วันนี้ (10 มิ.ย. 57) เวลา 15.30 น. ณ ตึกสันติไมตรี ทำเนียบรัฐบาล พ.อ.วินธัย สุวารี รองโฆษกกองทัพบก ร.อ.นายแพทย์ยงยุทธ มัยลาภ คณะโฆษกคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ฝ่ายพลเรือน พร้อมด้วยนายอำพน กิตติอำพน เลขาธิการคณะรัฐมนตรี และนายสมศักดิ์ โชติรัตนะศิริ ผู้อำนวยการสำนักงบประมาณ ได้ร่วมกันแถลงผลการประชุมคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) เพื่อขับเคลื่อนการบริหารราชการแผ่นดิน ครั้งที่ 1/2557 ซึ่งมี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ เป็นประธานฯ โดยที่ประชุมได้มีการพิจารณาเรื่องงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2557 และงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2558 และประเด็ดที่เกี่ยวข้อง สรุปสาระสำคัญ ดังนี้
นายอำพน กิตติอำพน เลขาธิการคณะรัฐมนตรี กล่าวว่า วันนี้ที่ประชุม คสช. ได้พิจารณาให้ความเห็นชอบในการที่จะให้มีการจัดประชุมของคณะรักษาความสงบแห่งชาติ เพื่อขับเคลื่อนการบริหารราชการแผ่นดิน โดยหัวหน้า คสช. ได้ให้แนวทางปฏิบัติว่า ให้ยึดโยงระเบียบวิธีการต่าง ๆ ว่าด้วยการเสนอเรื่องเข้าสู่ที่ประชุมคณะรัฐมนตรีเป็นหลัก โดยให้ปรับเข้ามาสู่การใช้ระบบกลไกของราชการตามนโยบายหัวหน้า คสช. ซึ่งการประชุมดังกล่าวจะมีหัวหน้าฝ่ายความมั่นคง ฝ่ายเศรษฐกิจ ฝ่ายสังคมจิตวิทยา ฝ่ายกฎหมายและกระบวนการยุติธรรม และฝ่ายกิจการพิเศษ คณะกรรมการตรวจสอบ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เข้าร่วมฯ โดยมีเลขาธิการคณะรัฐมนตรี และ พล.อ.อุดมเดช สีตบุตร รองผบ.ทบ. ทำหน้าที่เป็นฝ่ายเลขาฯ ในการพิจารณาเสนอเรื่องเข้าสู่ที่ประชุมฯ ทั้งนี้วัตถุประสงค์เพื่อให้การพิจารณาเรื่องต่าง ๆ เป็นไปตามระเบียบแบบแผนทางราชการปกติ และให้มีการตรวจสอบ ตลอดจนขอความเห็นจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้ชัดเจน
สำหรับเรื่องที่นำเข้าสู่คณะการรักษาความสงบแห่งชาติ เพื่อขับเคลื่อนการบริหารราชการแผ่นดิน นั้น จะเน้นในเรื่องการขออนุมัติ อนุญาตที่เกี่ยวข้องกับงบประมาณ ทั้งงบกลาง และการปรับแผนงบประมาณ ที่เป็นงบประมาณสำคัญที่จะต้องผ่านขั้นตอนขอความเห็นจากส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง รวมทั้งคณะกรรมการตรวจสอบ เพื่อให้เกิดความโปร่งใส ตรวจสอบได้ รวมทั้งโครงการแผนงานต่าง ๆ ตลอดจนร่างกฎหมาย ร่างระเบียบต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้อง และการแต่งตั้งโยกย้ายข้าราชการระดับสูง เป็นต้น
สำหรับการประชุมวันนี้ที่ประชุมฯ ได้มีการพิจาณาและรับทราบเรื่องต่าง ๆ ดังนี้
1. เรื่องการขับเคลื่อนงบประมาณและเร่งรัดการเบิกจ่ายงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2557 เพื่อให้มีการเบิกจ่ายให้เป็นไปตามเป้าหมาย เพื่อฟื้นฟูเศรษฐกิจและสร้างความเชื่อมั่น
2. การขับเคลื่อนงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2558 ซึ่งวันนี้คณะกรรมการรักษาความสงบแห่งชาติ เพื่อขับเคลื่อนการบริหารราชการแผ่นดินได้ให้ความเห็นชอบปฏิทินการจัดสรรงบประมาณฯ โดยจะต้องให้แล้วเสร็จพร้อมที่จะเสนอสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี เพื่อนำความกราบบังคมทูลฯ ภายในวันที่ 15 กันยายน 2557 และพร้อมใช้ในวันที่ 1 ตุลาคม 2557 ต่อไป
3. ที่ประชุมฯ เห็นชอบยุทธศาสตร์การจัดสรรงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2558 ซึ่งหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งในส่วนสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) กระทรวงการคลัง สำนักงบประมาณ ได้มีการประชุมหารือแล้ว โดยหัวหน้า คสช. ให้ทุกหน่วยงานราชงานจัดทำแผนการใช้จ่ายงบประมาณภายในวันที่ 30 มิถุนายน 2557 เพื่อให้เม็ดเงินใช้ได้ทันในเดือนตุลาคมนี้ และต้องสอดคล้องการทำงานทุกด้าน
สำหรับหลักการยุทธศาสตร์ดังกล่าว ให้น้อมนำหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว มาเป็นหลักปฏิบัติ โดยพิจารณาให้สอดคล้องกับแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ฉบับที่ 11 ( พ.ศ.2555 – 2559 ) และแผนอื่น ๆ รวมทั้งบทบาท หน้าที่ของภาครัฐในการให้บริการสาธารณะแก่ประชาชน ตลอดจนเจตนารมณ์และนโยบายของ คสช. เพื่อขับเคลื่อนเศรษฐกิจ และฟื้นฟูความเชื่อมั่น ทั้งนี้ มีวัตถุประสงค์ให้หน่วยงานภาครัฐนำไปใช้เป็นแนวทางในการกำหนดลำดับความสำคัญและเป็นเครื่องมือในการจัดสรรงบประมาณปี 2558 ให้เกิดประสิทธิภาพ ประสิทธิผล และวางพื้นฐานเพื่อรองรับการพัฒนาประเทศในระยาวต่อไป
นอกจากนี้ ที่ประชุมฯ ยังให้ความเห็นชอบเกี่ยวกับการใส่กำหนดข้อสัญญาอนุญาโตตุลาการ ทั้งนี้สืบเนื่องจากบริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) ได้มีแผนจัดหาเครื่องบินมาตั้งแต่ปี 2554 ซึ่งขณะนี้มีกำหนดที่จะต้องรับมอบเครื่องบินในเดือนกรกฎาคมและสิงหาคม 2557 นี้ ซึ่งในการรับมอบดังกล่าวจะต้องมีสัญญาในการกู้เงินเพื่อจ่ายค่าเครื่องบิน ในสัญญาระบุว่าจะต้องมีการใส่กำหนดข้อสัญญาอนุญาโตตุลาการ ซึ่งเป็นไปตามมติคณะรัฐมนตรี ถ้ากรณีที่รัฐวิสาหกิจหรือหน่วยงานของรัฐจะต้องใส่กำหนดข้อสัญญาอนุญาโตตุลาการในสัญญาดังกล่าวจะต้องขออนุมัติจากคณะรัฐมนตรี ซึ่งวันนี้ก็ได้ขออนุมัติจาก คสช. เป็นครั้ง ๆ ไป
ขณะเดียวกันที่ประชุม คสช. ได้สั่งการให้หัวหน้าฝ่ายเศรษฐกิจ ไปพิจารณาทบทวนสิทธิประโยชน์ต่าง ๆ ของหน่วยงานรัฐวิสาหกิจ โดยเฉพาะให้ตัดสิทธิประโยชน์ที่ไม่ใช่ผลตอบแทนและเงินปันผลออก เพื่อลดภาระค่าใช้จ่ายภาครัฐ ของรัฐวิสาหกิจ โดยเริ่มจากบริษัทการบินไทยฯ เป็นหน่วยแรก เช่น ตัดสิทธิตั๋วเครื่องบินพิเศษในการขึ้นเครื่องบินฟรี ของคณะกรรมการ เป็นต้น
รวมทั้ง ที่ประชุม คสช. ยังเห็นชอบให้โอนย้ายนายกิตติพงษ์ กิตยารักษ์ ปลัดกระทรวงยุติธรรม ไปเป็นที่ปรึกษาประจำสำนักนายกรัฐมนตรี โดยแต่งตั้งนายชาญเชาน์ ไชยานุกิจ รองปลัดกระทรวงยุติธรรม รักษาการแทน โดยการโอนย้ายเป็นไปด้วยความสมัครใจ
ด้าน ผู้อำนวยการสำนักงบประมาณ กล่าวว่า งบประมาณรายจ่ายประจำปี 2558 มีวงเงิน 2 ล้าน 5 แสน 6 หมื่น 5 พันล้านบาท เพิ่มจากปีงบประมาณ 2557 5 หมื่นล้านบาท หรือคิดเป็นร้อยละ 2 โดยวันนี้ได้มีการเสนอปฏิทินงบประมาณ ปี 2558 ต่อที่ประชุม คสช. ตั้งแต่ขั้นตอนการเห็นชอบกรอบงบประมาณ แผนยุทธศาสตร์ การจัดทำรายละเอียดงบประมาณ และเสนอร่าง พรบ. ที่จะต้องผ่านการพิจารณาของคณะกรรมาธิการ และฝ่ายนิติบัญญัติก่อนที่จะนำขึ้นทูลเกล้าทูลกระหม่อมต่อพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เพื่อลงพระปรมาภิไธย ประกาศใช้ ได้ทันตามกำหนด ซึ่งยุทธศาสตร์งบฯ ปี 2558 จะยึดเศรษฐกิจพอเพียง สอดคล้องนโยบายเร่งด่วน คสช. ในการฟื้นฟู เศรษฐกิจ และสร้างความเชื่อมั่นในทุกด้าน
ขณะที่ พ.อ.วินธัย สุวารี รองโฆษกกองทัพบก ได้กล่าวว่า ที่ประชุม คสช. ยังเห็นชอบการปรับลดวงเงินการจัดประชุมระดับรัฐมนตรีแห่งเอเชีย ว่าด้วยการลดความเสี่ยงจากภัยพิบัติ ครั้งที่ 2 ที่กระทรวงมหาดไทยเป็นเจ้าภาพ เพื่อให้สอดคล้องตามความจำเป็นจริง รวมทั้งหัวหน้า คสช. ได้ย้ำ ให้หน่วยงานราชการ เร่งแก้ปัญหาเร่งด่วน 3 ประเด็น คือ ดูแลค่าครองชีพพื้นฐาน ช่วยเหลือเกษตรที่มีรายได้น้อย และการปรับปรุงการพัฒนาแหล่งน้ำแหล่งน้ำเดิมให้ดีขึ้น เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชน รวมทั้งได้สั่งการให้ส่วนงานราชการให้ข้อมูลแก่ประชาชน เพื่อสร้างความเข้าใจที่ถูกต้องอย่างแท้จริง
อย่างไรก็ตาม ในวันศุกร์ที่ 13 มิถุนายน 2557 นี้ สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ สำนักงบประมาณ กระทรวงการคลัง จะมีการชี้แจงเรื่องแผนการเร่งรัดการเบิกจ่ายงบประมาณปี 2557 และกรอบงบประมาณปี 2558 ให้หน่วยงานต่างๆ ทั้งในส่วนภูมิภาค และส่วนกลาง รับทราบที่สโมสรทหารบก วิภาวดี และในทุกวันอังคารจะเป็นประชุม คสช. เพื่อขับเคลื่อนการบริหารราชการแผ่นดิน
กลุ่มยุทธศาสตร์และแผนการประชาสัมพันธ์ สำนักโฆษก
ที่มา: http://www.thaigov.go.th