วันนี้ (27 มิ.ย.57) เวลา 09.30 น. ณ ตึกสันติไมตรี (หลังนอก) ทำเนียบรัฐบาล หม่อมหลวงปนัดดา ดิศกุล รองปลัดกระทรวงมหาดไทย ปฏิบัติหน้าที่ปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี เป็นประธานพิธีเจริญพระพุทธมนต์และเป็นประธานพิธีมอบเครื่องราชอิสริยาภรณ์เนื่องในโอกาสวันคล้ายวันสถาปนาสำนักนายกรัฐมนตรี ครบรอบปีที่ 82 โดยมีเลขาธิการคณะรัฐมนตรี รักษาการเลขาธิการนายกรัฐมนตรี ผู้บังคับบัญชากองทัพไทย หัวหน้าส่วนราชการในสังกัดสำนักนายกรัฐมนตรี ผู้บริหารและข้าราชการในสังกัดสำนักนายกรัฐมนตรี และแขกผู้มีเกียรติ เข้าร่วมในพิธี
หม่อมหลวงปนัดดา ดิศกุล รองปลัดกระทรวงมหาดไทย ปฏิบัติหน้าที่ปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี เป็นประธานพิธีเจริญพระพุทธมนต์ ตามลำดับจนจบพิธีสงฆ์ จากนั้นเป็นพิธีมอบเครื่องราชอิสริยาภรณ์
จากนั้น นางพัชราภรณ์ อินทรียงค์ รองปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี ได้กล่าวรายงานโดยสรุปว่า วันคล้ายวันสถาปนาสำนักนายกรัฐมนตรีครบรอบปีที่ 82 จะเวียนมาบรรจบในวันที่ 28 มิถุนายนนี้อีกครั้งหนึ่ง สำนักนายกรัฐมนตรีโดยสำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี สำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้ร่วมกันจัดงานในวันนี้ขึ้นเพื่อเป็นการระลึกถึงวันสถาปนาสำนักนายกรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 24 มิถุนายน 2475 ซึ่งเป็นวันเริ่มต้นการบริหารราชการแผ่นดินของนายกรัฐมนตรี และในโอกาสวันสถาปนาสำนักนายกรัฐมนตรี ครบรอบปีที่ 82 สำนักนายกรัฐมนตรีได้จัดให้มีพิธีมอบเครื่องราชอิสริยาภรณ์ ชั้นทวีติยาภรณ์ช้างเผือก ทวีติยาภรณ์มงกุฎไทย และเหรียญจักรพรรดิมาลา แก่ข้าราชการในสังกัดสำนักนายกรัฐมนตรี ซึ่งได้รับพระราชทาน ประจำปี พ.ศ. 2556 โดยในปีนี้มีผู้เข้ารับเครื่องราชอิสริยาภรณ์ และเหรียญจักรพรรดิมาลา รวม 170 ราย แยกตามลำดับชั้นเครื่องราชอิสริยาภรณ์ ดังนี้ ทวีติยาภรณ์ช้างเผือก 59 ราย ทวีติยาภรณ์มงกุฎไทย 51 ราย และเหรียญจักรพรรดิมาลา 60 ราย
โอกาสนี้ หม่อมหลวงปนัดดา ดิศกุล รองปลัดกระทรวงมหาดไทย ปฏิบัติหน้าที่ปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี เป็นประธานมอบเครื่องราชอิสริยาภรณ์แก่ข้าราชการในสังกัดสำนักนายกรัฐมนตรี เนื่องในวันคล้ายวันสถาปนาสำนักนายกรัฐมนตรี ประกอบด้วย เครื่องราชอิสริยาภรณ์ชั้นทวีติยาภรณ์ช้างเผือก 59 ราย ทวีติยาภรณ์มงกุฎไทย 51 ราย และเหรียญจักรพรรดิมาลา 60 ราย รวม 170 ราย พร้อมกล่าวให้โอวาทและอำนวยพรแก่ผู้ที่ได้รับพระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์ สรุปสาระสำคัญว่า ในนามของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา หัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ตลอดจนผู้บริหารของสำนักนายกรัฐมนตรีทุกคน มีความรู้สึกยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้มาร่วมในพิธีอันทรงเกียรติครั้งนี้ คือการอัญเชิญเครื่องราชอิสริยาภรณ์ชั้นทวีติยาภรณ์ช้างเผือก ทวีติยาภรณ์มงกุฎไทย และเหรียญจักรพรรดิมาลา ซึ่งถือเป็นเครื่องราชอิสริยาภรณ์ที่ข้าราชการผู้ได้รับพึงน้อมเกล้าน้อมกระหม่อมนำสู่การปฏิบัติราชการ ที่จะรักษาไว้ซึ่งพระบรมเดชานุภาพของพระองค์ท่าน ให้สถิตสถาพรอยู่กับตนเองและครอบครัวตราบชั่วกาลนาน ดังที่ได้ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมพระราชทานให้แก่ข้าราชการในสังกัดสำนักนายกรัฐมนตรีประจำปี พ.ศ. 2556 มามอบให้ข้าราชการผู้ได้รับพระราชทานในครั้งนี้เนื่องในโอกาสวันคล้ายวันสถาปนาสำนักนายกรัฐมนตรี ปีที่ 82
ปฏิบัติหน้าที่ปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ข้าราชการทุกคนที่ได้รับพระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์ในครั้งนี้ถือได้ว่าเป็นผู้ที่ได้ตั้งใจทำงานสนองพระเดชพระคุณประเทศชาติ สมแล้วกับที่ได้รับบำเหน็จความชอบ ที่องค์พระมหากษัตริย์ได้ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ พระราชทานแก่ผู้กระทำความดีความชอบเป็นประโยชน์ราชการโดยส่วนรวม และรับใช้พสกนิกรของพระองค์ท่านด้วยความมุ่งมั่นวิริยะอุตสาหะ ยึดมั่นในความสุจริต ยุติธรรม และหมั่นเพียรที่จะปฏิบัติให้สมกับคำว่าข้าราชการของแผ่นดิน พระองค์ท่านได้เคยมีพระบรมราชกระแสรับสั่งในครั้งหนึ่งว่า ข้าราชการไม่ว่าจะอยู่ในตำแหน่งอันใด ระดับใด ที่ไหน มีหน้าที่อย่างไร ล้วนมีส่วนสำคัญอยู่ในงานของแผ่นดินด้วยกันทั้งสิ้น ดังนั้น ทุกคนจึงต้องตั้งใจปฏิบัติหน้าที่อย่างเต็มกำลังความสามารถด้วยอุดมคติและปรัชญาอันมั่นคง ด้วยความเข้มแข็งและเสียสละ และระมัดระวังในการทำหน้าที่ทุกอย่างทุกประการ ให้เป็นไปอย่างเที่ยงธรรม ด้วยความระลึกรู้อยู่กับตัวเสมอว่า การปฏิบัติตัวปฏิบัติงานของตน มีผลเกี่ยวเนื่องถึงสุขทุกข์ของประชาชนในทุกเรื่องด้วยตลอดเวลา ความเจริญขึ้นหรือเสื่อมลงของประเทศชาติ ย่อมขึ้นกับการปฏิบัติหน้าที่ราชการของข้าราชการของแผ่นดินเป็นประการสำคัญ
“ ในขณะนี้โดยเฉพาะข้าราชการถือเป็นกำลังสำคัญของประเทศชาติบ้านเมืองเป็นอย่างยิ่ง กำลังอยู่ในสายตาของพี่น้องประชาชน ที่ข้าราชการจะต้องมุ่งมั่นปฏิบัติหน้าที่ และปฏิบัติตนให้เป็นแบบอย่างแก่สังคม เพื่อที่ประชาชนจะได้เกิดกำลังใจ และร่วมกันดำรงรักษาความร่มเย็นเป็นสุขให้เกิดขึ้นกับบ้านเมืองไทยอีกครั้งหนึ่งให้จงได้ เคยมีคำพูดมาโดยตลอดเวลาตั้งแต่บรรพชนว่า ข้าราชการผู้มุ่งมั่นปฏิบัติหน้าที่ เป็นเกียรติและเป็นศักดิ์ศรีให้เกิดขึ้น หาใช่จะสถิตอยู่แต่เพียงเฉพาะตนเอง แต่จะดำรงอยู่เป็นเกียรติประวัติจนถึงลูกถึงหลานไปอีกหลายชั่วชีวิตคนในตระกูลวงศ์แห่งตนเองของผู้เป็นข้าราชการ จึงขอให้ทุกคนได้มุ่งมั่นรักษาสัตยาธิษฐานประการนี้ให้อยู่กับตนเองตลอดไป และมีความภาคภูมิใจที่ได้เกิดมาเป็นคนไทยใต้ร่มพระบารมี มุ่งมั่นปฏิบัติหน้าที่ให้สมกับเป็นข้าราชการของพระองค์ท่าน” ปฏิบัติหน้าที่ปลัดสำนักนายกรัฐมนตรีกล่าว
ในตอนท้าย ปฏิบัติหน้าที่ปลัดสำนักนายกรัฐมนตรีได้กล่าวแสดงความยินดีกับข้าราชการผู้ได้รับพระราชทานพระมหากรุณาธิคุณในครั้งนี้อีกครั้งหนึ่ง และขออัญเชิญคุณพระศรีรัตนตรัย สิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลาย พระบรมเดชานุภาพแห่งล้นเกล้าฯ ทั้งสองพระองค์ได้โปรดพระราชทานพรรักษาให้ข้าราชการสำนักนายกรัฐมนตรีผู้ได้รับพระราชทานพระมหากรุณาธิคุณในครั้งนี้ ประสบแต่ความสุขความเจริญ และรักษาไว้ซึ่งเกียรติประวัติศักดิ์ศรี ของความเป็นข้าราชการของแผ่นดินไทยตลอดไป
กลุ่มยุทธศาสตร์และแผนการประชาสัมพันธ์ สำนักโฆษก
ที่มา: http://www.thaigov.go.th