หัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติกล่าวแสดงความยินดีต้อนรับรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศและการค้าวานูอาตูและคณะ พร้อมกล่าวชื่นชมไทยและวานูอาตูที่มีความสัมพันธ์ฉันท์มิตรมานานกว่า 3 ทศวรรษนับตั้งแต่สถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตระหว่างกันเมื่อวันที่ 21 กันยายน 2525
ในโอกาสนี้ หัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติได้ชี้แจงถึงสถานการณ์ทางการเมืองไทยและความจำเป็นในการเข้ามาบริหารประเทศของคณะรักษาความสงบแห่งชาติว่าเพื่อต้องการให้การพัฒนาประเทศดำเนินต่อไป และได้กำหนดแผนปฏิบัติการที่ชัดเจนในการเสริมสร้างให้ประเทศมีระบอบประชาธิปไตยที่เข้มแข็งและยั่งยืนไว้ 3 ขั้นตอน ซึ่งปัจจุบันอยู่ในขั้นตอนที่2 โดยมีการประกาศใช้รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย (ฉบับชั่วคราว) และแต่งตั้งสมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติแล้ว และขั้นตอนต่อจากนี้นั้นจะมีสภาปฏิรูปแห่งชาติเพื่อดำเนินการปฏิรูปประเทศในด้านต่างๆเพื่อให้มีการพัฒนาที่ยั่งยืนและการบริหารราชการแผ่นดินดำเนินไปอย่างมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น ทั้งนี้คาดว่าจะเสร็จเรียบร้อยภายในเดือนสิงหาคมนี้
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศและการค้าวานูอาตูแสดงความเข้าใจต่อสถานการณ์ทางการเมืองของไทยและขอสนับสนุนการปฏิรูปประเทศดำเนินไปได้ด้วยดี พร้อมทั้งได้กล่าวขอบคุณที่ไทยให้ความช่วยเหลือและการสนับสนุนวานูอาตูมาโดยตลอด โดยวานูอาตูให้ความสำคัญต่อความร่วมมือในกรอบต่างๆไม่ว่าจะเป็นทวิภาคี พหุภาคี หรือความร่วมมือใต้-ใต้ (South-South Cooperation)
ด้านการค้าและการลงทุน ถึงแม้ยังมีมูลค่าการค้าระหว่างไทยและวานูอาตูยังมีไม่มากนัก แต่ด้วยความร่วมมือระหว่างกันต่อจากนี้จะส่งผลให้ความสัมพันธ์ทางการค้าจะเพิ่มมากขึ้นในอนาคต ส่วนด้านความร่วมมือระหว่างประเทศ ไทยได้ให้ความช่วยเหลือต่อวานูอาตูในรูปแบบความร่วมมือทางด้านวิชาการโดยให้ทุนการศึกษาและฝึกอบรมบุคลากรวานูอาตูเพื่อมาฝึกอบรมในประเทศไทยในสาขาที่ไทยมีศักยภาพ อาทิ เศรษฐกิจพอเพียง สาธารณสุข การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ และความมั่นคงทางอาหาร และเนื่องในโอกาสที่กระทรวงการต่างประเทศของไทยจัดการประชุมคณะกรรมการเศรษฐกิจและสังคมแห่งเอเชียและแปซิฟิกแห่งสหประชาชาติ (UNESCAP) จึงเป็นโอกาสที่ดีที่ทั้งสองฝ่ายจะใช้เวทีนี้ในการหารือในประเด็นข้างต้นต่อไป
ด้านการประมง เนื่องจากวานูอาตูมีทรัพยากรธรรมชาติที่สมบูรณ์ เป็นแหล่งวัตถุดิบด้านประมงที่สำคัญ ประกอบกับไทยมีเทคโนโลยีด้านการประมงที่ทันสมัย หัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติจึงถือโอกาสนี้สนับสนุนให้ทั้งสองประเทศมีความร่วมมือด้านประมงและเชิญชวนผู้เชี่ยวชาญด้านการประมงของวานูอาตูมาศึกษาดูงานที่กรมประมงของไทย นอกจากนี้ประเทศไทยยังมีโครงการปะการังเทียม ซึ่งเป็นโครงการตามแนวประราชดำริ ซึ่งวานูอาตูสามารถนำแนวคิดนี้ไปประยุกต์ใช้เพื่อรักษาแหล่งเพาะพันธ์ปลาทูน่าอย่างยั่งยืนได้
ด้านการท่องเที่ยว ขณะนี้วานูอาตูกำลังก่อสร้างสนามบินขนาดใหญ่เพื่ออำนวยความสะดวกแก่นักท่องเที่ยวที่ต้องการเดินทางไปยังวานูอาตู โดยทางฝ่ายไทยพร้อมให้การสนับสนุนการท่องเที่ยววานูอาตูอย่างเต็มที่และยินดีที่จะแบ่งปันและแลกเปลี่ยนประสบการณ์ระหว่างกันเพื่อส่งเสริมการพัฒนาอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวของทั้งสองประเทศต่อไป
หัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติถือโอกาสนี้กล่าวขอบคุณวานูอาตูที่สนับสนุนและมีความเข้าใจต่อสถานการณ์ของไทยและให้การสนับสนุนไทยและผู้แทนจากประเทศไทยในการสมัครตำแหน่งต่างๆระหว่างประเทศด้วยดีมาโดยตลอด
อีกทั้งที่ไทยและวานูอาตูได้มีการลงนามบันทึกความเข้าใจว่าด้วยความร่วมมือทางวิชาการและการพัฒนา(Memorandum of Understanding on Technical Cooperation and Development) ซึ่งจะมีคณะเดินทางจากไทยไปเยือนวานูอาตูเพื่อศึกษาข้อมูลเกี่ยวกับสาขาที่วานูอาตูมีความต้องการรวมทั้งความร่วมมือเพื่อการพัฒนาด้านต่างๆในช่วงสิ้นปีนี้
ที่มา: http://www.thaigov.go.th