วันนี้ (28 ก.ค.57) เวลา 19.19 น. ณ เวทีกลาง มณฑลพิธีท้องสนามหลวง พลตำรวจเอก อดุลย์ แสงสิงแก้ว รองหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ/หัวหน้าฝ่ายกิจการพิเศษ เป็นประธานในพิธีถวายเครื่องราชสักการะ จุดเทียนชัยถวายพระพรและถวายราชสดุดีเฉลิมพระเกียรติ สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร เนื่องในโอกาสวันคล้ายวันพระราชสมภพสมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร 28 กรกฎาคม พุทธศักราช 2557 โดยมีข้าราชการชั้นผู้ใหญ่ แขกผู้มีเกียรติ คณะกรรมการมูลนิธิ 5 ธันวามหาราช คณะกรรมการจัดงานบำเพ็ญกุศลและกิจกรรมเฉลิมพระเกียรติ “62 พรรษา มหาวชิราลงกรณ” และพสกนิกรทุกหมู่เหล่าเข้าร่วมพิธีตามลำดับพิธีดังนี้
รองหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ/หัวหน้าฝ่ายกิจการพิเศษ เดินขึ้นสู่เวทีและเข้าประจำ ณ แท่นเกียรติยศ วงดุริยางค์บรรเลงเพลงมหาฤกษ์ นายณวัฒน์ อิสรไกรศีล ประธานกรรมการจัดงานบำเพ็ญกุศลและกิจกรรมเฉลิมพระเกียรติ “62 พรรษา มหาวชิราลงกรณ” กล่าวรายงานถึงความร่วมมือในการจัดงานฯ จากนั้น ดร.จรินทร์ สวนแก้ว ประธานมูลนิธิ 5 ธันวามหาราช กล่าวรายงาน ต่อจากนั้น รองหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ/หัวหน้าฝ่ายกิจการพิเศษ ถวายคำนับหน้าพระสาทิสลักษณ์ เปิดกรวยกระทงดอกไม้ถวายเครื่องราชสักการะ ถวายคำนับ แล้วจุดเทียนชัยถวายพระพร
รองหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ/หัวหน้าฝ่ายกิจการพิเศษ กล่าวถวายราชสดุดีเฉลิมพระเกียรติและกล่าวนำถวายพระพรชัยมงคลหน้าพระสาทิสลักษณ์ ความว่า
ขอพระราชทานกราบบังคมทูล ทรงทราบฝ่าละอองพระบาท
ข้าพระพุทธเจ้า พลตำรวจเอก อดุลย์ แสงสิงแก้ว รองหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ผู้แทนหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ พร้อมด้วยปวงพสกนิกรชาวไทยทุกหมู่เหล่า ทั้งที่มาชุมนุมพร้อมกัน ณ บริเวณมณฑลพิธีแห่งนี้ และที่อยู่ในสถานที่ต่าง ๆ ทั่วประเทศ มีความปลื้มปีติเป็นล้นพ้นที่ได้มีโอกาสแสดงความจงรักภักดีและความสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณในใต้ฝ่าละอองพระบาท เนื่องในโอกาสศุภวาระเฉลิมวันคล้ายวันพระราชสมภพ วันที่ 28 กรกฎาคม พุทธศักราช 2557 ที่เวียนมาบรรจบอีกคำรบหนึ่งในวันนี้
ตลอดระยะเวลาหลายทศวรรษที่ผ่านมา เป็นที่ประจักษ์แจ้งชัดแก่ปวงชนชาวไทยทั้งมวลแล้วว่า ใต้ฝ่าละอองพระบาททรงบำเพ็ญพระราชกรณียกิจนานัปการ ตามรอยเบื้องพระยุคลบาทในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ โดยมิได้ทรงย่อท้อต่อความเหนื่อยยากเพื่อประโยชน์สุขของประชาชนและประเทศชาติทั้งหมดทั้งสิ้น โครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริต่าง ๆ ล้วนส่งเสริมให้ราษฎรเกิดการพึ่งพาตนเอง และเป็นการพัฒนาประเทศอย่างยั่งยืน พสกนิกรทั้งปวง ต่างชื่นชมโสมนัสและเทิดทูนในพระมหากรุณาธิคุณอันหาที่สุดมิได้ ใต้ฝ่าละอองพระบาทจึงทรงเป็นสมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร ที่สถิตแนบแน่นอยู่ในดวงใจของอาณาประชาราษฎร์โดยถ้วนหน้า
ในโอกาสอันเป็นมิ่งมหามงคลนี้ ข้าพระพุทธเจ้าขอพระราชทานพระราชานุญาต นำพสกนิกรทั้งหลายทั้งที่อยู่ในบริเวณมณฑลพิธีแห่งนี้ และในส่วนภูมิภาคทั่วพระราชอาณาจักร น้อมเกล้าน้อมกระหม่อมถวายพระพรชัยมงคลโดยพร้อมเพรียงกัน ดังนี้
“ข้าพระพุทธเจ้าทั้งหลาย ขอน้อมเกล้าน้อมกระหม่อมถวายพระพรชัยมงคล ขออารธนาคุณพระศรีรัตนตรัย และอำนาจสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลายในสากล โปรดอภิบาลบันดาลให้ใต้ฝ่าละอองพระบาท ทรงพระเกษมสำราญ พระชนมายุยิ่งยืนนาน พระพลานามัยสมบูรณ์แข็งแรง พระเกียรติคุณแผ่ไพศาลทั่วทุกทิศานุทิศ ทรงสถิตเป็นมิ่งขวัญร่มเกล้าแก่ปวงข้าพระพุทธเจ้า และพสกนิกรชาวไทยตลอดกาลนิรันดร” ด้วยเกล้าด้วยกระหม่อม
จากนั้น รองหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ/หัวหน้าฝ่ายกิจการพิเศษ ร่วมร้องเพลงสรรเสริญพระบารมี แล้วรับมอบโคมเทียนและร่วมร้องเพลงมาร์ชมหาวชิราลงกรณ พร้อมกับพสกนิกรทุกหมู่เหล่า ต่อจากนั้น เป็นการจุดพลุ ดอกไม้ไฟ และมหกรรมการแสดงดนตรี 4 ภาค เฉลิมพระเกียรติ
กลุ่มยุทธศาสตร์และแผนการประชาสัมพันธ์ สำนักโฆษก
ที่มา: http://www.thaigov.go.th