นายจีรศักดิ์ สุคนธชาติ ปลัดกระทรวงแรงงาน พร้อมด้วยหม่อมหลวงปุณฑริก สมิติ รองปลัดกระทรวงแรงงาน ดร.อำมร เชาวลิต เลขาธิการสำนักงานประกันสังคม และหน่วยงานในสังกัดกระทรวงแรงงาน ลงพื้นที่เพื่อตรวจสอบความเสียหายเหตุหม้อน้ำระเบิด ณ บริษัท วงศ์พสิษฐ์ การพิมพ์ จำกัด ต.ท้ายบ้าน อ.เมือง จ.สมุทรปราการ และเยี่ยมลูกจ้างที่ประสบอันตราย ณ โรงพยาบาลสมุทรปราการ อ.เมือง จ.สมุทรปราการ สำหรับบริษัทดังกล่าวประกอบกิจการพิมพ์ผ้าคอทตอลโดยใช้เครื่องจักร เปิดดำเนินการมาแล้ว 8 ปี มีลูกจ้าง 40 คน จากการตรวจสอบความเสียหายเบื้องต้น มีผู้ได้รับบาดเจ็บทั้งหมด 22 ราย เข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลสมุทรปราการ 15 ราย อยู่ในห้องไอซียูรวม 3 ราย ได้แก่ โรงพยาบาลสมุทรปราการ 1 ราย โรงพยาบาลเมืองสมุทรปราการ 1 ราย และโรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ 1 ราย ที่เหลือ 7 รายบาดเจ็บเล็กน้อยสามารถเดินทางกลับบ้านได้แล้ว จากการตรวจสอบมีผู้ประกันตนที่พักอาศัยใกล้ที่เกิดเหตุจำนวน 3 ราย คือ นายนำโชค แก้วชาติ นายสมเพียร แก้วชาติ และนายทวี แก้วชาติ นอกจากนี้มีประชาชนซึ่งเป็นเด็กจำนวน 1 ราย คือเด็กหญิงนวมิตย์ แก้วชาติ ส่วนอีก 11 รายเป็นแรงงานต่างด้าว ทั้งนี้ผู้เสียหายทั้งหมดพักอาศัยอยู่ที่บ้านพักหลังโรงงานดังกล่าว ซึ่งปลูกสร้างเป็นห้องแถวจำนวน 9 ห้อง
ทั้งนี้ตามกฎหมายความปลอดภัยในการทำงานฯในส่วนที่เกี่ยวข้องระบุว่า โรงงานต้องมีการตรวจหม้อน้ำประจำปีและผู้ควบคุมเครื่องจักรต้องมีคุณสมบัติตามที่กฎหมายกำหนดด้วย หากไม่ดำเนินการจะมีความผิด ซึ่งจะมีโทษจำคุกไม่เกิน 1 ปี หรือปรับไม่เกิน 4 แสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
ต่อจากนั้นปลัดกระทรวงแรงงานและคณะผู้บริหารเดินทางตรวจเยี่ยมชุมชนด้านหลังโรงงานดังกล่าวที่เสียหายจากแรงระเบิด ซึ่งจากการตรวจสอบเป็นห้องแถวจำนวน 9 ห้องที่ได้รับความเสียหายทั้งหมด โดยส่วนใหญ่ผู้อาศัยเป็นแรงงานต่างด้าว พร้อมเดินทางไปตรวจเยี่ยมและมอบกระเช้าเพื่อเป็นขวัญและกำลังใจแก่ผู้ได้รับบาดเจ็บที่นอนพักรักษาตัวที่โรงพยาบาลสมุทรปราการ
"วันนี้หน่วยงานในสังกัดกระทรวงแรงงาน ทั้งกรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน และสำนักงานประกันสังคม ลงพื้นที่ตรวจสอบและให้การช่วยเหลือแรงงานที่ได้รับผลกระทบจากเหตุหม้อน้ำโรงงานระเบิด จากสาเหตุพบว่าในช่วงเวลาประมาณ 04.30 น. ของวันนี้ (17 ส.ค.57) ซึ่งเป็นช่วงที่คนงานพักผ่อน ได้เกิดปั้มน้ำชำรุดและไฟฟ้าดับ ทำให้น้ำไม่สามารถเลี้ยงอุณหภูมิในหม้อน้ำได้ จนทำให้เกิดการขยายตัวของไอน้ำ และไม่สามารถรับแรงดันได้จนเป็นสาเหตุให้เกิดการระเบิดในที่สุด ทั้งนี้ในช่วง 2 สัปดาห์ที่ผ่านมาได้เกิดเหตุการณ์ที่เกี่ยวข้องกับลูกจ้างถึง 2 ครั้ง ดังนั้นมาตรการในการรักษาความปลอดภัยในสถานประกอบการจะต้องหารือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งดำเนินการตรวจสอบพร้อมประสานผู้ว่าราชการจังหวัดด้วย เพื่อความปลอดภัยของลูกจ้างและนายจ้างในสถานประกอบการ "ปลัดกระทรวงแรงงาน กล่าว
กลุ่มงานเผยแพร่ประชาสัมพันธ์
ที่มา: http://www.thaigov.go.th