเมื่อเดือนที่แล้ว พร้อมชื่นชมในศักยถาพทางทหารของอินเดียที่มีความเชี่ยวชาญอย่างมาก ไทยหวังว่าอินเดียจะช่วยส่งเสริมการแลกเปลี่ยนบุคลากรทางทหารของทั้งสองฝ่ายให้มากยิ่งขึ้น ทั้งการฝึกและปฏิบัติการร่วมต่างๆ ทั้งนี้ หัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติและเอกอัครราชทูตอินเดียต่างยืนยันที่จะขยายความสัมพันธ์กับในด้านความมั่นคงและการทหารระหว่างกันต่อไป
ด้านความร่วมมือทางเศรษฐกิจ หัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติเน้นย้ำถึงการส่งเสริมการลงทุนระหว่างไทยและอินเดียให้เพิ่มขึ้น และขอให้ฝ่ายอินเดียแบ่งปันข้อมูลและทุนวิจัยทางด้านวิชาการแก่คนไทยเพิ่มเติมในด้านเทคโนโลยีการผลิตและอุตสาหกรรมซึ่งอินเดียมีความเชี่ยวชาญ ส่วนเรื่องเขตการค้าเสรีไทย – อินเดียนั้น หัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติยืนยันที่จะผลักดันเจรจาความตกลงว่าด้วยเขตการค้าเสรีไทย – อินเดีย ให้สำเร็จ เพราะความตกลงเขตการค้าเสรีดังกล่าวจะช่วยให้ทั้งสองประเทศสามารถส่งเสริมความร่วมมือด้านการค้าระหว่างกันยิ่งขึ้นไป ในโอกาสนี้ หัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติและเอกอัครราชทูตอินเดียยังหารือถึงการพัฒนาความเชื่อมโยงระหว่างไทยและอินเดีย โดยทั้งสองฝ่ายเห็นพ้องกันว่าโครงการถนนสามฝ่าย ไทย – เมียนมาร์ – อินเดีย และโครงการพัฒนาเขตเศรษฐกิจพิเศษทวาย จะช่วยกระตุ้นการแลกเปลี่ยนทางเศรษฐกิจและวัฒนธรรมระหว่างไทยและอินเดียได้เป็นอย่างดี
ที่มา: http://www.thaigov.go.th