วันนี้ (11 มิ.ย. 57) เวลา 15.00 น. ณ ตึกสันติไมตรี ทำเนียบรัฐบาล นายเสข วรรณเมธี อธิบดีกรมสารนิเทศและโฆษกกระทรวงการต่างประเทศ พร้อมด้วย พ.อ.วินธัย สุวารี รองโฆษกกองทัพบก ได้ร่วมกันแถลงข่าว สรุปสาระสำคัญ ดังนี้
พ.อ.วินธัย สุวารี รองโฆษกกองทัพบก กล่าวว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ได้เน้นย้ำให้ข้าราชการช่วยกันทำให้ประเทศเดินหน้า มุ่งสร้างความเข้าใจถึงสถานการณ์ของประเทศ บนหลักการของเหตุผล และข้อเท็จจริงเพื่อให้ต่างประเทศมีความเข้าใจมากขึ้น โดยอธิบายให้ครอบคลุมทุกมิติถึงการทำงาน พร้อมกับกล่าวยืนยันว่า คสช.มีจุดมุ่งหมายเพื่อรักษาระบอบประชาธิปไตย ขอให้ข้าราชการช่วยกันผดุงรักษาไว้ การดำเนินการของ คสช.ในขณะนี้เป็นการหยุดระบอบประชาธิปไตยชั่วคราว เพื่อจัดระเบียบให้กระบวนการต่าง ๆ เสร็จสมบูรณ์ ตรงตามเจตนารมย์ของระบอบประชาธิปไตย
สำหรับเรื่องการทุจริต ที่หลาย ๆ ฝ่ายเป็นกังวล แสดงความห่วงใยผ่านสื่อต่าง ๆ โดยเฉพาะสังคมออนไลน์ หน.คสช ได้เน้นย้ำให้การดำเนินการทุกอย่างอยู่ในขั้นตอน ให้เป็นไปตามกระบวนการ มีการตรวจสอบที่ถูกต้อง พร้อมทั้งกล่าวยืนยันว่า ต้องการให้เกิดความปรองดองของคนในชาติ แต่จะไม่ปรองดองให้กับคนที่ทำความผิด และไม่ต้องการให้มีการกล่าวหาแบบลอย ๆ ผิดถูกให้เป็นไปตามพยานหลักฐาน และขั้นตอนของการพิสูจน์ตามกระบวนการของกฎหมาย ไม่ต้องการให้สร้างความเกลียดชังขึ้นในสังคม
ส่วนเรื่องของการบริหารราชการของ คสช.ให้เปรียบเทียบการบริหารราชการก่อนทำรัฐประหาร คือช่วง 6 เดือนก่อนวันที่ 22 พฤษภาคม กับหลังวันที่ 22 พฤษภาคม ว่าสังคมมีความเปลี่ยนแปลงไปในทิศทางที่ดีขึ้น เกิดความสงบมากขึ้น การสัญจรมีความคล่องตัว มีการตรวจยึดจับอาวุธสงคราม และยาเสพติดมากขึ้นจากผลการบังคับใช้กฎหมายอย่างจริงจัง
พ.อ.วินธัย สุวารี รองโฆษกกองทัพบก กล่าวถึงผลการประชุมของคณะกรรมการติดตามและตรวจสอบการใช้จ่ายงบประมาณภาครัฐ (คตร.) ซึ่งเป็นคณะกรรมการตรวจสอบการใช้จ่ายงบประมาณภาครัฐ และหน่วยงานรัฐวิสาหกิจ ในโครงการต่าง ๆ ว่า ได้มีการหารือถึงนโยบายในการตรวจสอบโครงการต่าง ๆ เพื่อให้โปร่งใส เกิดความคุ้มค่า ใน 3 ลักษณะดังนี้ 1.โครงการที่มีการตรวจสอบแล้ว คตร.เห็นสมควร ให้ดำเนินการต่อไปได้ 2.โครงการที่มีการตรวจสอบแล้ว พบว่าต้องทบทวน เปลี่ยนแปลง ให้ดำเนินการแก้ไขให้เหมาะสม ก่อนจะดำเนินการ และ 3.โครงการที่มีการตรวจสอบพิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสมให้ยกเลิก หยุดดำเนินการ
สำหรับโครงการที่ คตร.จะดำเนินการตรวจสอบเป็นโครงการที่มีแผนงานขนาดใหญ่ วงเงินเกิน 1,000 ล้านบาท โดยให้ฝ่ายต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องพิจารณาตรวจสอบและแจ้งให้ คตร.ทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป นอกจากนั้น จะเป็นโครงการที่ คตร.ได้พิจารณาจากเอกสาร และผลการรายงานจากฝ่ายต่าง ๆ เพื่อจัดชุดเฝ้าระวังและติดตามตรวจสอบ และจัดทำเป็นข้อเสนอให้ หน.คสช.รับทราบและพิจารณาต่อไป ซึ่งในเบื้องต้นที่ประชุม คตร.มีมติให้ตรวจสอบโครงการ 8 โครงการ และ 1 หน่วยงาน
กลุ่มยุทธศาสตร์และแผนการประชาสัมพันธ์ สำนักโฆษก
ที่มา: http://www.thaigov.go.th