หัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติกล่าวต้อนรับคณะผู้นำในภาคธุรกิจอ้อยและน้ำตาลทั้งในกลุ่มอาเซียนเอเชีย และทั่วโลก ในโอกาสที่เดินทางมาประชุมงาน Asian Sugar Night in Bangkok ณ กรุงเทพฯ ระหว่างวันที่ 22-23 กรกฎาคม 2557 ที่ผ่านมา พร้อมกล่าวขอบคุณคณะผู้นำในภาคธุรกิจอ้อยและน้ำตาลจากต่างประเทศที่เข้าใจสถานการณ์ปัจจุบันของไทยและยังคงดำเนินธุรกิจกับประเทศไทยมาอย่างต่อเนื่อง โดยขณะนี้ สถานการณ์บ้านเมืองของไทยก็กลับสู่สภาวะปกติมากขึ้น ไม่เกิดสถานการณ์ที่แสดงถึงความรุนแรงใดๆ สะท้อนให้เห็นพัฒนาการของประเทศไทยที่มีแนวโน้มดีขึ้น ในระยะแรกที่คณะรักษาความสงบแห่งชาติต้องเข้ามาดูแลก็เพื่อต้องการหยุดความขัดแย้งทางการเมือง และเพื่อให้เศรษฐกิจของประเทศไทยและการดำเนินธุรกิจกับคู่ค้าขับเคลื่อนต่อไป โดยหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติได้เน้นย้ำว่า แม้ในขณะนี้ประชาธิปไตยในประเทศอาจจะหยุดชะงักไป แต่ขอให้มั่นใจว่าการค้าและความสัมพันธ์ระหว่างประเทศจะยังคงดำเนินต่อไป
หัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติและคณะผู้นำในภาคธุรกิจอ้อยและน้ำตาลต่างชื่มชมในความสัมพันธ์ทางการค้าระหว่างไทยและผู้ประกอบการธุรกิจอ้อยและน้ำตาลนานาประเทศที่มีมายาวนานหลายสิบปี โดยภาคธุรกิจอ้อยและน้ำตาลนับเป็นภาคธุรกิจที่มีความต้องการสูงในทุกภูมิภาค โดยประเทศไทยให้ความสำคัญภาคอุตสาหกรรมนี้เป็นลำดับแรกๆเพราะมีบทบาทสำคัญในการขับเคลื่อนและพัฒนาเศรษฐกิจทั้งในประเทศไทยและระดับโลก โดยมีแรงงานที่อยู่ในภาคอุตสาหกรรมนี้กว่า 1 ล้านคนและมีผู้ประกอบการธุรกิจอ้อยและน้ำตาลที่จดทะเบียนในประเทศมากกว่า 3 แสนราย มีโรงงานที่ผลิตน้ำตาลได้มากถึง 750,000 ตันต่อวัน สร้างมูลค่าการซื้อขายน้ำตาลทั้งในประเทศและนอกประเทศมากกว่าปีละ 2 แสนล้านบาท นอกจากนี้ ผลผลิตจากการผลิตน้ำตาล ยังก่อให้เกิดการลงทุนในภาคอุตสาหกรรมอื่นๆอีกมากมาย อาทิ การนำกากอ้อยไปผลิตเป็นพลังงานไฟฟ้า และพลังงานชีวภาพ
ในเรื่องการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานที่ผู้ประกอบการพิจารณาว่าจะเอื้อให้เกิดการขยายตัวในอุตสาหกรรมอ้อยและน้ำตาลในไทยมากขึ้นนั้น หัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติได้เน้นย้ำว่ามีนโยบายที่จะจัดสรรงบประมาณไปปรับปรุงเส้นทางคมนาคม ทั้งการสร้างถนน การสร้างรถไฟรางคู่ และการสร้างเส้นทางรถไฟเพื่อใช้ขนส่งเพิ่มเติมในบางพื้นที่ รวมถึงจะมีการปรับปรุงด่านศุลกากรบริเวณชายแดนให้สามารถระบายสินค้าและการจราจรได้รวดเร็วมากยิ่งขึ้น การดำเนินการจัดตั้งเขตเศรษฐกิจพิเศษตามชายแดนเพื่อรองรับ AEC และการเพิ่มประสิทธิภาพระบบอนุญาตการส่งออกน้ำตาลที่มีการขออนุญาตผ่านระบบ National Single Window ให้ดียิ่งขึ้น
ในโอกาสนี้ นาย Barry Callingham ประธานสมาคมน้ำตาลของกรุงลอนดอน ซึ่งเป็นหัวหน้าคณะผู้นำธุรกิจในภาคอุตสาหกรรมอ้อยและน้ำตาลที่มาเข้าพบหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติในวันนี้ได้กล่าวว่า มั่นใจในแผนการดำเนินงาน(Roadmap)ของคณะรักษาความสงบแห่งชาติ โดยเฉพาะแผนการพัฒนาเศรษฐกิจที่ยังคงดำเนินต่อไปและเน้นย้ำว่าคณะผู้นำธุรกิจในภาคอุตสาหกรรมอ้อยและน้ำตาลจะยังคงสนับสนุนการดำเนินงานของไทยต่อไป
ที่มา: http://www.thaigov.go.th