วันนี้ (15 ก.ค.57) เวลา 19.15 น. ณ ตึกสันติไมตรี ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา หัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ มอบหมายให้ พล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว รองหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ/หัวหน้าฝ่ายกิจการพิเศษ (รองหัวหน้า คสช./หน.ฝกศ.) เป็นประธานในงานหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติเป็นเจ้าภาพงานเลี้ยงละศีลอดเดือนรอมฎอน ปี ฮ.ศ. 1435 โดยมีนายอาศิส พิทักษ์คุมพล จุฬาราชมนตรี ปลัดกระทรวงปฏิบัติราชการแทนรัฐมนตรี เอกอัครราชทูตประเทศมุสลิมประจำประเทศไทย คณะกรรมการกลางอิสลามแห่งประเทศไทย ผู้แทนองค์กรมุสลิมแห่งประเทศไทย ประธานมูลนิธิ สมาคมการกุศลมุสลิม สื่อมวลชนมุสลิม ประธานกรรมการอิสลามประจำจังหวัดภาคใต้และภาคเหนือ และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง เข้าร่วมงานจำนวน 350 คน ซึ่งมีลำดับงานดังนี้
เมื่อรองหัวหน้า คสช./หน.ฝกศ.ประธานในพิธีเดินทางถึงตึกสันติไมตรี (หลังนอก) นายชาติชาย บัลบาห์ อัญเชิญพระมหาคัมภีร์อัลกุรอาน
จากนั้น รองหัวหน้า คสช./หน.ฝกศ. กล่าวต้อนรับผู้เข้าร่วมงานสรุปสาระสำคัญว่า เดือนรอมฎอนคือเดือนที่พระมหาคัมภีร์อัลกุรอานได้ถูกประทานลงมาจากพระผู้เป็นเจ้าให้กับศาสดามุฮัมมัดเพื่อถ่ายทอดวิธีปฏิบัติในการดำรงชีวิตให้แก่มนุษย์ว่าต้องประพฤติตัวเช่นไรในโลกนี้และในโลกหน้า นับเป็นความประเสริฐที่ยิ่งใหญ่สำหรับพี่น้องชาวมุสลิมทุกคน สำหรับการปฏิบัติศาสนกิจในเดือนรอมฎอนนั้นถือว่ามีความสำคัญอย่างยิ่งที่พี่น้องชาวมุสลิมได้มีโอกาสทดสอบความเข้มแข็งทางด้านจิตใจ ร่างกาย และจิตวิญญาณ ด้วยการถือศีลอด การละเว้นอบายมุขทุกประเภท การยึดมั่นในการทำความดี ซึ่งจะทำให้เกิดความศรัทธาต่อพระผู้เป็นเจ้ามากขึ้น รวมไปถึงมีความเชื่อมั่นในศักยภาพของตัวเองเช่นกัน จึงเป็นเรื่องน่ายินดีที่พี่น้องมุสลิมได้ดำเนินตามหลักปฏิบัติของศาสนาอิสลามอย่างพร้อมเพรียงกันในเดือนรอมฎอน ซึ่งประเด็นหลักสำคัญคือเพื่อให้พี่น้องชาวมุสลิมได้แสดงความเคารพในพระผู้เป็นเจ้า ได้ฝึกฝนความอดทน มีความเมตตา เห็นอกเห็นใจผู้อื่น ซึ่งสิ่งดังกล่าวนี้จะเป็นปัจจัยพื้นฐานที่จะทำให้จิตใจผู้ปฏิบัติ มีความบริสุทธิ์งอกงามด้วยคุณธรรม อันจะส่งผลให้ชุมชน สังคม และประเทศชาติ มีความสงบสุขร่มเย็นต่อไป
พร้อมกันนี้ รองหัวหน้า คสช./หน.ฝกศ. กล่าวว่า ในโอกาสอันเป็นมงคลนี้ และในโอกาสวันตรุษอีดิลฟิตริที่จะเวียนมาบรรจบในเร็ววัน ในนามของ คสช. โดย พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา หัวหน้า คสช. ใคร่ขอพรอันประเสริฐจากพระผู้เป็นเจ้า โปรดประทานความผาสุกและสุขภาพพลานามัยที่สมบูรณ์แข็งแรงแด่พี่น้องชาวไทยมุสลิมทุกคน ขอให้มีความรักความสามัคคี ความเอื้ออาทรต่อกัน ตลอดจนมีความมั่นคงในวิถีอิสลามเพื่อความสำเร็จในสิ่งอันพึงปรารถนาทุกประการ
ต่อจากนั้น นายกาซี อิมติอาซ โฮเซน (H.E. Mr. Kazi Imtiaz Hossain) เอกอัครราชทูตสาธารณรัฐประชาชนบังกลาเทศประจำประเทศไทย ในฐานะผู้แทนเอกอัครราชทูตมุสลิมประจำประเทศไทย ได้กล่าวแสดงความยินดี จากนั้น นายอาศิส พิทักษ์คุมพล จุฬาราชมนตรี กล่าวขอบคุณและขอพร (ดุอา) แล้วผู้เข้าร่วมงานรับประทานอาหารร่วมกัน โดยก่อนหน้านี้ในเวลา 18.48 น. มีพิธีละศีลอด ณ บริเวณโถงกลาง และการละหมาดมักริบ ณ ตึกสันติไมตรี (หลังใน) ด้วย
กลุ่มยุทธศาสตร์และแผนการประชาสัมพันธ์ สำนักโฆษก
ที่มา: http://www.thaigov.go.th